หลังจากเก็บตัวอยู่บ้านกันอยู่นาน ช่วงนี้ก็เริ่มมีสัญญาณว่า อีกไม่ช้าเราน่าจะได้ออกมาเที่ยวเล่นนอกบ้านกันได้บ้างแล้ว ทีนี้สนีกเกอร์คู่เดิมๆ ในตู้ ยางเริ่มเสื่อมไปบ้างหรือยังน้า แต่ถึงยังไม่เสื่อมก็ไม่เป็นไร หาคู่ใหม่เด็ดๆ มาเติม เป็นการเฉลิมฉลองผ่อนคลายล็อกดาวน์สักหน่อยก็แล้วกัน #หาข้ออ้างเก่ง ช่วงเดือนสิงหาคมนี่มีสนีกเกอร์งาน collab กับดีไซเนอร์แบรนด์ดัง แบรนด์แฟชั่นสายลึกออกมาถี่ๆ จนตามเก็บแทบไม่ทันกันเลย เราคัดเฉพาะคู่สำคัญๆ ที่แบบว่า #ของมันต้องมี มาให้การ์ซงได้จดลงลิตส์ไว้ตามเก็บกันแล้ว บางคู่ยังมีวางจำหน่าย บางคู่อาจจะต้องหาของ resale แล้ว แต่ก็อย่างที่บอกว่า ของมันต้องมีจริงๆ
1
Nike Air Jordan 1 Low Travis Scott x Fragment
ไม่ใช่แค่สองแต่มาถึงสาม สำหรับงาน collob ที่รวบรวมตัวเด็ดต่างวงการมาไว้ในสนีกเกอร์รุ่นดังอย่าง Air Jordan 1 Low ทั้ง Travis Scott เจ้าพ่อแร็พเปอร์สายแฟที่ขึ้นแท่นผู้ทรงอิทธิพลต่อการกำหนดเทรนด์ในยุคนี้ และ Hiroshi Fujiwara ดีไซเนอร์แดนปลาดิบสุดเท่ผู้กำหนดทิศทางแบรนด์ Fragment Design และถือได้ว่า เป็น influencer สายสตรีทตัวพ่อแห่งย่านฮาราจูกุ ด้วยชื่อชั้นระดับนี้สนีกเกอร์รุ่นนี้จึงเป็นศูนย์รวมแห่งความคูลทั้งจากฝั่งอเมริกา และฝั่งญี่ปุ่น
ในด้านดีไซน์นั้นเรื่องของรูปลักษณ์ก็มาในดีไซน์คลาสสิกของโมเดล Air Jordan 1 Low ที่เป็นโมเดลที่เข้าได้ง่ายกับทุกเพศทุกวัยทุกสไตล์ โดยดีไซน์พิเศษที่เพิ่มเติมเข้ามา คือ สีสันตัดกันแบบคัลเลอร์บล็อค ที่ประกอบไปด้วย สีขาว สีดำ สี Military Blue และสี Sail โดยเน้นลูกเล่นสี Military Blue บริเวณส้น ส่วนหุ้มข้อ และพื้นรองเท้าชั้นใน ส่วนสี Sail ละมุนๆ ที่เอามาเบรกความแรงของสีฟ้าแสบๆ นั้น พบเห็นได้ในส่วนเชือกรองเท้า และส่วนโลโก้ Swoosh อันเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ แต่ทั้งนี้ทีเด็ดอยู่ที่ โลโก้ Cactus Jack และ Fragment Design แบบนูนที่ส้นด้านซ้ายและขวา เป็นการประทับตราว่า Scott กับ Fujiwara ได้มายึดครองโมเดล Air Jordan 1 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Price : 5,500 บาท
Where & When : วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ nike.com
2
Nike LDWaffle x sacai x Fragment
อีกหนึ่งโมเดลสุดเท่ที่ได้ Fragment Design มาช่วยปรับลุคให้ดูเท่ล้ำ แถมยังได้แบรนด์ DNA ใกล้เคียงกันอย่าง sacai มาร่วมด้วยช่วยกันอัพเกรดความคูลไปอีกขั้นให้กับโมเดล LDWaffle ซึ่งโมเดลนี้เป็นการฟิวชั่นระหว่างซิลลูเอ็ตต์ไอคอน 2 รุ่นด้วยกัน นั่นก็คือ Waffle Daybreak และ LDV รุ่นนี้เป็นการหยิบซิกเนเจอร์ของทั้งสองโมเดลมามิกซ์เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ลิ้นรองเท้าแบบซ้อน 2 ชั้น เชือกรองเท้า และสัญลักษณ์ Swoosh ที่เบิ้ลมาสองขีด แล้วนำไปรวมกับโลโก้ที่มาจากแบรนด์ทั้ง 3 ที่อยู่ทับซ้อนกันทั้งบริเวณพื้นรองเท้าด้านใน และส้นรองเท้า
สำหรับส่วนบน Fujiwara เลือกใช้สี Light Smoke Grey สีเทาอ่อนเรียบเท่ และ สี Blackened Blue สีน้ำเงินเข้มเกือบดำ โดยนำมาใช้บริเวณตาข่ายกับหนังกลับพรีเมียม กลายเป็นโมเดลที่อัดแน่นด้วยรายละเอียด หน้าตาโดดเด่น แต่ด้วยความที่มาในเฉดสี neutral ที่สวมใส่ง่าย ทำให้กลายเป็นโมเดลที่โดนใจทั้งหนุ่มสายแฟ และหนุ่มสไตล์มินิมัลที่อยากเติมสไตล์ที่มีดีเทลซับซ้อนยิ่งขึ้น
Price : 6,100 บาท
Where & When : วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ nike.com
3
Converse x DRKSHDW TURBOWPN
สร้างความฮือฮอมาตั้งแต่งาน collab รอบที่แล้ว ที่ดีไซเนอร์ผู้มากับไอเดียดาร์ก ดิบ และแหวกแนวเสมออย่าง Rick Owens จับมือกับแบรนด์รองเท้าผ้าใบยอดฮิตอมตะนิรันดร์กาลอย่าง Converse ครีเอทซิลลูเอ็ตต์ใหม่ที่ทั้งเปรี้ยว ปัง และเท่กินขาด ให้กับโมเดลคลาสสิกอย่าง Chuck 70 จน sold out ภายในพริบตามาแล้ว คราวนี้กลับมาอีกครั้งกับ “TURBOWPN” ที่มาในรูปแบบสนีกเกอร์กึ่งบู๊ต High Top ที่อ้างอิงมาจากรองเท้าบาสเกตบอลรุ่นไอคอนิกในยุค 80s Converse Weapon
ซึ่งเท่าที่ดูจากภาพแล้ว ความโดดเด่นอยู่ที่วัสดุหนังสีดำที่ดูพรีเมี่ยม และส่วนลิ้นรองเท้าที่ยาวเป็นพิเศษคล้ายคลึงกับรุ่น TURBODRK งาน collab คราวที่แล้วที่เขาสามารถสร้างภาพจำใหม่ๆ ให้กับ Chuck 70 ได้ นอกเหนือจากความยาวแบบเอ็กซ์ตร้าแล้ว แบ็ดจ์ลายปักโลโก้ที่บ่งบอกชื่อรุ่นยังอวดฟอนต์เท่ๆ ได้เต็มที่ รุ่นนี้บอกเลยว่า ใครอินกับลุคสตรีทเอาไปคอมพลีตลุค All Black แบบไหนก็ปัง
Price : ราคายังไม่คอนเฟิร์ม
Where & When : เริ่มวางจำหน่ายทาง Converse.com และ RickOwens.eu วันที่ 31 สิงหาคมนี้
4
Junn J. x Reebok Pump Omni Zone II
ถ้าชอบแต่งตัวแนวไฮสตรีทคู่นี้พลาดไม่ได้จริงๆ เพราะดีไซเนอร์ตัวท็อปจากเกาหลีใต้อย่าง Junn J. นั้นขึ้นชื่อเรื่องซิลลูเอ็ตต์โอเว่อร์ไซส์เท่ๆ และสไตล์มินิมัลที่ดูมีอะไร และสนีกเกอร์สไตล์ chunky แบบ Reebok นี่ก็เข้าทางเขาเลยแหละ ยิ่งเคยประสบความสำเร็จจากการเมคโอเว่อร์โมเดลสุดฮิตอย่าง Instapump Fury และ Pump Court มาแล้ว คราวนี้มาจับโมเดล Pump Omni Zone II โมเดลคลาสสิกที่สวมใส่ง่ายกว่ารุ่นก่อนๆ แล้วแบบนี้จะไม่ให้เก็บเข้าคอลเล็กชั่นได้ไงล่ะ
ก่อนจะหาพรีมาส่องซูมดูดีเทลชัดๆ กันก่อน Pump Omni Zone II เวอร์ชั่น Junn J. มาพร้อมกัน 3 สีถูกระเบียบเป๊ะ ประกอบไปด้วย สีขาว สีดำ และสีน้ำตาลแทน ซึ่งแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ของโมเดลนี้ที่มักจะมาในสีสันแสบตา ในส่วนของรายละเอียดนั้นในเมื่อสีเรียบเฉดเดียวกันทุกส่วนแล้ว ทางดีไซเนอร์ได้เติมดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ลงไปให้ดูมีสไตล์ยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ดีเทลหนังเจาะรูเล็กๆ ทั่วตัวรองเท้าด้านบน การเดินตะเข็บ และโลโก้ The Pump รูปลูกบาสปั๊มนูนสะใจ และโลโก้ Junn J. ปั๊มจมเล็กๆ ด้านล่างของลิ้นรองเท้า รุ่นนี้บอกเลยว่า ดูดี ดูแพง และดูแฟชั่น ควรมีอย่างยิ่ง
Price : ประมาณ 9,000++ บาท
Where & When : วางจำหน่ายทาง reebok.com เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม
5
Supreme Air Force 1 Low
ถ้าชอบอะไรเรียบๆ สวมใส่ได้ทุกวัน สีสันถูกระเบียบ ใส่ไปเรียนก็ได้ ใส่ไปเที่ยวเล่นก็ดี งาน collab ใหม่ที่หาซื้อไม่ง่ายนักอย่าง สนีกเกอร์รุ่นดังจาก Nike ที่จับมือกับแบรนด์สุดเฟี้ยวอย่าง Supreme ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่ชอบอะไรที่ไม่โฉ่งฉ่าง แต่รับประกันความแรร์
อันที่จริงงาน collab ของโมเดลนี้กับ Supreme ปล่อยออกมาแล้วเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ครั้งนั้นปล่อยสีขาวเรียบๆ และสีดำล้วน พร้อม box logo ของ Supreme ออกมาเรียกน้ำย่อยกันก่อน พอกำลังจะเข้าฤดูหนาวถึงทยอยปล่อยสี Flax หรือสีน้ำตาลออกมาสมทบ ซึ่งในส่วนของดีไซน์นั้นต้องบอกว่า เล่นง่ายมากๆ เพราะโมเดลออริจินัลมาแบบไหนก็แบบนั้นเลย แค่เพิ่มเติม box logo ของ Supreme ลงไป ใส่โลโก้ซ้อนแบรนด์บริเวณพื้นรองเท้า แถมให้หน่อยก็คือ เชือกผูกรองเท้าสีแดงลายโมโนแกรม Supreme ที่มาช่วยเติมความ logomania ลงไปหน่อย อาจจะไม่หวือหวามาก แต่ก็เก็บได้ยาว แถมยังมาในราคาน่าคบหา ถ้าหาได้ก็สอยไว้ก่อนเถอะ
Price : ประมาณ 3,000++ บาท แต่แน่นอนว่า ราคา resell คงไปไกลแล้ว
Where & When : วางจำหน่ายแล้วทาง supremenewyork.com
6
Adidas Jeremy Scott Forum Wings 1.0 Money
มากกว่าความปังก็คือ ความเปรี้ยวอย่างบ้าคลั่งของงาน collab ที่จับคู่กันทีไรก็ “ฟาด” ไม่ยั้ง สำหรับดีไซเนอร์ที่มีความเล่นใหญ่มาเสิร์ฟให้สาวกแฟชั่นเสมออย่าง Jeremy Scott แห่งแบรนด์ Moschino ที่ทำให้สนีกเกอร์ติดปีกรุ่นนี้ฮอตฮิตในทุก edition จนต้องต่อเนื่องความปังจากปีค.ศ. 2003 มาถึงปีค.ศ. 2021 ขึ้นแท่นหนึ่งในไอเท็มป๊อปคัลเจอร์ยุค 2000s ที่โลกต้องจารึก
ซึ่งคราวนี้กลับมาแบบรวยๆ โดนใจสายฮิพฮอพ เพราะเขาเลือกบอมบ์โมเดล Forum ด้วยลายพิมพ์ธนบัตรบนหนังสี Bliss ทริมขอบด้วยแถบสี Green Night ซึ่งดีไซเนอร์รวยอารมณ์ขันอย่าง Scott ยังได้เติมกิมมิกเล็กๆ ลงไปในลวดลายพิมพ์ด้วยการใส่ภาพของเขาเองลงไปในลายพิมพ์ธนบัตรด้วย ส่วนดีเทลไอคอนิกอย่างปีกนั้นก็แน่นอนว่า ขาดไม่ได้อยู่แล้ว ใครอยากได้ก็ต้องไปตามล่ากันหน่อยเพราะ sold out ภายในพริบตาจริงๆ แต่ถ้าหาไม่ได้ก็อดใจรอหน่อย เพราะอีกไม่นานน่าจะมีแอ็กเซสซอรี่อื่นๆ ในไลน์เดียวกันทยอยปล่อยออกมาให้ตามสอยกันอีก
Price : 7,300 บาท
Where & When : วางจำหน่ายแล้วที่ adidas.co.th
7
ASICS x BAPE® GEL-1090™
สายสตรีทตัวจริงต้องถูกใจสิ่งนี้ เมื่อ ASICS แบรนด์สตรีทแฟชั่นชื่อดังจากฮาราจูกุอย่าง BAPE® หยิบสนีกเกอร์โมเดล GEL-1090™ ซึ่งเป็นรองเท้าวิ่งยุค 2000s ที่ขึ้นแท่นคลาสสิกของ ASICS มาปรับลุคด้วยแพตเทิร์นกราฟิกสุดไอคอนิกตามแบบฉบับของ BAPE® ให้กลายมาเป็นสนีกเกอร์ไลฟ์สไตล์ดีไซน์สตรีทสุดขั้ว
ด้วยความที่โมเดล GEL-1090™ เคยเป็นรองเท้าวิ่งมาก่อน การกลับมาในครั้งนี้จึงได้มีการนำเทคโนโลยี GEL™ ที่ช่วยรองรับแรงกระแทกมาใช้ทำให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่ต้องเดินเยอะๆ ในส่วนของดีไซน์ได้หยิบเอากลิ่นอายของย่านฮาราจูกุในช่วงต้นของยุค 2000s มาใส่ไว้ในลวดลายที่เต็มไปด้วยรายละเอียด
ดีเทลเด่นๆ อยู่ที่ลวดลายกรงเล็บเสือบริเวณด้านหน้า และด้านหลังของรองเท้า ที่เป็นซิกเนเจอร์ของโมเดล GEL-1090™ ในส่วนอัพเปอร์ และพื้นรองเท้าด้านในยังมาพร้อมกับลวดลาย คาโม่แพตเทิร์นสุดเท่ตามแบบฉบับของ A BATHING APE ในส่วนบริเวณด้านข้างของสนีกเกอร์นั้นเป็นลวดลายไอคอนฉลามสีส้มสุดจี๊ดของ BAPE ที่ทำให้สนีกเกอร์คู่นี้ยิ่งดูโดดเด่น และโลโก้ ASICS ที่อยู่บนลิ้นรองเท้าและส้นรองเท้าได้ถูกปรับให้เป็นภาพการ์ตูนเสือเพื่อสะท้อนถึงหนึ่งในโลโก้ระดับตำนานของ BAPE®
Price : 4,900 บาท
Where & When : วางจำหน่ายในวันที่ 29 สิงหาคม นี้ ทาง ASICS.com และ BAPE Thailand
Photos : Courtesy of Brands
