วงการเรือนเวลาในปีนี้ถือว่าเริ่มต้นได้คึกคักอยู่เหมือนกัน เพราะไม่ว่าจะมองไปทางแบรนด์ไหนก็ถือว่าสร้างสรรค์ผลงานเรือนเวลาคอลเล็กชั่นใหม่กันได้ดีไม่แพ้กันเลย พิสูจน์ให้เห็นเลยว่าวิกฤตไวรัสโควิด-19 ไม่เป็นอุปสรรคต่อการสร้างสรรค์แม้แต่นิดเดียว และนี่คือ 7 เรือนเวลาแห่งต้นปีค.ศ. 2020 ที่เราให้คะแนนเรื่องดีไซน์ รายละเอียด และลูกเล่นที่น่าสนใจไปเต็มร้อยคะแนนเลยล่ะ
___________
Urwerk C-3PO-Inspired UR-100 gold
แค่เห็นชื่อหนุ่มๆ หลายคนก็คงจะรู้แล้วว่าเรือนเวลาชิ้นล่าสุดจาก Urmerk ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเจ้าหุ่นยนต์ C-3PO ที่เป็นหนึ่งในตัวละครจากภาพยนตร์ Star Wars ด้วยการหยิบสีทองที่เป็นสีบนตัวของมันมาเป็นธีมสีหลักของโมเดล UR-100 และมีลูกเล่นที่น่าสนใจอยู่ตรงที่หน้าปัดสามเหลี่ยมด้านในจะหมุนไปในองศาฯ เดียวกับโลกที่หมุนรอบดวงอาทิตย์ด้วยล่ะ
___________
Piaget Altiplano Ultimate Concept
หลังจากสร้างความตื่นเต้นให้กับบรรดานักสะสมในงาน SIHH เมื่อสองปีที่แล้ว ล่าสุดเรือนเวลาที่ได้ชื่อว่า เป็นเรือนเวลาระบบกลไกที่มีความบางมากที่สุดในโลกถึง 2 มิลลิเมตรก็วางจำหน่ายแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีจุดเด่นแค่เรื่องความบางหรอกนะ เพราะกลไกการเดินประกอบด้วยชิ้นส่วนต่างๆ ที่ซ่อนอยู่นับร้อยชิ้นเลยล่ะ แถมยังแข็งแรง ทนทานมากกว่าทองคำถึง 2.3 เท่า เพราะที่มาจากโคบอลต์ผสมอัลลอยด์เลยทำให้ตัวเรือนไม่มีทางโค้งงอได้ง่ายๆ
___________
Hermès Arceau L’Heure de la Lune
เรือนเวลาเจ้าของรางวัล Calendar & Astronomy Watch Prize จากงาน GPHG 2020 ที่เปรียบเสมือนออสการ์ของวงการนาฬิกา มีเอกลักษณ์ดวงจันทร์สองดวงโดยหน้าปัดเวลาและวันที่จะเคลื่อนตัวผ่านเข้าไปบดบัง ทำให้เรารู้ลักษณ์ของดวงจันทร์เมื่อมองจากซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ในขณะนั้น มีมาให้เลือกทั้งหมดสามสีด้วยกัน ซึ่งพื้นของหน้าปัดแต่ละสีก็จะทำมาจากหินอุกกาบาตที่แตกต่างกันอย่าง Black Sahara ก็จะมีสีดำอมเทาในขณะที่ Martian meteorite เป็นเฉดสีอมเขียว ส่วน Lunar meteorite มีสีน้ำตาลและมีผิวสัมผัสขรุขระต่างจากหน้าปัดแบบอื่นๆ
___________
Bugatti x Jacob & Co. Chiron Tourbillion
รถยนตร์หรูและเรือนเวลาที่เป็นความชอบของหนุ่มๆ บางทีก็ไม่สามารถแยกจากกันได้อย่างไอเท็มชิ้นนี้จึงผสมผสานระหว่างทั้งสองโลกเอาไว้ด้วยกัน โดยที่แบรนด์นาฬิกาอย่าง Jacob & Co. ได้ทำการย่อขนาดเครื่องยนตร์ไฮเปอร์คาร์ Chiron ที่เป็นซีรีส์รถยนตร์สุดโด่งดังของ Bugatti มาเป็นตัวเรือน มีไฮไลต์อยู่ที่หากเรากดปุ่มด้านขวา เพลาข้อเหวี่ยงก็จะเริ่มขยับ ทำให้ลูกสูบขยับขึ้น-ลง และเทอร์โบทั้ง 2 ข้างก็จะเริ่มทำงาน เหมือนกับเครื่องยนตร์ต้นแบบเลยล่ะ
___________
Roger Dubuis Excalibur Diabolus in Machina
พระเอกคนใหม่ของ Roger Dubuis มาในดีไซน์แบบดุเท่ ที่เป็นการท้าทายใหม่อยากจะให้ทุกคนต้องประหลาดใจด้วยไอเดียที่มีความแปลกใหม่และแตกต่างออกไปจากแนวคิดในการดีไซน์เรือนเวลาแบบเดิมๆ ซ่อนความซับซ้อนของกลไกมินิทรีพีทเตอร์และฟลายอิ้งตูร์บิยองไว้ใต้หน้าปัดแบบ skeleton ที่โชว์เลขโรมันขนาดใหญ่ทางด้านบน เป็นตัวเลือกใหม่ๆ สำหรับการ์ซงที่ไม่อยากได้เรือนเวลาซ้ำกับใคร
___________
MB&F HM10 Bulldog RT
เรือนเวลาลำดับที่ 10 จากตระกูลเรือนเวลา Horological Machine ที่มีแนวการดีไซน์สุดแหวกแนวและดึงดูดความสนใจจากทุกสายตาได้ทุกรุ่น ตัวเรือนขนาดกะทัดรัดที่มีสัดส่วนโค้งมนแต่ปาดตรงที่ฝั่งด้านบน และมีกระจกแซพไฟร์คริสตัลทรงโดมโค้งที่เป็นจุดเด่นของเรือนเวลา ถึงจะเห็นขนาดใหญ่แบบนี้แต่มีนำ้หนักแค่เพียง 0.5 กรัมเท่านั้น และยังมอบอารมณ์สนุกให้กับทุกคนที่สวมใส่ด้วยการสลักข้อความ ‘Forget the Dog, Beware of the Owner’ ไว้บนฝาหลัง
___________
Audemars Piguet Royal Oak Double Balance Wheel Openworked
สานต่อประวัติศาสตร์ของตระกูล Royal Oak ด้วยดีไซน์หน้าปัดที่ตัดพื้นออกไป ซึ่งถือเป็นรุ่นแรกของเรือนเวลาในตระกูลเลยที่ตั้งใจเผยให้เห็นระบบกลไกแบบ Calibre 3132 ที่ซ่อนอยู่แต่ความพิเศษที่เพิ่มเข้ามาจนกลายมาเป็นชื่อรุ่นก็คือวงล้อด้านในที่เพิ่มเข้ามาสองชิ้นทำให้ระบบด้านในทำงานได้สมดุลมากขึ้น ทำให้การทำงานของระบบกลไกทำงานได้อย่างต่อเนื่องมากขึ้น นี่จึงเป็นเรือนเวลาที่ไม่ได้มีดีแค่ความสวยอย่างเดียวแต่ยังตอบโจทย์เรื่องฟังก์ชั่นอีกด้วย
┃Photos : Courtesy of Brands