ถ้ากระเป๋ารองเท้าเป็นตัวบ่งบอกสไตล์ของชายหนุ่มสักคนเก้าอี้ก็คงจะเป็นไอเท็มที่สะท้อนตัวตนของเจ้าของบ้านได้ดีที่สุดหลังจากกักตัวอยู่บ้านมานานร่วม 2 เดือนเราจึงอยากเปลี่ยนลุคให้บ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่วางปุ๊บสร้างคาแร็กเตอร์ให้บ้านดูเข้ากับสไตล์การแต่งตัวของเราขึ้นมาในทันที
Wassily Chair
by Marcel Breuer
เท่สุดในยุค Bauhaus คงต้องยกให้กับ Wassily Chair ที่ดีไซน์ขึ้นในช่วงปีค.ศ. 1925-1926โดย Marcel Breuerสถาปนิกและนักออกแบบเฟอร์นิเจอร์ชาวฮังกาเรียน เห็นดีไซน์ที่โดดเด่นด้วยโครงโลหะที่สร้างเส้นสายสวยๆ ให้กับเก้าอี้รุ่นเก๋าตัวนี้แล้วก็ไม่แปลกใจเลยเมื่อรู้ว่า Breuer ได้แรงบันดาลใจมาในขณะที่เขากำลังขี่จักรยานอยู่ โดยเขาได้นำท่อโลหะที่ใช้ในการทำโครงจักรยานมาดัดให้โค้งงอจนเกิดเป็นโครงสร้างของเก้าอี้รุ่นดัง สำหรับดีไซน์ของ Wassily Chair นั้นเขาได้แรงบันดาลใจมาจากฟอร์มของ Club Chair ที่มักจะถูกบุนวมจนรูปร่างหนาเทอะทะ แต่เขานำมาถอดสร้างใหม่ให้เหลือเพียงโครงสร้างที่เรียบง่าย ทำการขึงเบาะที่หนังด้วยผ้าแคนวาสหรือหนัง เวอร์ชั่นที่เปรี้ยวที่สุดก็คือ Wassily Chair ลายเสือที่เกิดจากการ collab ข้ามยุคกับแบรนด์ขวัญใจชาวสตรีทอย่าง Supreme
Style Match : เข้าได้กับหนุ่มหลากหลายสไตล์มากตั้งแต่เนี้ยบกริบ ยันหนุ่มสตรีท หรือจะหนุ่มสตรีทติดหรูสไตล์ Balenciaga ก็เข้าท่านะ
Price : ประมาณ 90,000 – 100,000บาท
Where to Buy : knoll.com
___________________________________
Barcelona Chair
by Mies van der Rohe and Lilly Reich
อีกหนึ่งเก้าอี้ทรงเท่กินขาดจากยุค Bauhaus ที่เราเดาว่า หนุ่มๆ หลายคนเห็นแล้วคงอยากเอาไปตั้งไว้ในบ้าน หรือจะอยู่ในออฟฟิสเอาไว้รับแขกก็ไม่น้อยหน้าใคร Barcelona Chair เกิดขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1929 โดยฝีมือการออกแบบของ Ludwig Mies van der Rohe จับมือกับสถาปนิกสาว Lilly Reich กลายเป็นเบาะทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส 2 อันที่ถูกจับวางเป็นพนักและเบาะรองนั่งบนโครงสเตนเลสสตีลทรงเพรียวบางที่มีดีไซน์โค้งมนตัดกับเส้นสายขึงขังของตัวเบาะ และในปีค.ศ. 1950 ได้มีการรีดีไซน์ใหม่ให้ลงตัวยิ่งขึ้น ด้วยการปรับโครงสเตนเลสสตีลให้เป็นชิ้นเดียวเชื่อมต่อกัน และใช้เบาะหนังเกรดพรีเมี่ยมอย่าง Bovine leather แทนที่หนัง pigskin สีงาช้างที่ใช้ในเวอร์ชั่นดั้งเดิม
Style Match : หนุ่มนักธุรกิจ ผู้บริหารยุคใหม่ที่ชอบแต่งตัวในลุคฟอร์มัล แต่ไม่อยากดูเรียบกริบจนกลายเป็นน่าเบื่อ
Price : ประมาณ 200,000 บาท
Where to Buy : knoll.com
___________________________________
Eames Lounge Chair and Ottoman
by Charles and Ray Eames
ถ้าอยากได้เก้าอี้นั่งเอนหลังสบายๆ แถมยังเท่สุดๆ ต้องเลานจ์แชร์รุ่นอมตะนิรันดร์กาลอย่าง Eames Lounge Chair เท่านั้น เก้าอี้เลาจน์แชร์ที่ทำจาก plywood และหนังชั้นเลิศตัวนี้เป็นผลงานของคู่สามีภรรยาชาวอเมริกันที่สร้างสรรค์ผลงานออกแบบชั้นครูในยุค Modern Age มากมายภายใต้ชื่อ The Eames Office และเก้าอี้รุ่นนี้ก็เป็นหนึ่งในผลงานที่เรายังได้พบเห็นจวบจนถึงทุกวันนี้ โดยเก้าอี้รุ่นดังที่ทั้งสองออกแบบให้กับ Herman Miller ในปีค.ศ. 1956 นั้นแรกเริ่มยังไม่มีสตูลสำหรับรองเท้านามว่า “Ottoman” ที่มาเสริมความสบายในภายหลังทั้งยังทำให้ดีไซน์ลงตัวไร้ที่ติ สำหรับดีไซน์นั้นได้แรงบันดาลใจมาจาก Club Chair สไตล์อังกฤษ ซึ่งดีไซเนอร์ตั้งใจให้เน้นความสบาย และไม่ดู “ดีไซน์จ๋า” แต่สุดท้ายกลายเป็นว่า ใครๆ ต่างก็ชื่นชอบทั้งในดีไซน์และความสบายของมัน ทำให้ยังคงผลิตและจัดจำหน่ายโดย Herman Miller จวบจนถึงทุกวันนี้
Style Match : หนุ่มออฟฟิศยุค Work From Home ที่ชื่นชอบสไตล์แบบกึ่งแคช่วล เอาไว้นอนดู Netflix คือเหมาะมาก
Price : ประมาณ 170,000 บาท
Where to Buy: chanintr.com หรือ store.hermanmiller.com
___________________________________
Corona Chair
by Poul M. Volther
เก้าอี้ดีไซน์เฟี้ยวฟ้าวแถมชื่อยังไปพ้องกับไวรัสโคโรน่าเข้าพอดีรุ่นนี้เป็นผลงานการออกแบบของ Poul M. Volther นักออกแบบชาวเดนมาร์ก ซึ่งปล่อยเก้าอี้รุ่นนี้ออกมาสร้างความฮือฮาให้กับแวดวงออกแบบในช่วงปีค.ศ. 1964 ด้วยตัวดีไซน์ที่เป็นการนำเบาะทรงรีแยกชิ้นมาเรียงต่อกันบนโครงเหล็กก็เรียกร้องความสนใจได้ดีแล้ว แต่ด้วยชื่อ “Corona” ที่แปลว่า “รัศมีของพระอาทิตย์” ยังทำให้เก้าอี้ดีไซน์จัดจ้านตัวนี้ได้รับความสนใจอย่างมากในยุคที่ชาติมหาอำนาจกำลังแข่งขันกันเดินทางสู่อวกาศ แต่ใช่ว่า จะเด่นแค่เรื่องดีไซน์เท่านั้น แต่เรื่องฟังก์ชั่นก็ถูกออกแบบมาให้รับกับสรีระได้อย่างพอดิบพอดี ถึงแม้เขาว่ากันว่า ดีไซน์มาให้เอื้อต่อการประหยัดต้นทุนเรื่องวัสดุก็ตาม จนทำให้ Corona Chair ยังมีวางจำหน่ายจวบจนถึงทุกวันนี้ภายใต้การผลิตและจัดจำหน่ายของ Erik Jørgensen
Style Match : Groovy ขนาดนี้หนุ่มสไตล์จัดอย่างสาวก Gucci น่าจะมีไว้ในบ้านสักตัว
Price : ประมาณ 120,000 บาท
Where to Buy : erik-joergensen.com
___________________________________
Panton Chair
by Verner Panton
เก้าที่มาในรูปทรงโค้งเว้าราวกับสรีระของสาวเซ็กซี่รุ่นนี้เป็นผลงานการออกแบบของ Verner Panton นักออกแบบและอินทีเรียดีไซเนอร์ชาวเดนมาร์กที่ในตอนแรกยังไม่มีซัพพลายเออร์คนไหนกล้าผลิตแถมยังถูกดีไซเนอร์ในแวดวงเดียวกันสบประมาทว่า “เก้าอี้แบบนี้นั่งไม่ได้จริงหรอก” จนกระทั่งในปีค.ศ. 1963 ผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง Vitra ตัดสินใจลองเสี่ยงดูสักตั้งแต่กว่าจะทำสำเร็จนั้นก็ต้องทดลองกันอยู่นานต้องโยนเก้าอี้ทิ้งไปหลายตัวเพราะข้อจำกัดของวัสดุที่ต้องอาศัยการลองผิดลองถูกอยู่หลายรอบนั่นเองจนในที่สุดเมื่อค้นพบสูตรลับด้านวัสดุที่ทำจากไฟเบอร์กลาสและโพลีเอสเตอร์ได้สำเร็จ Panton Chair สุดเซ็กซี่ก็ได้เสียงตอบรับอย่างล้นหลามและได้ถูกพัฒนาด้านวัสดุอย่างต่อเนื่องจนถึงปีค.ศ. 1999 และได้ขึ้นแท่นเก้าอี้ระดับตำนานของศตวรรษที่ 20 แบบที่ไม่มีอะไรมาหยุดมากั้นได้
Style Match : เหมาะสำหรับหนุ่มที่ชอบดีไซน์ล้ำไม่ซ้ำใคร และวัสดุแวววาวดึงดูดแสงแฟลช ถ้าใครชอบสไตล์ล้ำไม่แคร์โลกอย่าง Margiela ก็น่าจะเหมาะ หรือจะเป็นแนว Futuristic ไปเลยก็น่าจะ carry ได้
Price : ประมาณ 12,000 – 13,000 บาท
Where to Buy : vitra.com
___________________________________
The Red Blue Chair
by Gerrit Rietveld
แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เก้าอี้สี Solid หน้าตาล้ำขนาดนี้จะเป็นดีไซน์ที่มีอายุร่วมร้อยกว่าปีแล้ว ผลงานการออกแบบของ Gerrit Rietveld สถาปนิกนักออกแบบชาวดัตช์รุ่นนี้ถือกำเนิดมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1918 แรกเริ่มเก้าอี้ไม้บีชยังไม่ได้ถูกทาด้วยสีสดจัดแบบนี้ แต่ด้วยคำแนะนำของเพื่อนนักออกแบบร่วมอุดมการณ์อย่าง Bart van der Leck จึงทำให้เกิดไอเดียทาสีดำทั้งตัว จากนั้นในปีค.ศ. 1923 จึงถูกเพ้นต์ด้วยแม่สีสดๆ อย่างที่เห็น และกลายเป็นซิกเนเจอร์ที่ทำให้เกิดภาพจำติดตัว และขึ้นแท่น Museum Piece ไปเรียบร้อยแล้ว
Style Match : หนุ่มลุคเรโทรโมเดิร์นอย่าง Prada น่าจะชอบสไตล์ย้อนยุคที่ยังดูล้ำด้วยเส้นสายกราฟิกแบบเก้าอี้ตัวนี้
Price : ประมาณ 200,000 – 300,000 บาท
Where to Buy : cassina.com
___________________________________
Wiggle Side Chair
by Frank Gehry
เก้าอี้รุ่นแรกที่ทำจาก cardboard หรือกระดาษลัง ซึ่งเหมาะกับยุค sustainable เอามากๆ แต่ถึงลุคและแนวคิดจะล้ำขนาดนี้ แต่ก็เป็นเก้าอี้ที่เกิดมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1972 โดย Frank Gehry สถาปนิกชาวอเมริกันผู้สร้างสถาปัตยกรรมระดับแลนด์มาร์คไว้มากมายเป็นผู้ดีไซน์ขึ้นเพื่อเป็นการทดลองหาวัสดุทดแทนพลาสติกนั่นเอง ซึ่งไอเดียของเขาเกิดจากความทรงจำในวัยเด็กที่เขาเคยไปเยี่ยมร้านวัสดุก่อสร้างของคุณตาอยู่เป็นประจำ และกิจกรรมโปรดของเขาในตอนนั้นก็คือการนำเศษไม้มาสร้างหมู่บ้านเล็กๆ และวันหนึ่งเมื่อสถาปนิกคนดังมาเจอกับกองกระดาษลังที่ทิ้งไว้ข้างออฟฟิศเขาจึงนำมาทดลองทำเป็นเก้าอี้ดู และค้นพบว่าการใช้กาวผนึกกระดาษลังแต่ละชั้นๆ เข้าด้วยกันหากค้นพบมุมที่เหมาะสมจะสามารถผสานแต่ละชั้นจนกลายเป็นวัสดุที่แข็งแรงพอที่จะรองรับน้ำตัวคนได้อย่างสบายๆ
Style Match : หนุ่ม eco ผู้หลงใหลในกรีนไลฟ์สไตล์ แต่งตัวด้วยเนื้อผ้าจากธรรมชาติ แต่ยังคงรักในดีไซน์ที่ดูร่วมสมัยแบบหนุ่ม urban
Price : ประมาณ 25,900 บาท
Where to Buy : vitra.com, norserepublics.com
___________________________________
Pacha Chair
by Pierre Paulin
มาสายซอฟต์ๆ อบอุ่นกันบ้างกับ Pacha Chair ที่ออกแบบโดย Pierre Paulinนักออกแบบเฟอร์นิเจอร์และอินทีเรียดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศส ที่สร้างสรรค์เก้าอี้รุ่นนี้ขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1975 ที่พยายามใส่ความละมุนลงไปแทนที่ความขึงขังในงานดีไซน์ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยตั้งต้นด้วยการเติมความสง่างามให้กลับรูปทรงกลม ที่เขาพยายามหาสัดส่วนที่พอเหมาะ ซ่อนตะเข็บที่ห่อหุ้มโฟมด้านในให้มิดชิด กลายเป็นเก้าอี้ทรงกลมหน้าตาอบอุ่นแถมยังดีไซน์มาให้นั่งสังสรรค์บนพื้นห้องได้อย่างสบายๆ เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยเป็นที่สุด
Style Match : หนุ่มมินิมัลบุคลิกร่าเริง ยิ้มเก่ง เข้าถึงง่าย อบอุ่น รักธรรมชาติสไตล์หนุ่ม Jacquemus นี่แหละใช่เลย
Price : ประมาณ 130,000 บาท
Where to Buy : norserepublics.com
┃Photography : Courtesy of Brands