ภาพของหญิงสาวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสง่างาม ความเรียบง่ายและโก้หรู ที่เปี่ยมไปด้วยความคลาสสิกเหนือกาลเวลา คือ นิยามของความงดงามในแบบฉบับที่ White Asava ยึดถือมาโดยตลอด เฉกเช่นในครั้งนี้ที่ White Asava ยังคงตั้งมั่นอยู่บนพื้นฐานและปรัชญาการทำงานซึ่งได้รับการวางรากฐานไว้อย่างชัดเจนในคอลเล็กชั่นที่ผ่านมา และได้หยิบยกเอกลักษณ์และตัวตนของแบรนด์มารังสรรค์ต่อยอดให้มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น
โดยจุดเด่นสำหรับคอลเล็กชั่น White Asava ในปีนี้ อยู่ที่โครงเสื้อที่มีความหลากหลาย ซิกเนเจอร์ของแบรนด์ได้ถูกนำมาขยายความ ทั้งในเรื่องของวอลุ่ม ในเรื่องของรายละเอียด รวมไปถึงในเรื่องของสีสัน เพื่อตอบสนองความฝันของผู้หญิงในหลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงตั้งอยู่บนปรัชญาความงามในแบบฉบับที่ White Asava ที่ผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับเทคนิคที่ร่วมสมัยได้อย่างลงตัว
ความพิเศษสำหรับคอลเล็กชั่นนี้อยู่ที่ความหลากหลายทางโครงสร้าง ตั้งแต่โครงชุดที่มีความเรียบง่ายไปจนถึงโครงชุดที่มีวอลุ่มค่อนข้างใหญ่ โครงเสื้อที่พบเห็นได้ในคอลเล็กชั่นนี้ล้วนเป็นซิกเนเจอร์หลักของแบรนด์ อาทิ โครงเสื้อไหล่เดียว (One-shoulder) เคปเดรส (Cape Dress) โครงเสื้อที่มีความทะมัดทะแมงในสไตล์มัสคิวลีนอย่าง ลุคสูทและกางเกง (pantsuit) ตลอดจนโครงเสื้อทรงตรงที่เรียบง่ายพอดีรูปร่าง (Sheath) ไอคอนิกซิลลูเอตต์ของแบรนด์ยังถูกนำมาขยายต่อยอด เกิดเป็นโครงชุดที่มีความโดดเด่นในเรื่องของวอลุ่ม อันได้แก่ ทรงบอลกาวน์ (Ball gown) ที่พอดีสัดส่วนและรัดรูปบริเวณช่วงบนและกระโปรงบานฟูในช่วงล่างที่ให้ความรู้สึกดังเจ้าหญิงเมื่อสวมใส่หากแต่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายความคลาสสิก ชายกระโปรงทรงหางปลา (Mermaid) และทรงฟิตแอนด์แฟลร์ (Fit & Falre) ที่มีการปรับวอลุ่มให้มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของหญิงสาวที่มองหาชุดที่ขับเน้นความสง่างามและความเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง
เทคนิคการตัดเย็บและรายละเอียดที่ประณีตอันเป็นเอกลักษณ์ของทางแบรนด์ยังคงปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดในคอลเล็กชั่น อันได้แก่ เทคนิคการจับเดรป (Draping) ที่ช่วยขับเน้นความสง่างามและความอ่อนหวานในแบบเฟมีนีนให้กับผู้สวมใส่ การผสมผสานเนื้อผ้าต่างชนิดกัน (Material Blocking) การประดับตกแต่งด้วยโบ (Bow Detailing) ที่ในครั้งนี้ถูกขยายวอลุ่มให้ใหญ่มากยิ่งขึ้นและผสมผสานลงบนส่วนต่างๆของชุด ตลอดไปจนดีเทลการปักตกแต่งด้วยผ้าลูกไม้หรือลูกปัด (Emboidery) ลงบนเนื้อผ้า เพิ่มมิติความน่าสนใจแต่ในขณะเดียวกันก็คงความสง่างามและความคลาสสิกในแบบฉบับ White Asava อย่างชัดเจน ไอคอนิกดีเทลต่างๆ นี้เองได้ถูกขยายและผสมผสานเข้ากับเทคนิคการตัดเย็บรูปแบบใหม่ที่มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจับวอลุ่ม (Volume) การสร้างรูปทรงและโครงสร้างที่ชัดเจน (Structure) ผ่านเทคนิคการอัดพลีต (Pleating) การตกแต่งระบาย (Ruffle) เกิดเป็นผลลัพธ์ที่แปลกใหม่ แต่ยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิก เรียบโก้ และแฝงไปด้วยรายละเอียดที่น่าสนใจอันเป็นจุดเด่นของ White Asava เสมอมา
ในคอลเล็กชั่นนี้ เนื้อผ้าที่เลือกใช้ในการรังสรรค์ออกมาเป็นชุดเจ้าสาวของ White Asava นั้นประกอบไปด้วย เนื้อผ้าคุณภาพสูงที่มอบสัมผัสเรียบหรูเงางามอย่าง ผ้าไหม (Silk) ซึ่งในครั้งนี้ได้มีการนำเอาผ้าไหมไทยมาผสมผสานลงในคอลเล็กชั่นอีกด้วย อีกทั้งยังมีผ้าไหมซาติน (Silk Satin) ผ้าดัชเชสซาติน (Duchess Satin) ผ้าโบรเคดส์ (Brocades) รวมไปถึงผ้าที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและกลิ่นอายความอ่อนหวาน อย่างผ้าลูกไม้จากฝรั่งเศส (French Lace) และผ้าโปร่ง (Tulle) ที่ในครั้งนี้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความอ่อนหวาน พลิ้วไหว และสร้างวอลุ่มให้กับชุดเจ้าสาวได้อย่างลงตัว
เมื่อกล่าวถึงชุดเจ้าสาวย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่า สีขาวย่อมเป็นสีคลาสสิก ที่คนมักนึกถึงเป็นอย่างแรก แต่สำหรับ White Asava ในคอลเล็กชั่นนี้ ชุดเจ้าสาวจะไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่สีขาวอีกต่อไป ในครั้งนี้ White Asava เลือกที่จะนำเสนอเสื้อผ้าที่มีสีสันที่น่าสนใจ เข้ามาในคอลเล็กชั่น ไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง, สีส้ม, สีชมพูฟูเชีย, สีม่วง และสีเขียว ตอบสนองความฝันและไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงในหลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าไม่เพียงแค่ชุดเจ้าสาวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่ยังคงครอบคลุมถึงชุดเพื่อนเจ้าสาว (bridesmaid) หรือแม้กระทั่งชุดสำหรับงานราตรีต่างๆ ที่ต้องอาศัยการตัดเย็บที่พิถีพิถันและรายละเอียดที่มีความโดดเด่น ล้วนเป็นสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ในเสื้อผ้าของ White Asava เสมอมา สอดคล้องกับนิยามของความงามอันสะท้อนถึงตัวตนของแบรนด์อย่าง Timeless, Grace และ Effortless ที่บ่งบอกถึงปรัชญาแห่งความงามตามแบบฉบับของหญิงสาวของ White Asava ได้เป็นอย่างดี
สำหรับว่าที่เจ้าสาวหรือสาวปาร์ตี้คนไหน ที่หลงใหลในความงามที่คงความหรูหรา งามสง่าในแบบฉบับที่ไม่ต้องพยายามจนเกินไป White Asava คือคำตอบอันเเสนเรียบง่าย ทว่าตอบโจทย์ของคุณได้เป็นอย่างดี
┃Original Text : Torrinee