‘สกินแคร์’ เป็นเรื่อง Unisex? ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าใครก็หันมาใส่ใจตัวเองกันมากขึ้น แบบไม่จำกัดเพศ หรือวัย จะเห็นว่าทุกวันนี้ผู้ชายจำนวนไม่น้อยก็เดินเข้าสถาบันเสริมความงาม หรือใช้สกินแคร์ไม่ต่างกับสาวๆ แต่กระนั้นก็ยังมีคำถามมากมายว่าด้วยเรื่องการใช้สกินแคร์ ผู้หญิงกับผู้ชาย ต้องเลือกอย่างไร วันนี้ LIPS ที่ได้ พญ.พลอยลดา ธนาไพศาลวรกุล หรือคุณหมอพลอย ผู้ก่อตั้ง ลลลนาคลินิก มาช่วยข้อข้องใจกับคำถามยอดฮิตเพื่อประสิทธิภาพการใช้สกินแคร์สูงสุด
LIPS : ผู้หญิงกับผู้ชาย มีผิวที่แตกต่างกันไหม?
คุณหมอพลอย : ผู้หญิงกับผู้ชายมีความแตกต่างกันในเรื่องของสรีระวิทยาอันเนื่องมาจากพันธุกรรม ฮอร์โมน แต่เรื่องของผิวหนังนั้น ความจริงแล้วโครงสร้างและหน้าที่เหมือนกัน แต่มีรายละเอียดต่างกันไป เช่น ผู้ชายมีชั้นผิวหนังและชั้นไขมันใต้ผิวหนังที่หนากว่า ต่อมไขมันผลิตไขมันได้มากกว่า รูขุมขนกว้างกว่า แนวโน้มการเกิดสิวจะมากกว่าผู้หญิง แต่การเสื่อมของคอลลาเจนจะเกิดช้ากว่า ส่วนผู้หญิงจะมีโครงสร้างผิวที่บางและละเอียดกว่า โดยเฉพาะวัยหมดประจำเดือนจะทำให้คอลลาเจนเสื่อมอย่างรวดเร็ว จะเห็นชัดได้ว่าผิวแห้งและริ้วรอยต่างๆเกิดขึ้นมาก พูดง่ายๆ ว่าผู้ชายแก่ยากกว่าผู้หญิงจริงๆ ค่ะ ตามหลักการร่างกายและฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือฮอร์โมนเพศหญิง เป็นฮอร์โมนที่มีผลต่อคอลลาเจน ที่มีผลต่อผิวโดยตรง ยิ่งอายุมากการผลิตฮอร์โมนชนิดนี้ก็ลดลง จะทำให้ผิวแห้ง ริ้วรอยเพิ่มขึ้น ขณะที่ผู้ชายมีแอนโดรเจนหรือฮอร์โมนเพศชาย ฮอร์โมนนี้ไม่ได้มีผลกับคอลลาเจนผิว แต่จะเป็นเรื่องของการเจริญและการหลุดร่วงของเส้นผมมากกว่า ผู้ชายส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องเส้นผมเมื่ออายุเริ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเพศไหนก็จะมีข้อดีข้อด้อยที่แตกต่างกัน ซึ่งความจริงหลักๆ แล้วเรื่องของเครื่องสำอางหรือสกินแคร์ ก็ใช้ด้วยกันได้ค่ะ
LIPS : จำเป็นแค่ไหนกับการแยกประเภทสกินแคร์สำหรับผู้ชาย หรือสกินแคร์สำหรับผู้หญิง?
คุณหมอพลอย : หมอว่าถ้าจะแบ่งเรื่องสกินแคร์ให้ถูกต้องคือต้องตาม ‘สภาพผิว’ มากกว่า เช่น ผิวแห้ง ผิวผสม หรือผิวมัน ผิวแพ้ง่าย ไม่ว่าจะเพศใดก็ตาม เช่น ผู้ชายผิวมันมากกว่า ก็ต้องเลือกสกินแคร์ที่ช่วยควบคุมความมัน ลดการเกิดสิว ผู้หญิงที่ผิวแห้ง ก็ต้องเลือกครีมที่ให้ความชุ่มชื้นมากกว่าปกติ สกินแคร์ต่างๆล้วนก็มีหลักการเพื่อ ทำความสะอาด บำรุง ซ่อมแซม เสริมสร้างหรือปกป้องผิวหนังเหมือนกัน การเเลือกผลิตภัณฑ์ก็เลือกตามสภาพผิวของแต่ละคนมากกว่าค่ะ
ในปัจจุบันวงการสกินแคร์อาจจะมีเรื่องของความหลากหลายผลิตภัณฑ์มากขึ้น แยกเพศชัดเจนขึ้น เพื่อให้ผู้ชายซึ่งปกติไม่กล้าใช้สกินแคร์ กล้าใช้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแพคเกจหรือสีที่ดูเป็นผู้หญิงมากเกินไป รวมทั้งเรื่องของกลิ่นที่ของผู้หญิงอาจจะมีความหอมแบบที่ไม่เหมาะกับผู้ชายหรือเขาไม่ชอบซึ่งความจริงแล้วฟังก์ชั่นของสกินแคร์ตามทฤษฎี ควรใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เพียงแต่ว่าผู้หญิงอาจจะต้องใส่ใจในรายละเอียดมากกว่า เพราะผิวบาง แห้งและเกิดริ้วรอยง่ายกว่า
LIPS : ปัญหาสิวกับการใช้สกินแคร์
คุณหมอพลอย : สิวเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย โดยช่วงวัยรุ่นหรือช่วง 13-25 ปีจะเป็นวัยที่เกิดสิวได้มากที่สุด แต่บางคนในวัยทำงาน อายุมากขึ้นก็ยังมีสิวได้ค่ะ บางคนเป็นสิวจนอายุ 20 แล้วก็หายไป บางคนอายุ 40 แล้ว ก็ยังมีสิวได้ แล้วแต่สภาพผิว ฮอร์โมน รวมทั้ง ปัจจัยภาพนอกที่ต้องเผชิญ ไม่ว่าจะการสัมผัสแสงแดด ความร้อน ฝุ่นละออง สารเคมี มลภาวะ ความเครียด สุขลักษณะ มีหลายปัจจัยมากระตุ้น เวลาเป็นสิวแต่ละครั้งต้องสังเกตว่าเกิดจากอะไรด้วย อาจจะเป็นเพราะเราเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งเมคอัพ สกินแคร์ สบู่ แชมพู ยาสีฟัน เหล่านี้ต้องอาศัยการสังเกตร่วมกันรวมทั้งไลฟ์สไตล์ส่วนตัว การทำความสะอาดผิว การพักผ่อนนอนหลับ การลดความเครียด การออกกำลังกาย ดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระเพียงพอ ก็มีส่วนช่วยให้สภาพผิวดีขึ้นได้
LIPS : อยากให้คุณหมอแนะนำการสกินแคร์เพื่อดูแลผิวหลังคลายล็อคดาวน์ ที่ทุกคนยังคงต้องใส่หน้ากากอนามัย
คุณหมอพลอย : สิ่งที่หมอบอกคนไข้ทุกวันคือ ต้องล้างหน้าให้สะอาด และใช้ครีมบำรุงที่ให้ความชุ่มชื้นเป็นประจำ เพราะหากเมื่อไรก็ตามผิวขาดความชุ่มชื้นจะเกิดริ้วรอยง่าย ผิวระคายเคืองเกิดผื่นแพ้ง่าย ส่งผลให้เกิดสิวง่ายด้วยเช่นกัน ยิ่งก่อนนอนอาจจะเติมความชุ่มชื้นมากกว่าตอนกลางวัน เพราะเวลานอนหลายคนเปิดแอร์เย็น ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศมันแห้งกว่ากลางวัน ผิวก็แห้ง ส่วนตอนกลางวันสกินแคร์ที่เรียกว่าเป็นชิ้นเบสิค คือครีมกันแดด อย่างไรก็ต้องทาเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดป้องกัน photodamage หรือ photoaging ที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต นอกจากนี้หมอยังให้ความสำคัญกับสกินแคร์ในกลุ่มที่มี สาร antioxidants เพื่อปกป้องและเสริมสร้างผิวเป็นประจำ และสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Retinoic Acid หรือกรดวิตามิน A เพื่อช่วยในการผลัดเซลล์ผิวร่วมด้วยในตอนกลางคืน ช่วยลดสิว จุดด่างดำ และยังช่วยมีคุณสมบัติเป็น Anti-Aging อีกด้วย สุดท้ายนี้ในช่วงที่ทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัยทุกวัน อาจทำให้สิวขึ้นได้ง่าย แนะนำเปลี่ยนหน้ากากทุกวันหรือเมื่อเห็นว่าสกปรกแล้ว ใช้เนื้อเจลบางเบาและลดการแต่งหน้าหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่จะทำให้อุดตันผิวได้ง่ายขึ้นบริเวณที่สัมผัสกับหน้ากาก รวมทั้งสังเกตชนิดของหน้ากากว่าใส่แบบใดแล้วสิวเกิดขึ้นมาก ก็แนะนำเปลี่ยนชนิดหน้ากากด้วยค่ะ