ปีนี้ไม่ว่าเทรนด์ไหนจะมาแรงก็แล้วแต่ แต่การคำนึงถึงแมตทีเรียล Eco-friendly ยังคงเป็นประเด็นที่การ์ซงสายแฟควรให้ความสำคัญอยู่ สำหรับหนุ่มๆ ที่ยังไม่มีไอเท็มรักษ์โลกเลยสักชิ้น นี่ก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะเริ่มต้นจากไอเท็มง่ายๆ อย่างแว่นตากันแดดจาก 6 แบรนด์แฟชั่น ที่คำนึงถึงทั้งดีไซน์ และยังแคร์สิ่งแวดล้อม
Ace & Tate
สำหรับหนุ่มๆ ที่มองหาแว่นตาคุณภาพแบบไฮแบรนด์แต่ราคาไม่แรงมาก ก็คงจะรู้จักคุ้นเคยกับชื่อของ Ace & Tate กันเป็นอย่างดีว่า เป็นแบรนด์ที่เกิดมาจากความตั้งใจของ Mark de Lange ที่อยากสร้างแว่นตาดีๆ ในราคาย่อมเยาว์และเข้าถึงได้ง่าย โดยงานดีไซน์ของเขาจะเป็นสไตล์เรียบง่ายที่หยิบไปใส่กับ Casual Look ได้สบายๆ แต่จะเล่นสนุกกับสีสันของเลนส์แว่นตาแทน
เพราะคุณภาพที่ได้เกินราคานี่เองที่พาให้แบรนด์จากเนเธอร์แลนด์ เป็นที่รู้จักในระดับโลกภายในเวลาไม่กี่ปีหลังจากก่อตั้งในปี ค.ศ. 2013 แม้ว่าจะโด่งดังไม่ใช่เล่น แต่ก็ยังถือเป็นน้องใหม่สำหรับวงการรักษ์โลกอยู่ เพราะ Ace & Tate เพิ่งจะเปิดตัวคอลเล็กชั่นที่ใช้วัสดุรีไซเคิลคอลเล็กชั่นแรกไปได้ไม่นาน โดยเปลี่ยนมาเป็นไบโออะซิเตทที่ผลิตมาจากพืช และอะซิเตทรีไซเคิลที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ แทนการใช้อะซิเตทที่ผลิตได้จากโรงงาน ถึงวัสดุจะเปลี่ยนไปแต่ก็ยังคงคุณภาพไว้เหมือนเดิม ซึ่งในคอลเล็กชั่นรักษ์โลกนี้แบรนด์เปิดตัวทรงแว่นตากันแดดมาทั้งหมดสามทรงด้วยกันก็คือ Hudson, Byron และ Jack ที่ล้วนแล้วแต่เป็นทรงของแว่นตากันแดดที่ใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งหนุ่มๆ สามารถไปลองสวมใส่แบบดิจิทัลด้วยเลยที่เว็บไซต์ของแบรนด์ เพราะเขามี Visual Try Service ไว้ให้ทดลองกันด้วย
Visit site : aceandtate.com
___________________________________
Dick Moby
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นจาก Tim Holland และ Robbert Bettink ไปออกทริปโต้คลื่นด้วยกัน แต่มันดันกลายเป็นทริปที่แย่ที่สุดที่พวกเขาเคยไป เพราะชายหาดและทะเลเต็มไปด้วยขยะ หลังจากได้เห็นภาพที่สะเทือนอารมณ์เหล่านั้น ทั้งสองจึงตัดสินใจลงมือสร้างแบรนด์ Dick Moby ขึ้นในปี ค.ศ. 2012 เพื่อเปลี่ยนขยะเหล่านั้นให้กลายเป็นแฟชั่นไอเท็มอย่างแว่นตากันแดด
โดยแบรนด์นำเอาพลาสติก PET และโลหะเหลือทิ้งตามชายหาด มาผ่านกระบวนการแปรรูปให้กลายเป็นอะลิเตทรีไซเคิล และโลหะชิ้นใหม่ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปริมาณของเสียแล้ว กระบวนการแปรรูปนี่ยังมีการปล่อยก๊าซ CO2 ที่ทำลายชั้นบรรยากาศของโลกน้อยกว่าการผลิตปกติอีกแล้ว ในบางคอลเล็กชั่น Dick Moby ยังได้เลือกใช้ไบโออะซิเตทด้วยเช่นกัน การ์ซงที่อยากจะช้อปฯ แว่นตากันแดดจากแบรนด์นี้ก็สบายใจได้เลยล่ะว่าทุกขั้นตอนการผลิตเขาเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อมจริงๆ และอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เราอยากแนะนำแบรนด์นี้ให้ได้รู้จักก็อยู่ตรงที่แต่ละคอลเล็กชั่นที่ออกมา มาสีให้เลือกค่อนข้างเยอะมาก เมื่อเทียบกับแบรนด์แว่นตาอื่นๆ ทำให้เราหาแว่นตาที่เข้ากับตัวเองได้อย่างไม่ยากเลย
Visit site : www.dick-moby.com
___________________________________
ECO
หนึ่งในแบรนด์แว่นตารักษ์โลกที่มาก่อนเทรนด์นี้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 ที่เกิดมาจากความคิดแนวก้าวหน้าของ Alessandro Lanaro ที่เชื่อว่า ดีไซน์และนวัตกรรมรักษ์โลกสามารถผสมผสานกันได้ ECO จึงกลายเป็นแบรนด์ที่พิสูจน์ให้สาวกแฟชั่นได้เห็นว่า เหล่าแฟชั่นไอเท็มสุดหรูก็สามารถช่วยโลกได้เหมือนกัน โดยแบรนด์เลือกใช้วัสดุโลหะรีไซเคิลในการผลิตกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจากกรอบแว่นตาเก่า ที่กลายเป็นขยะไปแล้ว และใช้วัสดุที่ทำจากพืชอย่าง Castor Seed กว่า 63 เปอร์เซ็นต์ รวมไปถึงแผ่นพลาสติกที่ใช้บรรจุแว่นตาเองก็ยังทำจากเส้นใยไฟเบอร์ธรรมชาติเช่นกัน
ในส่วนของสไตล์แว่นตาของแบรนด์ Alessandro ดีไซน์ให้กรอบของแว่นตามีหลากหลายสไตล์ทั้งวินเทจ โมเดิร์น แต่ที่สำคัญยังออกมาในดีไซน์แบบยูนิเซ็กส์ ที่ไม่ว่าใครก็ใส่ได้ อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือสีของเลนส์ที่มาในโทนสีเบสิก ทำให้หนุ่มๆ สามารถนำไปใส่กับทุกลุคได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ทุกๆ การซื้อของการ์ซงยังช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวอีกด้วยน่ะ เพราะ ECO ยังมีโปรเจ็กต์ปลูกต้นไม้ตามจำนวนสินค้าที่จำนวนขายได้ เรียกว่าช้อปฯ แค่หนึ่งครั้งแต่ได้ช่วยโลกนี้ได้ถึงสองทางเลยทีเดียวล่ะ
Visit site : eco-eyewear.com
___________________________________
Proof
แบรนด์แว่นตาจากสามหนุ่มพี่น้อง Dame ที่ในช่วงแรกของแบรนด์ให้ความสนใจไปที่แว่นตาที่ผลิตจากไม้เพราะครอบครัว Dame มีความชำนาญในด้านนี้ ซึ่งมันก็ได้พาให้ Proof เป็นที่รู้จักมากขึ้นในระดับโลกหลังจากก่อตั้งได้ไม่กี่ปี หลังจากนั้นแบรนด์ก็ได้พัฒนาไปใช้วัสดุรีไซเคิลอื่นๆ มากยิ่งขึ้นอย่างโลหะรีไซเคิล สเกตบอร์ตเก่าที่ทำจากไม้เมเปิ้ลแคนาดา จนในที่สุด Proof ขึ้นมาเป็นแบรนด์แถวหน้าของวงการรักษ์โลก
เช่นเดียวกับแบรนด์ ECO เพราะทุกๆ การซื้อแว่นตาหนึ่งชิ้น Proof จะบริจาคเงินทุนให้กับองค์กรการกุศลต่างๆ เป็นจำนวน 10 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 300 บาท ซึ่งแต่ละคอลเล็กชั่นก็จะมอบให้องค์กรที่แตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น คอลเล็กชั่น Aluminum ที่ใช้โลหะรีไซเคิลก็จะมอบให้กับองค์กรด้านการศึกษา ในขณะที่คอลเล็กชั่น Wood ที่ใช้สเกตบอร์ดเก่าจากแคนาดาก็จะมอบให้กับองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม การ์ซงสามารถเช็ครายละเอียดเหล่านี้ได้ผ่านทางเว็บไซต์ของแบรนด์ อยากจะบริจาคให้องค์กรไหนก็เข้าไปช้อปฯ กันให้ตรงนะ
Visit site : iwantproof.com
___________________________________
Warby Parker
“แว่นตาดีๆ ไม่จำเป็นเป็นต้องแพง” เป็นเหตุผลให้กลุ่มผู้ก่อตั้งตัดสินใจสร้างแบรนด์ Warby Parker ขึ้น เพื่อตอบโจทย์สำหรับคนที่เคยเจอปัญหาเดียวกับพวกเขา ถึงจะวางจำหน่ายในราคาที่เข้าถึงง่าย แต่วัสดุรีไซเคิลที่นำมาผลิตก็อยู่ในคุณภาพดีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกรอบแว่นไบโออะซิเตทจาก Mazzucchelli หรือไทเทเนียมรีไซเคิลที่ได้มาจากเศษโลหะ ซึ่งแว่นตาทุกชิ้นจะถูกประกอบด้วยมือทั้งหมด จึงสามารถมั่นใจได้เลยว่า แว่นตากันแดดที่เราหยิบไปใส่ เป็นผลงานที่ประณีตจริงๆ
อีกหนึ่งเหตุผลที่เราคิดว่า ทำให้ใครหลายคนหลงรักในแบรนด์ก็คงจะเป็นความจริงใจและใส่ใจที่ได้จากบริการ Home Try-on เพราะเราสามารถเลือกตัวอย่างกรอบแว่นที่สนใจได้ทั้งหมด 5 กรอบไปทดลองใส่ก่อน เพื่อให้รู้ว่าแบบไหนที่เหมาะกับใบหน้าของตัวเอง ก่อนจะสั่งซื้อกรอบที่ถูกใจที่สุด ซึ่งมันช่วยให้ขาช้อปฯ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นมากๆ
Visit site : warbyparker.com
___________________________________
Woodzee
แค่ดูจากชื่อก็คงจะพอเดาได้ว่าแบรนด์นี้เขาใช้วัสดุจากธรรมชาติอย่างไม้มาเป็นวัสดุหลัก ในการทำแว่นตาคอลเล็กชั่นต่างๆ เพราะก่อตั้งขึ้นในเมืองชิโก แคลิฟอร์เนีย ซึ่งอยู่ใกล้กับพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรไม้อย่างภูเขา Sierra Nevada, อุทยานแห่งชาติ Joshua Tree แบรนด์จึงนำจุดเด่นนี้มาพัฒนาต่อให้กลายเป็นไอเท็มรักษ์โลก และนอกจากวัสดุใหม่แล้ว ยังได้นำเอาขยะไม้อย่างสเกตบอร์ด และโต๊ะมารีไซเคิลด้วยเช่นกัน Luke Winter เลยได้ตั้งชื่อแบรนด์ของเขาว่า Woodzee ที่ล้อไปกับคำว่า Wooden Sunglasses ที่แปลว่าแว่นตากันแดดที่ทำจากไม้ และยังบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ไปพร้อมๆ กันด้วย
นอกจากนี้แบรนด์ยังมีรีไซเคิลโปรแกรม ที่สามารถส่งสินค้าเก่าที่เคยซื้อ มาทำเป็นแว่นตากันแดดชิ้นใหม่ได้ ซึ่งโปรแกรมนี้จะช่วยลดปริมาณการใช้วัตถุดิบในการทำแว่นตาชิ้นใหม่ได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เรียกได้ว่าแค่ใช้ไอเท็มจาก Woodzee ก็สามารถช่วยรักษ์โลกได้ในทุกขั้นตอนเลยล่ะ
Visit site : woodzee.com
┃Photos : Courtesy of Brands