สาวตากลมโตเสียงหวานอย่าง มะปราง-อลิสาขุนแขวง ที่หลายคนรู้จักเธอในนาม “เอิงเอย” จากบทบาทในซิตคอมยอดฮิต เสือชะนีเก้ง ช่วงนี้นอกจากจะเริ่มเดินหน้าถ่ายละครเรื่อง เพลงรักเจ้าพระยา ของทางช่อง One และถ่ายซิตคอมเสือชะนีเก้งต่อไปแล้ว ถ้าหากมีเวลาว่างเมื่อไรมะปรางยังพยายามเจียดเวลามาอัพเดทเพจ MaprangAlisa ในเฟซบุ๊กและทำคลิปไลฟ์สไตล์ดูสบายตาผ่านทางแชนเนล Alrisaa ที่ถึงแม้จะทำออกคลิปออกมายังไม่มากนักแต่ก็มียอด Subscribe สูงแตะหลัก 180K เข้าไปแล้ว
ลิปส์ : เริ่มต้นทำคลิปในยูทูบคลิบแรกได้อย่างไร
มะปราง : ตอนแรกมีเพจท่องเที่ยวชื่อว่า minitravel book ค่ะ เริ่มจากโพสต์รูปเป็นเหมือนสมุดบันทึกที่เราได้ไปเที่ยวที่ต่างๆ วันหนึ่งถ้าเราย้อนกลับไปเที่ยวที่เดิมอีกรอบ เราจะได้กลับมาเปิดดูบันทึกการเดินทางของเรา ตอนแรกทำคนเดียวทีนี้เราก็ชวนเพื่อนอีกสองคนมาทำด้วย มีแก้ว-จริญญา กับเพื่อนอีกคนหนึ่งชื่อแพร เป็นเพื่อนที่มีไลฟ์สไตล์เหมือนๆ กัน สนิทกันเลยชวนมาใช้เพจนี้เป็นสมุดบันทึกความทรงจำด้วยกัน เป็นจุดเริ่มต้นในการต่อยอดมาเป็นวิดีโอ แล้วพอเราแยกมาทำช่องของเราเลยเราจะทำได้หลายหมวดหมูกว่า มีทั้งเรื่องท่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์ มีสิ่งที่เราชอบหลายๆ อย่าง
ลิปส์ : คลิปแรกในแชนเนลของตัวเองเป็นคลิปเกี่ยวกับอะไร
มะปราง : น่าจะเป็นคลิปที่ไปตลาดน้ำกับเพื่อนสามคนนี้ เป็นคลิปสั้นๆ ถ่ายไว้ขำๆ แล้วก็เอามาลงแชนเนล ยังไม่ได้พูดอะไรเยอะเลย เหมือนให้ดูบรรยากาศ ลงมาชิมลางดูว่า คนจะสนใจไหมนะ
คลิปต่อมาเป็นคลิปทริปไอซ์แลนด์ ตอนนั้นที่ไปยังไม่ตั้งใจว่า จะทำยูทูบ แต่เราถ่ายเก็บไว้อยู่แล้ว ก็เลยเอาฟุตเทจมาเรียงต่อกันเป็นคลิป ทริปนั้นเพื่อนๆ ไปเยอะ คนเริ่มเข้ามาดูเยอะ แล้วเราก็คิดว่า ไปทริปคราวหน้าเวลาทำคลิปเราจะสื่อสารกับคนดูให้เยอะกว่านี้ ให้เขาเข้าใจและสนุกไปกับเราด้วย เพราะเท่าที่สังเกตดู คนจะชอบให้เราพูดคุยกับเขามากขึ้น เราเป็นคนพูดเก่งอยู่แล้วด้วย คนก็น่าจะดูเพลินนะ
จุดประสงค์ในการทำคลิปท่องเที่ยวจะไม่เหมือนกับเพจ เพจคือการบันทึกว่า ไปอย่างไร มีอะไรน่าเที่ยวบ้าง แต่พอเป็นคลิปมันคล้ายกับเรากำลังพาเพื่อนไปเที่ยวด้วย ถ้าวัดจากตัวเองนะคะเวลาที่เราไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนเราจะชอบเข้าไปดูคลิปที่เขาพาไปเที่ยว ทำให้เรารู้สึกเหมือนเรากำลังไปเที่ยวกับเขาด้วย เลยอยากให้ทุกคนรู้สึกแบบเดียวกัน เวลาถ่ายจะทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนอยู่ด้วยกันตลอดทริป ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่า เปิดคลิปที่สนามบินตลอด เหมือนมาเจอกันที่นี่แล้วเริ่มเดินทางไปด้วยกันตลอดทริป
ลิปส์ : เท่าที่เราติดตามดูจะเห็นว่าแชนเนลของมะปรางจะแบ่งหมวดหมู่เป็นคลิปท่องเที่ยวบิวตี้กึ่งไลฟ์สไตล์คัพเว่อร์เพลงก็ดูจะเป็นคลิปประเภทที่คนดูชอบอยู่เหมือนกันใช่ไหม
มะปราง : คลิปคัพเว่อร์เพลงนี่เพิ่งจะมาทำช่วงโควิดนี่แหละค่ะ ร้องเพลงเป็นสิ่งท่ีเราชอบอยู่แล้ว แล้วเราก็ได้มีโอกาสทำรายการมะปรางจับไมค์ทางแพลทฟอร์มยูทูบของช่อง One31 ซึ่งมีคน subscribe ถึง 20 ล้านคนด้วยกัน แล้วเราก็ลองมาคัพเว่อร์เพลงลงช่องของเราเองบ้าง ซึ่งเราทำเองทั้งหมด มิกซ์เพลงเองด้วยค่ะ ลงทุนไปซื้อไมค์มาไว้ที่บ้านเลย
คลิปคัพเว่อร์เพลงแรกในช่องตัวเอง คือ คลิปเพลง “วาฬเกยตื้น” นั่นเป็นคลิปที่ทำให้อยากไปซื้อไมค์ เพราะคลิปนั้นเราใช้มือถืออัดธรรมดาเลยค่ะ เสียงก็ใสกิ๊งเหมือนใช้ไมค์ แต่คนเข้ามาดูถึง 700,000 กว่าวิว หลังจากนั้นเราก็คัพเว่อร์เพลงอื่นๆ ที่เราชอบตามมาเรื่อยๆ
ลิปส์ : เท่าที่ทำมาคลิปแบบไหนทำยากที่สุด
มะปราง :ร้องเพลงอาจจะยากที่สุด เพราะมันต้องมิกซ์เสียง แต่ขั้นตอนที่ยากที่สุดน่าจะเป็นการตัดต่อ แต่หลังๆ พอมีคนมาช่วยเราก็จะคอยไกด์เขา เพื่อไม่ให้เป็นการยากสำหรับเขาด้วย ต้องพยายามทำให้กระชับ เน้นประเด็นที่เราต้องการจะสื่อ อะไรที่เป็นเนื้อหาย่อยๆ ก็ตัดออกไป แต่ถ้าเป็นคลิปท่องเที่ยวเราเน้นความต่อเนื่อง ความเรียลก็อาจจะไม่ตัดออกเท่าไร
ลิปส์ : คลิปที่ฟี้ดแบ็คดีเกินคาด
มะปราง : คลิปแต่งหน้า everyday makeup คลิปเกี่ยวกับกล้องก็ฟิล์มไม่คิดว่า คนจะดูเยอะเหมือนกัน
ลิปส์ : เริ่มทำ Alrisaa TV มาได้ 2 EP แล้วดูเหมือนเริ่มจริงจังกับการทำรายการทางยูทูบมากขึ้นใช่ไหม
มะปราง : อันนี้จะเน้นเรื่องคุณภาพคลิป และเน้นให้ความรู้ค่ะ ไม่อยากทำให้ดูเล่นๆ จนเกินไป เหมือนเราทำหน้าที่เป็นพิธีกรเลย เหมือนเป็นเจ้าบ้านมาสัมภาษณ์ในเรื่องที่คนสนใจ อยากรู้อยากเห็นในช่วงนี้ มะปรางอยากให้แชนเนลของตัวเองมีคลิปหลายๆ ประเภทด้วยค่ะ ตอนนี้ยังหลากหลายไม่พออยากให้มีแยกออกไปอีก
ลิปส์ : มะปรางคิดว่าการเป็นดาราแล้วมีแชนเนลของตัวเองมีข้อดีอย่างไรบ้าง
มะปราง : ได้ทำอะไรที่เราอยากทำ ได้เผยตัวตนของเราที่คนอื่นไม่เคยเห็น เมื่อก่อนนี้คนจะรออ่านบทสัมภาษณ์ หรือดูรายการทีวีที่เราไปออก
“พอมีแชนเนลของตัวเองเราได้แสดงความชอบ แสดงตัวตนของเรามากขึ้น ให้คนเข้าถึงเราง่ายขึ้น เข้าถึงเรามากขึ้น ซึ่งมันก็ดีที่เขาได้รู้จักเราว่า เราเป็นคนอย่างไร”
ลิปส์ : ลิมิตในการเปิดเผยชีวิตส่วนตัวผ่านแชนเนลของตัวเองตั้งไว้ประมาณไหน
มะปราง : จริงๆ ไม่มีอะไรปิดบัง แต่ก็ยังรักษาสเปซส่วนตัวเอาไว้บ้าง อย่างครอบครัวเราอาจจะไม่ได้เอามาเปิดเผยให้คนติดตามแชนเนลดู เพราะคนที่บ้านเราเขาอาจจะไม่ได้เอ็นจอยกับการทำสิ่งนี้ ก็เลยไม่ได้ไปแตะตรงนั้นมาก อยู่แค่ความชอบของเราดีกว่า แต่ถ้าให้ทำเป็นครั้งคราวพอจะทำได้ค่ะ
ลิปส์ : ส่วนตัวคิดว่าทำยูทูบอย่างเดียวเป็นอาชีพได้ไหม
มะปราง : ได้นะคะ แต่เรื่องสปอนเซอร์น่าจะช่วยให้เราอยู่ได้มากกว่ารายได้จากยอดวิว ที่ต้องทำคลิปเยอะๆ ยอดวิวเยอะๆ ถึงจะได้เงินเป็นรายเดือนที่มั่นคงได้ ซึ่งกว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ก็ยากเหมือนกัน
ลิปส์ : สำหรับคนทำแชนเนลยูทูบต้องทำไปถึงจุดไหนถึงเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จ
มะปราง : คอนเท็นต์ดีก็พอแล้วนะ คอนเท็นต์ที่มีคุณภาพต้องให้อะไรกับคนดู ให้ความรู้อะไรบางอย่างที่ตรงไปตรงมา เปิดเผยให้มากที่สุด บางเรื่องในทีวีออนแอร์ไม่ได้ การมาอยู่ในแพลตฟอร์มเหล่านี้มันอิสระมากขึ้น มุมต่างๆ ในโลกที่ยังไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน ถ้าเราเอามันมาเปิดเผยก็จะได้ความสนใจจากคน เหมือนเราไปเปิดประสบการณ์เขานี่แหละคอนเท็นต์คุณภาพ
ลิปส์ : คลิปไหนเป็นคอนเท็นต์คุณภาพที่สุดของเรา
มะปราง : ยังไม่ได้มีตายตัวค่ะ เรายังอยู่ในช่วงหาโปรเจ็กต์ที่เราสนใจ เอาจริงๆ คอนเท็นต์ที่เราทำก็ยังอยู่ในรูปแบบที่คนอื่นเขาก็ทำกัน แต่เรามานำเสนอในรูปแบบของเรามากกว่าคนถึงได้สนใจ ซึ่งเป็นความสนใจที่มาจากตัวเรา ไม่ได้มาจากคอนเท็นต์ แต่อีกแบบหนึ่งคือ คนสนใจเพราะตัวเนื้อหาคอนเท็นต์เลย อันนี้ก็เป็นสิ่งที่เราอยากทำค่ะ
ลิปส์ : จริงไหมที่ว่าคอนเท็นต์เดียวกันดาราทำกับคนธรรมดาทำความสนใจที่ได้รับก็ต่างกัน
มะปราง : จริงๆ มันเป็นแค่ส่วนน้อยมาก ถ้าเป็นดาราคนจะสนใจชีวิตส่วนตัว แต่ถ้าให้ดาราไปพูดเรื่องมีสาระแต่พูดได้ไม่หมดเปลือก อาจจะติดเงื่อนไขบางอย่าง คนก็ไม่อยากดูแล้ว เพราะคนจะอยากรู้อะไรที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนในทุกแง่มุม
“บางคอนเท็นต์ดาราอาจจะมีความเสี่ยงในการให้ข้อมูล แต่คนปกติธรรมดาที่เขาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับตรงนี้เขาก็สามารถเปิดเผยได้หมดเปลือก มันก็เลยไม่แปลกที่ content creator บางคนเป็นคนปกติแต่ดัง สุดท้ายมันก็อยู่ที่คอนเท็นต์นั่นแหละค่ะ”
ลิปส์ : สิ่งที่กำลังจะเพิ่มเติมในแชนเนลของมะปรางเอง
มะปราง : ไม่ได้อัพเดทไลฟ์สไตล์ส่วนตัวมานานแล้ว ปีนี้จะพยายามอัพเดทให้มากขึ้น แล้วก็จะเอาคลิปท่องเที่ยวที่สต็อกไว้มาปล่อยให้ทุกคนได้ดูเสียที เพราะปีที่แล้วเที่ยวเยอะมาก คลิปร้องเพลงก็ยังทำเรื่อยๆ เหมือนเดิม พยายามสลับคอนเท็นต์กันไปค่ะ แต่จะได้ดูกันเรื่อยๆ แน่นอน
┃Photography : Nucha J.
┃Styling : Chanasorn P.
┃Makeup : Thossapol W.
┃Hair : Jatupong C.
┃ขอขอบคุณ W Bangkok Hotel