นอกจากรางวัลสาขาแบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายแห่งปีแล้ว ยังมีอีกหนึ่งสาขาจากเวที Council of Fashion Designers of America ที่สายแฟควรจับตามองเช่นกัน ก็คือสาขาดีไซเนอร์ออกแบบเสื้อผ้าผู้ชายแห่งปี เพราะดีไซเนอร์ที่จะคว้ารางวัลสาขานี้ไปได้ต้องเก่งสมรางวัลจริงๆ อย่างหนุ่ม Raf Simons หรือ Rick Owens ที่เคยได้รางวัลนี้ไปครอง ในช่วงระหว่างที่รอผลประกาศรางวัล เราก็ขอพาไปทำความรู้จักกับ 5 แบรนด์และผลงานของดีไซเนอร์ผู้เข้าชิงในปีนี้ก่อน ว่าใครที่น่าจะมีโอกาสคว้ารางวัลนี้ไปได้บ้าง
Pyer Moss by Kerby Jean-Raymond
เริ่มต้นกันที่แบรนด์แฟชั่นของ Kerby Jean-Raymond หนุ่มดีไซเนอร์ผิวสีลูกครึ่งเฮติ-อเมริกัน ผู้ค้นพบความชื่นชอบในด้านแฟชั่นมาตั้งแต่เด็กๆ จนได้เข้าเรียนอย่างจริงจังที่ High School of Fashion Industries Manhattan และทำงานให้กับดีไซเนอร์มากมายไม่ว่าจะเป็น Kay Unger, Georgina Chapman, Keren Craig, Marc Jacobs ก่อนจะเปิดแบรนด์แฟชั่นของตัวเองภายในชื่อ Pyer Moss ซึ่งมีที่มาจากชื่อของคุณแม่ของเขา
ถึงแม้ว่าจะเพิ่งก่อตั้งแบรนด์ได้เพียงแค่ 7 ปีเท่านั้นแต่ Pyer Moss ก็สามารถขโมยสปอร์ตไลท์จากแบรนด์แฟชั่นอื่นๆ ได้ตั้งแต่ปีแรกที่เพิ่งเริ่มก่อตั้ง และทำผลงานโดดเด่นมาตลอดจากการหยิบจับเอาประเด็นสังคมต่างๆ มาสร้างสรรค์ลงบนแฟชั่นไอเท็ม เพื่อเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียง และช่องทางการสนับสนุนด้วยวิธีที่เขาชำนาญ นั่นก็คือการออกแบบเสื้อผ้า โดยเฉพาะในช่วงปีค.ศ. 2018 – 2020 ที่เคอบี้ได้ผลักดันให้แบรนด์กลายเป็นดาวเด่นของ New York Fashion Week ด้วยการหยิบจับเอาประเด็นในสังคมของชาวแอฟริกัน-อเมริกันที่เป็นตัวตนส่วนหนึ่งของเขาขึ้นมาอยู่บนรันเวย์ ซึ่งทำให้ประเด็นเรื่องการเหยียดสีผิวเริ่มกลับมาเป็นที่พูดถึงวงการแฟชั่น และเมื่อรวมกับกระแส #Blacklivesmatter แล้ว ก็ยิ่งส่งเสริมให้สังคมให้ความสนใจกับประเด็นนี้อย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น เราจึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมถึงได้มีชื่อของเขาติดเขามาในลิสต์ของปีนี้ด้วย
Visit Site : www.pyermoss.com
_____________________________________________
Thom Browne by Thom Browne
เป็นชื่อที่ทำเอาเราตื่นเต้นกับการลุ้นประกาศผล CFDA ปีนี้มาก เพราะ Thom Browne ดีไซเนอร์ผู้ที่เคยคว้ารางวัลนี้ไปแล้วถึงสามครั้งในปี ค.ศ. 2006, 2013 และ 2016 กลับมามีชื่อเป็นผู้เข้าชิงของปีนี้อีกครั้ง ใครหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า แบรนด์ที่มีงานดีไซน์สุดแหวกแนวนี้ เคยเริ่มต้นมาจากการเป็นแบรนด์ออกแบบสูทผู้ชายสุดเนี้ยบมาก่อน ซึ่งมาจากภาพจำของบราวน์ที่เห็นพ่อของเขาสวมสูทสีเทาทำงานทุกวัน นั่นจึงทำให้ไอเท็มอย่างสูทสีเทากลายเป็นซิกเนอเจอร์ของแบรนด์ในช่วงปีนั้น ก่อนที่บราวน์จะเริ่มพัฒนาไอเท็มแนว Tailoring อื่นๆ และเปิดตัวไลน์เสื้อผ้าผู้หญิงที่เป็นไอเท็มในแนวเดียวกันในปี ค.ศ. 2011
แบรนด์ได้รับความสนใจอีกครั้งหลังจากที่อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งอย่าง Michelle Obama หยิบชุดเดรสสีดำล้วนของบราวน์ไปใส่ในวันรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองของ Barack Obama ซึ่งทำให้ไลน์เสื้อผ้าผู้หญิงของแบรนด์ได้รับความนิยมขึ้นมาทันทีหลังจากงาน ในขณะที่เสื้อผ้าผู้ชายเองก็เปลี่ยนทิศทางดีไซน์จากเดิมที่เป็นงาน Tailoring ในแบบของหนุ่มผู้ดี มาเป็นการรื้อถอนโครงสร้างสูทแบบเก่าๆ และหันมาเล่นกับความเป็น Androgynous ซึ่งการเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ดีไซน์ที่สุดขั้วแบบนี้ เรียกได้ว่าเสี่ยงมากที่กระแสความนิยมของแบรนด์จะลดลง แต่ไม่ใช่กับ Thom Browne เลย เพราะดูเหมือนสาวกแฟชั่นจะชื่นชอบภาพลักษณ์ใหม่นี้มาก จนในที่สุดแบรนด์ก็สามารถคว้ารางวัลดีไซเนอร์ออกแบบเสื้อผ้าผู้ชายแห่งปี ค.ศ. 2016 ไปได้ ต้องมาติดตามกันต่อไปว่า ปีนี้บราวน์จะได้รับรางวัลนี้ได้เป็นครั้งที่สี่หรือเปล่า
Visit Site : www.thombrowne.com/th
_____________________________________________
BODE by Emily Adams Bode
แบรนด์แฟชั่นจากดีไซเนอร์หญิงคนเดียวในรายชื่อผู้เข้าชิงของปีนี้ ซึ่งเราเชื่อว่า สาวกแฟชั่นชาวไทยน่าจะยังไม่ค่อยรู้จัก BODE มากเท่าไร เพราะแบรนด์เพิ่งจะก่อตั้งได้เพียงแค่ 4 ปีเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะยังดูเป็นแบรนด์น้องใหม่ แต่ด้วยสไตล์การออกแบบของ Emily Adams Bode ก็ทำให้ชื่อของแบรนด์เป็นที่พูดถึงอย่างมากในวงการแฟชั่นอเมริกา โดยเฉพาะในหน้าซีซัน Spring/Summer ที่แบรนด์มักจะสร้างสรรค์ออกมาในแนวทางที่ต่างจากแบรนด์อื่น ไม่ว่าจะเป็นลวดลายหรือซิลลูเอ็ตต์ แต่ที่เป็นเอกลักษณ์มากที่สุดก็คงจะเป็นการเลือกผ้าวินเทจมาใช้ร่วมกับเทคนิคการเย็บแบบดั้งเดิม ที่สำคัญคือยังเป็นแบรนด์แฮนด์เมดทั้งหมดด้วย ไอเท็มจาก BODE จึงมีกลิ่นของความวินเทจผ่านดีไซน์ที่ร่วมสมัย โดดเด่นออกจากแบรนด์อื่นๆ หนุ่ม Harry Styles ยังเคยหยิบเชิ้ตของแบรนด์ไปใส่ในเอ็มวี Watermelon Sugar ที่เป็นผลงานเพลงล่าสุดของเขาด้วยนะ
เอมิลี่ยังเป็นดีไซเนอร์หญิงคนแรกที่ได้จัดรันเวย์โชว์ใน New York Men Fashion Week ด้วย โดยเธอได้รับเชิญในปี ค.ศ. 2018 และในปีถัดมาก็ได้รับเชิญจาก Paris Men Fashion Week ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าเพศไม่มีผลต่อการสร้างสรรค์แฟชั่นไอเท็มเลยแม้แต่น้อย เธอจึงกลายเป็นคนบุกเบิกให้สาวๆ หลายคนกล้าที่จะก้าวเข้ามาเป็นดีไซเนอร์ในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าผู้ชายมากยิ่งขึ้น
Visit Site : www.bodenewyork.com
_____________________________________________
Todd Snyder by Todd Snyder
นี่คือการเข้าชิงปีครั้งแรกของ Todd Snyder ในสาขาดีไซเนอร์ออกแบบเสื้อผ้าผู้ชายแห่งปี หลังจากก่อตั้งแบรนด์มาเกือบ 10 ปี ซึ่งถามว่าอะไรที่ทำให้แบรนด์ของหนุ่มท็อดได้เข้าชิง เรามองว่าเป็นเพราะสไตล์การออกแบบของเขา ที่สร้างให้แบรนด์มีความภาพลักษณ์ที่เป็นมิตรต่อหนุ่มๆ ขี้อายที่ไม่รู้จักแฟชั่น ได้เข้ามาทดลองสวมใส่ไอเท็มที่แตกต่างไปจากเดิมที่เคยใส่ อย่างไม่ต้องกังวลว่า จะดูผิดแปลกจากคนอื่น เพราะไอเท็มจาก Todd Snyder มีความเป็นสปอร์ตผสมกับไลฟ์แวร์อยู่สูงมาก
แต่ก่อนจะมาเป็นไอเท็มในสไตล์ปัจจุบัน ท็อดเริ่มต้นแบรนด์ด้วยภาพลักษณ์ที่เราขอใช้คำว่า “จืด” และดูเป็นแบรนด์เสื้อผ้าทั่วไปมากๆ อย่างการเลือกใช้สีเบสิกเท่านั้นในการสร้างสรรค์ หรือแม้กระทั่งซิลลูเอ็ตต์เองก็แทบไม่มีความแตกต่าง จนกระทั่งในช่วงปี ค.ศ 2017 – 2018 ที่ท็อคเริ่มจริงจังกับงานดีไซน์ของเขามากยิ่งขึ้นด้วยการค่อยๆ เติมสีสันใหม่เข้ามาในแต่ละคอลเล็กชั่น หันไปปรับซิลลูเอ็ตต์ให้ร่วมสมัยมากขึ้น ไม่ยึดติดกับทรวดทรงของเสื้อผ้าผู้ชายแบบเดิมๆ และเพิ่มไอเท็มลูกครึ่งสปอร์ตแวร์และไลฟ์แวร์เข้ามา ทำให้แบรนด์มีภาพลักษณ์ที่สนุกสนานกว่าเดิม เหมือนกับอาหาร พอได้รับการปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติเสียใหม่ก็น่ากินมากกว่าเดิม และถึงแม้ภาพลักษณ์จะเปลี่ยนไปขนาดไหน แต่ท็อดก็ยังไม่หลงลืมที่จะเติม DNA ความเป็นหนุ่มนิวยอร์กที่เขาชื่นชอบเข้าไปเหมือนเดิม
Visit Site : www.toddsnyder.com
_____________________________________________
Tom Ford by Tom Ford
เชื่อว่า ไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์แฟชั่นสุดเย้ายวนอย่าง Tom Ford ที่ไม่ว่าจะแตกไลน์คอลเล็กชั่นหรือสินค้าไหนออกมาก็เรียกว่าการเป็น Must-have ไปซะหมด และเบื้องหลังความสำเร็จก็ไม่ใช่เพราะใครที่ไหน แต่เป็นดีไซเนอร์หนุ่มในชื่อเดียวกัน ที่หลงใหลศิลปะและการออกแบบมาตั้งแต่เด็กๆ ดีไซน์ของ Tom Ford นั้นเต็มไปด้วยความเย้ายวน และผสมผสานเรื่องเซ็กส์ลงไปได้อย่างมีรสนิยม นับตั้งแต่คอลเล็กชั่นแว่นตาแรกของแบรนด์ ไปจนถึงคอลเล็กชั่นน้ำหอมตัวท็อปอย่าง Black Orchid ก็ล้วนแล้วแต่ถ่ายทอดแพชชั่นในเรื่องนี้ของเขา อีกหนึ่งเหตุผลที่เราเชื่อว่าคือแรงส่งให้แบรนด์ Tom Ford เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางตั้งแต่เพิ่งก่อตั้ง ก็คือวีรกรรมที่หนุ่มฟอร์ดฉุด Gucci ที่กำลังดิ่งลงเหว เพราะขาดทุนอย่างหนักให้ขึ้นมาจากหลุมอีกครั้ง ด้วยการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของ Gucci เสียใหม่ให้จากความมินิมัลสู่แฟชั่นที่เต็มไปด้วย Sex Appeal ซึ่งยังคงเป็นที่พูดถึงอยู่ในทุกวันนี้ว่าเป็นตำนานหนึ่งที่น่าจดจำของวงการแฟชั่น
และด้วยความสามารถด้านการสร้างสรรค์ที่เหลือล้นเกินกว่าจะอยู่แค่ในวงการแฟชั่น ฟอร์ดยังได้โชว์ฝีมือด้านนี้ของเขาในศาสตร์ทางศิลปะอีกด้านหนึ่งอย่างการสร้างภาพยนตร์ ซึ่งแค่ผลงานการกำกับแรกอย่าง A Single Man ที่เขารับหน้าที่เขียนบทและกำกับเอง ก็ได้รับคำชมไปอย่างมากในฐานะภาพยนตร์ที่มีกลิ่นอายแฟชั่นแฝงอยู่ รวมถึงยังส่งให้นักแสดงนำชายอย่าง Colin Firth เข้าชิงรางวัลออสการ์ในปีนั้นด้วย ฟอร์ดจึงเป็นอีกหนึ่งผู้เข้าชิงรางวัลดีไซเนอร์เสื้อผ้าผู้ชายแห่งปีที่น่าจับตามองไม่แพ้คนอื่นๆ เลย
Visit Site : www.tomford.com/men
┃Photos : Courtesy of Brands
