เรารู้จัก แนท-อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ ในฐานะผู้หญิงสวย เก่ง มากความสามารถ ที่ได้ไปท่องจักรวาล ประกาศก้องให้โลกรู้ถึงความงามตามแบบอย่างไทย กับการเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดนางงามจักรวาล 2015 โดยแนทเข้ารอบ 10 คนสุดท้าย และคว้ารางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยมมาครอง แนทยังเป็นนักสังคมสงเคราะห์ ที่มองเห็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์ที่พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นได้เสมอ ที่สำคัญแนทยังเป็นนางแบบมากฝีมือที่สวมใส่ผ้าไทยได้สวยสะกดสายตา ทั้งยังเป็นนักแสดงสาวดาวรุ่งที่มีพัฒนาการทางด้านการแสดงที่เริ่มไต่ระดับเพดานบินที่สูงขึ้นๆ
ในวันนี้แนทถูกทาบทามให้มาถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสารลิปส์ฉบับพิเศษ อีกครั้งกับการโพสท่าสวยสง่าในชุดผ้าไทยดีไซน์สวยร่วมสมัย ของสองแฟชั่นดีไซเนอร์ชื่อก้องของเมืองไทย ต่าย-ธีระ ฉันทสวัสดิ์ และ เอก ทองประเสริฐ ซึ่งแนทในฐานะนางแบบคนรุ่นใหม่ ก็สามารถถ่ายทอดความเป็นไทยออกมาได้อย่างงดงาม
“ทุกวันนี้แนทเชื่อว่า เราจะลุกมาใส่ผ้าไทยเมื่อไรก็ได้ ไม่ผิด เพราะระยะหลังมานี้เรามีการยกระดับผ้าไทยกันมากขึ้น โดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างดีไซเนอร์ หน่วยงานภาครัฐ องค์กรเอกชนต่างๆ รวมถึงชาวบ้านหรือว่าผู้นำชุมชน ในการสร้างสรรค์ ออกแบบผ้าไทย ทำให้ผ้าไทยมีความทันสมัยมากขึ้น สามารถสวมใส่ได้ง่ายในชีวิตประจำวัน รวมถึงตัวแนทเองที่เป็นทั้งนางงาม นางแบบ นักแสดง ซึ่งมีโอกาสได้ใส่ผ้าไทยบ่อยกว่าคนอื่น สิ่งที่แนททำได้คือการเป็นหนึ่งในกระบอกเสียงสำคัญในการขับเคลื่อนความเป็นไทยไปสู่สากล
…อย่างการใส่ชุดไทยในเวทีโลก การใส่ผ้าไทยในชีวิตประจำวัน รวมถึงการเป็นนักแสดงที่เราได้เล่นละคร อย่างเรื่องรักสิบล้อ รอสิบโมง ตอนจบนางเอกต้องแต่งงาน แนทก็คุยกับผู้จัด คุณกล้วย (ปรารถนา บรรจงสร้าง) ว่าอยากใส่ผ้าไทย ใส่เป็นชุดแต่งงานสวยๆ แล้วเป็นละครอีสานด้วย ผ้าไหมอีสานทอมือบ้านเรามีเยอะมาก เราก็ไปหามาใส่ เป็นผ้าไหมมัดหมี่สีชมพูสวยมาก”
ในวันนี้เแนทเติบโตขึ้นและยังคงก้าวต่อไปในเส้นทางที่ใฝ่ฝันจากการเป็นนางงามสู่นางแบบและการก้าวมาเป็นนักแสดงอย่างเต็มตัวจากเมื่อก่อนเธอเคยคิดว่าอยากไปทำงานในต่างประเทศอยากไปเป็นนางแบบชื่อก้องต้องโกอินเตอร์แต่ท้ายที่สุดแล้วความคิดของเธอเริ่มตกผลึกและค้นพบว่าความสุขที่แท้คืออะไร
“ความสุขที่แท้จริงของแนท คือ ได้เห็นรอยยิ้มของคุณตาคุณยาย ได้อยู่กับเขา ได้มีโอกาสเลี้ยงดูเขา เหมือนที่เขาเลี้ยงดูแนทมาตอนเป็นเด็ก แล้วก็ได้ทำงานที่เรารัก ได้เจอเพื่อน พี่ น้อง ทุกคนที่เป็นกัลยาณมิตร ทั้งหมดที่แนทได้รับในตอนนี้ แนทคิดว่า มันคือชีวิตที่สมบูรณ์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นงานแฟชั่นหรืองานละคร มันอบอุ่น
…หลายๆ ครั้งที่แนทเล่นไม่ได้ หรือเกิดภาวะเครียด แล้วตากล้องที่ถ่าย เขาส่งยิ้มให้แนท แล้วบอกว่าสู้ๆ น้ำตามันก็ไหล พี่ทีมไฟก็จัดแสงให้ตลอด ไม่ต้องกลัวว่าเราจะไม่สวย ทั้งผู้กำกับฯ ทีมงานทุกคนก็จะมาบรีฟเพื่อที่จะให้เราพัฒนาตัวเองต่อไป หรือการมาทำงานแฟชั่น เหมือนเราได้กลับบ้าน เรารู้สึกแฮปปี้มีความสุข รวมถึงการเป็นนางงาม มันทำให้แนทอยากเป็นกำลังใจให้กับผู้หญิงทุกคน โดยเฉพาะผู้หญิงที่ตัวสูง ผิวแทน หน้าไทยเหมือนแนท ให้กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง
“แนทเคยไปคุยกับลูกค้า แล้วมีช่างภาพคนหนึ่ง ซึ่งแนทไม่รู้จัก เขาพูดว่า เดี๋ยวถ่ายเสร็จแล้วผมจะปรับแสงให้ผิวน้องขาวขึ้นนะ แล้วลูกค้าเดินมาบอกว่า ไม่จำเป็นค่ะ เพราะที่เราเลือกคุณแนทเพราะคุณแนทเขาผิวสีนี้ สตรองมาก”
…สิ่งที่แนทต้องการจะบอกก็คือ เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงคำบูลลี่ต่างๆ จากสังคมได้ แต่สิ่งที่ทุกคนทำได้คือเราต้องกลับมามองเห็นคุณค่าในตัวของเราเอง เราต้องสตรองและเชื่อมั่น ไม่ต้องสนว่าคนอื่น จะคิดอย่างไร ถ้าเราไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใคร เรามีความสุขที่เราเป็นอย่างนี้พอจบ
…แนทต้องขอบคุณโอกาสที่ได้มาเป็น Miss Universe Thailand นะคะ ที่สามารถต่อยอดให้แนทได้ทำงานหลายๆ อย่างที่แนทอยากทำ ทั้งงานในวงการ การเป็นนางแบบ ที่สำคัญแนทเรียนจบสังคมสงเคราะห์มา แนทก็สามารถทำงานตรงนี้ไปพร้อมกันกับงานอื่นๆ ได้ แนทเชื่อว่า เราทำความดีได้ทุกวัน ทำเลย อย่ารอให้ถึงวันเกิดหรือวันพิเศษแล้วค่อยทำ
…อย่างโครงการเพื่อสังคม แนทเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของ Habitat for Humanity Thailand มูลนิธิที่อยู่อาศัยแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไร มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย ผ่านการสร้างบ้าน และพัฒนาชุมชน โดยร่วมมือกับพันธมิตรจากทั่วประเทศเพื่อการพัฒนาแบบยั่งยืน แนทก็ช่วยประชาสัมพันธ์ ประสานงานตามที่ได้รับมอบหมาย
…นอกจากนี้แนทยังมีโครงการเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำร่วมกันกับแฟนคลับ เป็นการเปิดรับบริจาคสร้างอาคารเรียนแล้วก็มอบทุนการศึกษา มอบอาหารกลางวันให้เด็กๆ ที่โรงเรียนวนาประชารัฐบำรุง จังหวัดนครราชสีมา โดยเป็นการที่แนทกับแฟนคลับจะร้อยสร้อยข้อมือลูกปัดจำหน่าย โดยรายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่ายก็มอบให้กับโรงเรียน แนทรู้สึกว่า แนท อยากทำ อยากให้เด็กๆ มีรองเท้าใส่ อยากให้น้องๆ ได้กินอิ่ม แนทเชื่อว่า หนึ่งกำลังใจเล็กๆ ที่พวกเรามอบให้ แม้จะไม่ได้มีมูลค่ามากมาย แต่เวลามันได้ไปอยู่กับคนที่เขาเห็นคุณค่า มันมีค่ามากๆ เลย
“ทุกวันนี้แนทมาไกลเกินฝันมากเลยค่ะกับสิ่งที่แนทได้ทำ แนทอยากบอกกับทุกคนว่า ให้ทุกคนลองทำในสิ่งที่ใฝ่ฝัน ถ้าเราทำแล้วเราไม่ประสบความสำเร็จก็ไม่อยากให้ท้อหรือล้มเลิกกลางคัน ก็อยากให้เต็มที่ จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลังว่าทำไมเราไม่ทำ
…อยากให้ทุกคนทำเต็มที่เหมือนที่แนททำค่ะ แล้วก็อยากให้ทุกคนมีความสุขกับการทำงานที่ทำ เคารพตัวเองแล้วก็เคารพคนอื่นด้วย ไม่ว่าคุณจะอยู่ในตำแหน่งไหนก็ตามในการทำงาน”
หญิงสาวกล่าวทิ้งท้ายด้วยความรู้สึกที่เปี่ยมสุขและเต็มไปด้วยพลังที่ส่งผ่านจากภายในซึ่งนั่นทำให้เราไม่รู้สึกมีข้อกังขาใดๆว่าเพราะอะไรแนท-อนิพรณ์เฉลิมบูรณะวงศ์จึงเป็นที่รักของทุกคนในวันนี้
┃Photography : Nucha J.
┃Styling : Torrinee