สำหรับวีกฤษฎิ์ พลาฤทธิ์ หัวเรือใหญ่แห่งอาณาจักรเฟอร์นิเจอร์นำเข้าจากสแกนดิเนเวียอย่าง Norse Republics ที่นอกจากจะเป็นผู้นำเข้าแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับตำนานอย่าง Fritz Hansen แล้ว ล่าสุดยังเพิ่งนำแบรนด์ Vitra แบรนด์เก้าอี้ดีไซน์มีเอกลักษณ์สัญชาติสวิสเข้ามาเสริมอาณาจักรอีกต่างหาก เรียกได้ว่า ชีวิตของวีกฤษฎิ์รายล้อมด้วยเก้าอี้หลากสไตล์จากนักออกแบบชั้นนำ และเขาก็เชื่อมั่นมาตลอดว่า Key Piece ที่ทำให้บ้านดูมีคาแร็กเตอร์นั้นอยู่ที่ เก้าอี้ทานข้าว เลาจน์แชร์ โซฟา และเก้าอี้นั่งรูปแบบต่างๆ ซึ่งหากให้เขารวบรวมเก้าอี้ตัวท็อปที่โปรดปราน และเข้ากับบ้านได้หลากหลายสไตล์ในทุกยุคสมัยแล้ว เก้าอี้ดีไซน์เรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยดีเทลที่ผ่านการคิดมาอย่างดีเหล่านี้คือคำตอบ
ผมเห็นเก้าอี้รุ่นนี้ครั้งแรกในร้านพวกแกลเลอรี่ที่มิลาน เขาก็เอา Standard Chair ที่เป็นตัววินเทจไปตั้ง ผมรู้สึกว่า มันดูสตรองดู ดูขัดกับลุคอื่นๆ พอไปศึกษาดูก็พบว่า เป็นเก้าอี้ที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่มาก ดีไซน์ของมันเริ่มมีมาตั้งแต่ยุค 1920s ซึ่งเป็นช่วงก่อนสงครามโลก เป็นยุคที่เขากำลังพัฒนางานอุตสาหกรรมเป็นช่วงแรกๆ ที่มีการใช้เหล็กกับงานดีไซน์ โดยเริ่มนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของตัวเก้าอี้ ตัวเฟอร์นิเจอร์Standard Chair จึงถือว่า เป็นตัวคลาสสิกชิ้นหนึ่ง
ความน่าทึ่งของ Egg Chair อยู่ที่เทคนิคในการผลิตของมันมากกว่า เขายังคงความเป็น
ออริจินัลแบบเดิม คือ เป็นงานแฮนด์เมดทุกส่วน ทำให้ Egg Chair แต่ละตัวจะไม่เท่ากัน ไม่สมมาตร สมมติตรงปีกมันจะมีด้านหนึ่งที่ใหญ่กว่าอีกด้านหนึ่ง
Egg Chair เป็นเก้าอี้ที่ออกแบบขึ้นในปีค.ศ.1958 เป็นเก้าอี้ตัวแรกที่ออกแบบมาให้มันไม่มีส่วนเส้นตรงเลย เป็นเส้นโค้งทั้งหมดเลย ต้องใช้พลาสเตอร์ในการหล่อขึ้นรูป แล้วก็เอาหนังมาหุ้ม ซึ่งหนังที่หุ้มมันต้องใช้วัว 2 ตัวในการหุ้ม ทำให้ไม่มีรอยต่อเลย แล้วทุกวันนี้เขาก็ยังใช้วิธีการแบบเดิมอยู่
เป็นคอลเล็กชันของดีไซน์เนอร์ชื่อว่า Poul Kjærholm เป็นดีไซน์เนอร์อีกคนที่ร่วมงานกับ Fritz Hansen แต่ว่ามาในบริบทที่แตกต่างกัน งานของ Poul Kjærholm จะเน้นโครงสร้าง เส้นสายที่ดูเป็น architecture มาก ๆ เพราะฉะนั้น เก้าอี้ของเขาทุกตัวจึงดูเรียบง่าย แต่ถ้ามองใกล้ๆ มันจะแฝงไปด้วยความแม่นยำในการผลิต ต้องใช้สกิลขั้นสูงมากในการผลิตเก้าอี้ตัวหนึ่ง
เขาเป็นดีไซน์เนอร์ที่มีความชื่นชอบในเรื่องแมตทีเรียลมาก และเป็นคนที่ค่อนข้างพิเศษ เพราะโดยปกติคนเดนมาร์กจะชอบไม้ แต่คนนี้จะชอบเหล็ก เขาก็เลยชอบเอาเหล็กมาทำ ความชื่นชอบในแมตทีเรียลของเขาไปจนถึงว่า เขาจะไม่ยอมให้แมตทีเรียลอะไรก็ตามมันอยู่ติดกันโดยถาวร เขาจึงออกแบบต้องออกแบบพวกฮาร์ดแวร์ที่ทำให้เหล็กสองชิ้นไม่ติดกัน อย่างเก้าอี้ PK22 ตัวนี้ ถ้าพลิกด้านใต้ขึ้นมาก็เป็นเชือกสานที่สามารถแกะออกได้ทั้งหมดเลย งานเนี้ยบมาก
“ผมชอบ PK22 อย่างหนึ่งตรงที่มันไม่ค่อยแย่งซีนใครแต่ขณะเดียวกันมันก็โดดเด่นด้วยตัวของมันเองไม่ว่าจะนำไปวางที่ไหนก็สวย”
เป็นเก้าอี้รุ่นที่เห็นมาตั้งแต่เด็กๆ เหมือนกัน พอได้มาเรียนประวัติศาสตร์ศิลปะถึงได้รู้จักอย่างจริงจัง วิธีการผลิตของมันน่าทึ่งมาก มันแข็งแรงมาก Seiries 7 ของแท้ ถ้าเกิดเราเอาวางคว่ำ แล้วเราขึ้นไปเหยียบ เก้าอี้ก็จะไม่หัก เป็นเพราะวิธีการผลิต เห็นแมตทีเรียลเป็นแผ่นบางๆ แบบนี้ จริงๆ แล้วมันประกอบกันด้วยวีเนียร์ 9 ชั้นที่นำมาวางสานกัน ทำให้มันแข็งแรงขึ้นมากแบบที่เก้าอี้ตัวที่ทำลอกเลียนแบบก็สามารถทำได้
เก้าอี้รูปหัวใจตัวนี้ จริงๆ แล้วตอนแรกผมไม่ชอบเลย คิดว่า มันให้ความรู้สึกเหมือนตะโกนๆ หน่อย แต่พอมาอยู่จริง ๆ แล้ว ด้วยความ unique ของรูปทรงทำให้รู้สึกพิเศษ ตอนแรกก็ดูเป็นผู้หญิงแต่ว่าจริง ๆ แล้วเวลาเป็นผู้ชายนั่งก็เท่ดี อย่างผมจะมีรูปหนึ่งที่ผมชอบมาก จะเป็นรูปเก้าอี้ Heart Cone Chair สีม่วง ที่พอเป็นผู้ชายมานั่งก็ให้มู้ดอีกแบบดูเป็นเหมือนงานศิลปะ
จริงๆ ต้องบอกว่า ดีไซน์ของ Vitra ส่วนใหญ่แล้ว ก่อนที่ผมจะเป็นดีลเลอร์ให้เขา ผมเห็นรูปแล้วผมไม่ได้ชอบขนาดนั้น ต้องเห็นของจริง เราถึงรู้ว่า สวย หรือว่าแม้แต่ Panton Chair ตัวนี้ก็ตามดูเหมือนธรรมดาๆ แต่มีความพิเศษ มันเป็น Single Mold Fiber Glass Chair ตัวแรกที่เคยผลิตออกมา แล้วมันก็ยังอยู่คงทนมาถึงทุกวันนี้ แต่มันก็จะมีรูปทรงต่างๆ มีรุ่นลิมิเต็ดอีดิชั่นให้เก็บสะสม อย่างรุ่นที่เรืองแสงได้ เป็นต้น
Panton Chair มีรูปทรงที่ unique วางตัวเดียวแล้วจบ หรือจะวางเยอะๆ ก็ไม่แปลก แต่ผมว่า มันไม่ได้เข้าได้กับทุกที่นะ เข้าได้เฉพาะในบางบริบทเท่านั้น ผมว่าต้องมีพื้นที่ให้มันนิดหนึ่ง เพื่อให้ได้ปล่อย shape ของมันให้ลื่นไหล
เก้าอี้รุ่นนี้มีมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1933 ตัวนี้เป็นตัวที่มีทำเลียนแบบเยอะเหมือนกัน แต่ของจริงเป็นไม้บีชแท้ที่เรียกได้ว่าเป็น Solid Wood เลย แล้วเขาก็ต้องมา dry ใน pantry ประมาณหนึ่งปี เพื่อให้น้ำมันระเหยออก เสร็จปุ๊บเขาก็เอาไปตัดเป็นซี่ ๆ ตัดเสร็จปุ๊บเขาก็เอาวีเนียร์สอดเข้าไปในแต่ละซี่ มันจะเห็นรอยซิกเนเจอร์ของเขา ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครทำรอยอย่างนั้นได้ ซึ่งมันทำให้เก้าอี้ตัวนี้แข็งแรงมาก เพราะมีตัวยึดพวกนี้คอยยึดความโค้งของมันอยู่
ด้วยไอเดียง่ายๆ แบบนี้ ทำให้งานของ Artek ถูกผลิตออกมาแบบไม่รู้จบ ทำให้เก้าอี้ตัวนี้ก็เป็นเก้าอี้ที่คนก็สรรหาเก็บเอาไว้ และมีงาน collaboration ออกมาเรื่อยๆ อย่างตัวที่นำมาในวันนี้เป็น รุ่น
ColoRing เป็นการฉลองครบรอบ 100 ปีของความสัมพันธ์ญี่ปุ่น-ฟินแลนด์ เขาก็เลยเชิญ ศิลปินชาวญี่ปุ่นที่เขามีความเชี่ยวชาญในการย้อมสีไม้ มาทำสีใหม่
เป็นงานของดีไซเนอร์ชาวดัตช์ ที่ออกแบบมาตั้งแต่ยุค 1950s ให้กับโรงเรียนในอัมสเตอร์ดัม แล้ว Hay นำกลับมาทำใหม่ โดยการนำชิ้นงานคลาสสิกมาเปลี่ยนสี เปลี่ยนโทน ให้ดูร่วมสมัย ดู young แล้วก็มี dynamic ในแบบของ Hay
TIPS
ผมชอบที่เวลาเห็นลูกค้าของผมซื้อเก้าอี้หลายแบบมามิกซ์ๆ กัน ผมรู้สึกว่า มันไม่มีอะไรตายตัว แล้วเวลาเรากลับเข้าบ้าน มันควรจะเป็นพื้นที่ของเรา การที่มีของที่เราชอบหลาย ๆ อย่าง อยู่ใกล้ ๆ ตัว ก็ทำให้เรามีความสุขเวลาอยู่บ้าน
แต่เทคนิคในการมิกซ์เก้าอี้หลายๆ แบบให้อยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน ทุกตัวต้องลิงค์กันเองด้วย แล้วก็ลิงค์กับส่วนอื่นของห้องด้วย อย่างถ้าเกิดว่า ในห้องมีพื้นไม้ ตัวเก้าอี้เราก็อาจจะมีส่วนผสมของไม้ทั้งหมดอยู่ทำให้เวลานำไปตั้งดูไม่โดดจนเกินไป
ไอเดียของการมีเก้าอี้มิกซ์กันหลายๆตัวคือการที่เราต้องกล้าเปลี่ยนตลอดเวลาวันไหนมู้ดของเราเป็นอย่างไรเราก็เปลี่ยนไปแบบนั้น
┃Photography : Somkiat K. , Norse Republics
