ยังไม่ทันได้สนุกกับ Autumn/Winter อย่างเต็มที่ เทรนด์ใหม่ของซีซั่นหน้าก็มารอให้เราได้ทำความรู้จักกันอีกแล้ว และนี่คือ 5 เทรนด์เด่นจากคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2021 ของบรรดาแบรนด์แฟชั่นกว่ายี่สิบแบรนด์ ทั้งที่เปิดตัวบนรันเวย์ในสัปดาห์แฟชั่นต่างๆ และไลฟ์ดิจิทัลในแบบฉบับ Now Normal เรียกได้ว่า จัดเต็มมาให้การ์ซงได้อ่านก่อนใคร เอาไว้เตรียมไอเท็มให้พร้อมใส่ล่วงหน้ากันได้เลย
Be Bold & Bright
ต้องบอกว่าเป็นเทรนด์ที่มาแรงมากจนต้องขอยกให้เป็นเทรนด์อันดับแรกที่เราจะพูดถึง เพราะหันไปทางแบรนด์ไหนก็จะต้องมีแฟชั่นไอเท็มอย่างน้อยหนึ่งชิ้นที่มีสีสะดุดตาเราเข้าเต็มๆ ซึ่งความจริงแล้วเทรนด์สีโทนสว่าง และสีนีออนเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ซีซั่น SS2019 แล้ว แต่ในช่วงนั้นดูเหมือนจะเป็นแค่เพียงหนึ่งในเทรนด์รองเท่านั้น จนกระทั่ง Lil Nas X จุดกระแสความบูมให้กับไอเท็มโทนสีนี้ด้วยการครีเอทลุค All-Green Neon ในงาน AMAs 2019 ทำให้ไอเท็มสีเหลือง และเขียวนีออนเริ่มได้รับความนิยม และดูท่าจะยาวไปจนถึงปีหน้าด้วยเช่นกัน
แต่สำหรับ SS2021 เทรนด์นี้จะมาใน Color Range ที่กว้างขึ้น ไม่จำเป็นต้องใส่เฉพาะสีเหลืองและเขียวอีกแล้ว การ์ซงสามารถหยิบเอาสีแดง สีน้ำเงิน สีส้ม หรือเขียวมาใส่ให้เข้าเทรนด์ได้ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างงานเทเลอร์จาก Louis Vuitton, Burberry และ Boss ที่ทำให้ลุค Business Man ของหนุ่มๆ ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ถ้ากลัวว่าจะ carry สีนี้ไม่อยู่ อาจจะเริ่มต้นจากมีไอเท็มโทนสีนี้หนึ่งชึ้นเป็นคีย์หลักก่อน แล้วค่อยไปจับคู่กับไอเท็มสีเบสิกอื่นๆ อย่างลุคแบบ Salvatore Ferragamo ก็ถือว่าเข้ากับเทรนด์ได้อยู่เหมือน แต่เห็นบรรดาลุคต่างๆ ที่เราหยิบมาให้ดู แล้วยังแสบตาไม่สะใจแล้วละก็ ขอให้ขยับระดับความแรง to the max ไปทาง Versace กับ Tom Ford ที่บอกได้เลยว่าเป็นที่สุดแห่งความ Bold & Bright ของซีซั่นนี้ จนอยากจะเตือนว่าให้เตรียมน้ำตาเทียมติดตัวไว้ด้วย เพราะงานนี้ถ้าจองนานเกินไปรับรองว่ามีแสบตาจนตาพร่าตาแห้งกันบ้างแหละ
_____________________________________________
Trench Coat
ถ้าพูดถึง Trench Coat หนุ่มสายแฟส่วนใหญ่มักจะนึกถึง Burberry เพราะถือเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องไอเท็มนี้ แต่ดูเหมือนว่าบนรันเวย์ของ SS2021 จะไม่ได้มีแค่ Burberry เท่านั้นที่หยิบเอาเทรนช์โค้ตมาทำใหม่ในซีซั่นนี้ เพราะ Louis Vuitton ก็ได้หยิบเอาลวดลายตาราง Damier สุดคลาสสิกชองแบรนด์ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1888 มาพาดลงเทรนช์โค้ตดีไซน์โมเดิร์นที่มีเลเยอร์ และดีเทลของส่วนประกอบต่างๆ แบบโอเว่อร์ไซส์ และยังดีไซน์ลายตารางใหม่ให้เป็นลวดลายสีขาวดำแบบภาพลวงตาอีกด้วย ถือเป็นหนึ่งในไอเท็มที่เต็มไปด้วยความสนุกจาก Louis Vuitton ถ้าเป็นสายคลาสสิกที่ไม่ชอบดีเทลอะไรมากมายน่าจะต้องถูกใจดีไซน์ของ Givenchy, Prada, Ermenegildo Zegna และ Salvatore Ferragamo ที่ให้ความรู้สึกว่าเป็น Timeless Item ที่ถึงแม้ว่าจะหมดช่วงซีซั่นไปแล้ว ก็ยังสามารถหยิบมาใส่ได้อยู่
ขณะที่ Kim Jones ขอทำอะไรน้อยๆ แต่ได้ผลลัพธ์ใหญ่ๆ แทนด้วยเลือกปรับเพียงดีเทลบางอย่าง เช่น ตะเข็บ หรือรังดุมเพื่อสร้างความแตกต่างให้กับ Dior Men ส่วนดีไซเนอร์หนุ่ม Thom Browne ก็ยังมาในคอนเซ็ปต์ Gender Neutral เหมือนเดิม ทำให้เทรนช์โค้ตของแบรนด์มาในสีและซิลลูเอ็ตต์กลางๆ ที่สามารถเข้ากับได้ทั้งสองเพศ แล้วหันไปเล่นกับลวดลายบนแมตทีเรียลแทน ซึ่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้เทรนช์โค้ตน่าหยิบมาใส่มากขึ้นในซีซั่นต่อไปที่กำลังจะมาถึง
_____________________________________________
Cozy Knitwear
ไม่ต้องสงสัยหรอกว่า พิมพ์ผิดหรือเปล่า เพราะเราเองเซอร์ไพรส์เช่นกันที่ไอเท็มที่เข้ากับบรรยากาศของ Autumn/Winter อย่าง Knitwear กลับกลายเป็นเทรนด์ใหม่สำหรับช่วง SS2021 และหยิบมารีดีไซน์ใหม่โดยหลากหลายแบรนด์ด้วยกัน เริ่มต้นกันจาก Knitwear ที่สะดุดตาเรามากที่สุดจากฝีมือการคุมทีมของ Hedi Slimane ที่หยิบเอาลวดลายในแบบต่างๆ ที่ทำเป็นลายในการถักไหมพรมอย่างลายแบบโบฮีเมียนและคาโม ในขณะที่ Dolce & Gabbana หันไปเล่นกับลวดลาย Geometric และการจับคู่สีแบบ Monochrome ส่วนแบรนด์แฟชั่นของ Kenzo Takada ศิลปินผู้ล่วงลับจากไวรัสโควิด-19 ขอเอาทิวทัศน์ของธรรมชาติและภูเขามาทำเป็นลวดลายหลักที่มีเล่นกับความหนาบางและความคอนทราสต์ของสี เปรียบเสมือนผลงานศิลปินที่สามารถพกติดตัวไว้ได้ตลอดเวลา
ที่เราชอบที่สุดก็คือรันเวย์ของ Hermès ที่ครีเอทลุค Workwear กลิ่นอายแบบยุค 90s ทั้งคลาสสิกและ Easy-to-carry ยังมีแบรนด์แฟชั่นหน้าใหม่มาแรงอย่าง AMI ของหนุ่ม Alexandre Mattiussi ที่นำเอา Knitwear ไปจับคู่กับไอเทม Workwear เช่นเดียวกัน มาในแนวดีไซน์ที่ทำให้ลุคแบบเดิมๆ มีสีสันและเลเยอร์ที่สนุกสนานมากขึ้น โดยเฉพาะลุคเสื้อกั๊ก Crop-top ที่แอบเผยให้เห็นกล้ามหน้าท้องเบาๆ ช่วยเพิ่มเสน่ห์อีกด้านให้กับหนุ่มสายเนี้ยบได้อยู่ สำหรับการ์ซงที่กลัวใส่ไอเท็มในเทรนด์นี้แล้วจะร้อน อาจจะลองเริ่มต้นจากหยิบสเวตเตอร์ไหมพรมจาก Salvatore Ferragamo ที่พอมีช่องช่วยระบายอากาศได้อยู่ เอาไว้เป็นอีกหนึ่งไอเดียในการครีเอทลุค Knitwear ในช่วง SS2021 แต่ถ้าหนุ่มคนไหนคิดว่าไม่ไหว ก็ไม่ต้องฝืนทนร้อนหรอกนะ
_____________________________________________
The Rebirth of Nature
ในสายตาของเหล่าดีไซเนอร์ดูเหมือนว่าสิ่งที่ช่วยสะท้อนกลิ่นอายความเป็นแฟชั่นของช่วง Spring/Summer ได้ดีที่สุดก็ยังคงเป็นลวดลายต่างๆ จากธรรมชาติ แต่การกลับมาเป็นเทรนด์อีกครั้งในซีซันนี้ดูเหมือนว่าจะแตกต่างออกไปจากดีไซน์ที่แล้วๆ มา จนเราต้องขอเรียกว่าเป็นการเกิดใหม่อีกครั้งของธรรมชาติ ที่มีความสนุกสนานและน่าหยิบไปใส่มากขึ้นกว่าเดิม อย่างเช่น Boss ที่หยิบเอาลายฟลอรัลมาวาดใหม่แบบ Abstract Art และจัดวางร่วมกับเส้นแบบ Hand-Drawing บนไอเทมเทเลอร์ลิ่ง ที่เหมาะจะหยิบไปครีเอทลุคแบบ Smart Casual ในขณะที่ Kenzo นำลวดลายฟลอรัลมารีดีไซน์ใหม่ด้วยการสร้างความเบลอ และจัดวางให้เกิดความเหลื่อมทำให้หนุ่มๆ ใส่ได้ง่ายขึ้น อย่างไม่ต้องกังวลว่า ลุคที่ได้จะดูหวานจนเกินไป
ยังมีบางแบรนด์ที่ขอสวนทางงานดีไซน์คอลเล็กชั่นนี้ให้แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น Tom Ford ที่ขอยกเอาลวดลายดอกไม้สุดคลาสสิกที่เคยฮอตในช่วงปี 90s มาทำมาเป็นลวดลายลงบนเบลเซอร์, เทรนช์โค้ต, เชิ้ต และกางเกงขายาว แต่ที่สวนทางแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ มากที่สุดก็คงจะเป็น Versace ที่ขอเลือกดึงเอาลายปลาดาวและเปลือกหอยมานำเสนอภาพลักษณ์ของแบรนด์สำหรับซีซัน SS2021 บนแฟชั่นไอเท็มชิ้นต่างๆ ที่ไม่ใช่แค่เสื้อผ้าเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงแอ็กเซอซอรี่ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าแบ็คแพ็ค, กระเป๋า Vest Chest, ขวดน้ำ และหมวกบัคเก็ต ถือเป็นการแหวกแนวที่ทำให้เราสามารถจดจำแบรนด์ได้ทันทีโดยไม่ต้องพยายามเลยสักนิด
_____________________________________________
Tank Top
ไม่มีไอเทมชิ้นไหนที่เหมาะจะหยิบมาใส่ในช่วงซัมเมอร์ได้เท่ากับบรรดาเสื้อแขนกุดอีกแล้ว แถมยังเป็นเทรนด์ที่กลับมาฮิตอีกครั้งด้วยในซีซั่น SS2021 เรียกว่าเป็น The Right Choice at the Right Time จริงๆ แน่นอนว่า เหล่าแบรนด์แฟชั่นก็ตอบสนองต่อเทรนด์นี้ด้วยการออกไอเท็มแขนกุดมาประชันกันบนรันเวย์ เริ่มต้นจากลุคแบบสปอร์ตมินิมัลอย่างลุคของ Givenchy ที่จับคู่เสื้อแขนกุดผ้ายืดเข้ากับกางเกง แล้วเสริมความโมเดิร์นด้วยกระเป๋าหนังทรง Vest Chest Bag ถ้าเป็นสายสตรีทน่าจะชอบไอเท็มลูกผสมจาก AMI ที่นำเอางานเทเลอร์มาทำเป็นเชิ้ตแขนกุดที่สามารถใส่เป็นลุคแบบสตรีท ถ้าไม่ชอบไอเท็มหน้าตาเรียบๆ ที่เราเพิ่งพูดถึงไป การ์ซงอาจจะชอบดีไซน์ของ Dolce & Gabbana เพราะเขานำเทคนิคแบบ Patch Work มาทำเป็นเสื้อแขนกุดโอเว่อร์ไซส์ หรือจะเป็นตัวที่สกรีนลายแบบกรีก-โรมัน จากแบรนด์เดียวกันก็ได้อยู่เหมือนกัน
ที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ การใช้เนื้อผ้าแบบ See-Through ที่ยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่องมาจาก SS2020 อย่าง Burberry ที่นำผ้าสีขาวแบบ See-Through มาทำเป็นอีกหนึ่งชั้น บนเสื้อแขนกุดสีดำและกางเกงสกรีนลายกราฟิก เพิ่มมิติให้กับลุคโดยรวม แต่ถ้าไม่ชอบใส่เสื้อผ้าหลายเลเยอร์ ขอให้ขยับไปมองที่เสื้อแขนกุดจาก Kenzo ที่ปักลายดอกไม้ลงบนผ้า ให้อารมณ์เหมือนผ้าลูกไม้ของสาวๆ ยังมีรันเวย์ลุคจาก Prada ที่ใช้โพลีเอสเตอร์แบบ Transparent มาตัดเป็นเสื้อและกางเกง ที่พอนำมาใส่คู่กันแล้วแอบเผยให้เห็นเนื้อหนังมากกว่าแบรนด์อื่น เลยเป็นลุคที่ต้องใช้ความมั่นใจอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นลุคไหนก็เข้ากับเทรนด์นี้ทั้งนั้นแหละ
┃Photos : Courtesy of Brands