เข้าวงการดนตรีมานานพอๆ กัน แต่ คชา-นนทนันท์ กับ กวินท์ ดูวาล กลับเพิ่งเคยมาร่วมงานกันครั้งแรกในโปรเจ็กต์ Boyfriends ที่ทั้งสองมาร่วมกันถ่ายทอดเพลงรักเท่ๆ ชื่อว่า “ผิดจังหวะ” ความหวานโรแมนติกของคชาที่ถนัดในสายบัลลาด โชว์เสียงร้องเพราะๆ มาตลอดเมื่อมาผสมกับความโรแมนติกแบบยียวนของแร็พเปอร์หนุ่มมาดกวนอย่างกวินท์ กลายเป็นความกลมกล่อมที่มีคาแร็กเตอร์ในตัวเอง นอกจากแนวดนตรีจะไปด้วยกันได้สวยแล้วทัศนคติเรื่องความรักของทั้งสองก็ดูจะจูนตรงกันพอสมควร
การ์ซง : นี่เป็นการร่วมงานกันครั้งแรกของคชาและกวินท์หรือเปล่า
กวินท์ : ใช่ครับ ก่อนหน้านั้นเราก็เจอกันตามงานบ้าง เราเข้าวงการมาใกล้ๆ กัน
การ์ซง : ฟี้ดแบ็คเพลง “ผิดจังหวะ”
คชา : ตอนนี้ก็ล้านกว่าวิวแล้ว ผมพอใจนะ
การ์ซง : พาร์ทที่ชอบในเพลง
กวินท์ : ชอบทั้งหมดเลย แต่ละพาร์ทไม่เหมือนกัน พอมารวมกันมันเหมือนสร้างอะไรใหม่ๆ ให้เขาได้เห็น มีทั้งแจ๊ส ฮิพฮอพ ป๊อป รวมทั้งหมดเลย เดี๋ยวนี้เพลงไม่มีขอบเขตแล้ว
คชา : ชอบมากๆ เลย ผมว่า การที่เราตั้งใจฟังเพลงทั้งเพลงมันอิ่มกว่าการที่เราไปชอบพาร์ทใดพาร์ทหนึ่ง เดี๋ยวนี้เราสามารถดึงจุดเด่นแต่ละแนวดนตรีมาใช้ได้โดยไม่จำเป็นต้องทำแค่แนวเดียว
กวินท์ : เด็กวัยรุ่นสมัยนี้เขาไม่ต้องวางแนวทางกันแล้ว เขาอาจจะชอบแนวไหนก็ได้ เพราะเดี๋ยวนี้เพลงสากลก็รวมกันหมดแล้ว
การ์ซง : ถ้าให้สลับพาร์ทกันจะเป็นอย่างไร
กวินท์ : สลับได้แน่นอนอยู่แล้ว เพราะคชาก็ร้องท่อนแร็พได้ มันเป็นการ collaboration ที่เหมือนการต่อจิ๊กซอว์ที่ออกมาดีน่ะครับ เป็นองค์ประกอบที่ลงตัว
การ์ซง : ประสบการณ์ “ผิดจังหวะ” ของแต่ละคน
คชา : ถ้าไม่ใช่เรื่องความรักที่พูดถึงไปในเพลงแล้ว ผมคงจะ “ผิดจังหวะ” เรื่องตกเครื่องบิน ไม่บ่อยนะ แต่ก็เคยเจอมาบ้าง
กวินท์ : ผมว่า คนเรามันอยู่ที่ timing ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม บางครั้งการ “ผิดจังหวะ” อาจจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับตัวเราก็ได้ อย่างผมเองก็ผิดจังหวะตลอดแหละ อาจจะเป็นคนพูดตรงเกินไปบ้างอะไรแบบนี้
การ์ซง : ฝากเพลงผิดจังหวะกับชาวการ์ซงหน่อย
คชา : ฝากเพลง ”ผิดจังหวะ” ด้วยนะครับ ทั้งกวินท์แล้วก็ผม เราตั้งใจทำงานกันเต็มที่ รวมถึงพี่ๆ ทีมงานเบื้องหลังทุกคนด้วย หวังว่า ทุกคนจะชอบเพลงนี้ครับ
กวินท์ : ตอนนี้เอ็มวีเพลงนี้ปล่อยออกมาแล้ว ช่วยกันดันให้ถึง 5 ล้านวิวหน่อยนะครับ
#KeywordChallenge
#ฟีลแฟน
กวินท์ : ผมคงต้อง #ฟีลผัว แล้วล่ะครับมันเป็นสามีภรรยากันไปแล้ว ความรับผิดชอบก็จะเยอะขึ้น เมียจะดุขึ้นนิดหนึ่ง แต่ยังแซ่บเหมือนเดิม ถ้าเป็น #ฟีลแฟน ส่วนมากเราต้องยอมผู้หญิงแล้วจะอยู่รอด
คชา : คงเป็นความรู้สึกเหมือนแฟนอะไรแบบนี้หรือเปล่า
#แฟนเก่า
กวินท์ : ไม่มี ไม่รู้ ไม่ทราบ
คชา : ไม่พูดถึงดีกว่า
#แฟนใหม่ของแฟนเก่า
กวินท์ : ใครวะ (หัวเราะ) แต่ถ้าเจอคงแบบปรบมือให้แล้วบอกว่า “ยินดีด้วยคุณได้ไปต่อ”
คชา : แล้วแต่อารมณ์นะ พอเราโตขึ้นมามันคือพาร์ทใหม่ในชีวิตเขา เราก็จะไม่ยุ่ง เราก็ยินดีด้วย คิดได้แบบนั้นแล้วก็สบายใจ ไม่ใช่เราไม่รู้จักกันมาก่อนแล้วมาเกลียดขี้หน้ากัน
#แฟนเพื่อน
คชา : ของต้องห้าม ยุ่งไม่ได้เลย เป็นอะไรที่ผม respect มาตลอด
กวินท์ : เพื่อนเราน่ะสิจะไม่ค่อย respect (หัวเราะ) ผมไม่คุยนะ ค่อนข้างมีระเบียบวินัยในการจีบ
“ผมทะเลาะกับเพื่อนบ่อย ถ้ายิ่งต้องมาทะเลาะกันเรื่องผู้หญิง ผมรู้สึกว่า มันไร้สาระน่ะ ผู้หญิงมีเป็นพันเป็นล้านคน เราไม่จำเป็นต้องมาจีบคนเดียวกันหรอก”
#เพื่อนแฟน
กวินท์ : แล้วแต่สถานการณ์ ถ้าเราเลิกกับแฟนไปนานมากแล้ว แล้วไปเจอเพื่อนเขาแล้วคลิกกันก็เป็นไปได้ แฟนเก่าก็ต้องเข้าใจ
คชา : ผมว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตอนนั้นด้วย บางทีเรารู้สึกกระอักกระอ่วนเราก็คงเลิกคุย แต่ถ้าคุยแล้วคลิกก็คือคลิก อายุขนาดนี้แล้วผมว่า เราคุยกันด้วยเหตุผลได้
#ขี้หึง
คชา : ผมเป็นนะ แต่ไม่รู้ว่ามากหรือเปล่า อย่างเวลาผมมีแฟน โดย nature ของผมจะเป็นแบบนี้ จะคอยเช็คว่า วันนี้ไปไหน ไปกับใคร มีเพื่อนผู้ชายไปด้วยหรือเปล่า
กวินท์ : เปิดสปีคเกอร์โฟนหน่อยซิ
คชา : ไม่ถึงขั้นนั้นครับ (หัวเราะ) แค่ถามให้รู้ว่า เป็นเพื่อนที่เรารู้จักหรือเปล่า
กวินท์ : ผมว่า ถ้าอีกฝ่ายเขาไม่หึงหวง แล้วเราไม่หึงหวงแล้วมันเรียกว่า “รัก” เหรอ มันต้องมีแน่นอน สมมติเราเห็นเมียเราไปคุยกับผู้ชายคนอื่น เราก็จะถามว่า “ใครเหรอ” แล้วถ้าใครมาด่าเมียผม ผมด่าคืนแน่
#ขี้งอน
กวินท์ : ผมขี้น้อยใจ แต่ไม่ได้ขี้งอนนะ อย่างวันนี้ทำไมก่อนออกจากบ้านไม่หอมแก้มอะไรแบบนี้ ส่วนมากเมียผมจะงอนผมมากกว่า เพราะเราเป็นผู้ชายไม่ได้คิดมากเหมือนผู้หญิง แต่ก็ต้องคิดให้ทันเขา ผู้หญิงชอบคิดว่า ผู้ชายรู้ว่า เขาคิดอะไรอยู่ แต่จริงๆ แล้วผู้ชายไม่รู้หรอก
ผมผ่านการง้อเมียมาหลายวิธีแล้ว เหลืออีกวิธีที่ยังไม่เคยทำเคยให้เครื่องบินบินผ่านแล้วแขวนป้าย “ขอโทษ” ไว้บนนั้น สุดท้ายง้อด้วยของกินน่าจะเวิร์กที่สุด ซื้อหอยแครงให้กินนี่แหละ หายงอนเลย
คชา : ผมก็ง้อนะ แต่สุดท้ายพอมาคุยกันด้วยเหตุและผลแล้ว ผมก็มักจะเป็นฝ่ายง้ออยู่ดี คุยกันดีๆ ไว้ดีกว่า มาตึงใส่กันแล้วปวดหัว
#ขี้อ้อน
คชา : ผมเป็นนะ ผมเป็นคนติดแฟนด้วยแหละ เขาจะไปไหนก็ไปด้วย ถ้ามีแฟนนะ ผมว่า มันเป็นสิ่งที่เราทำแค่กับคนพิเศษของเราคนเดียว
กวินท์ : ไม่อ้อนเท่าตอนเด็กๆ นะ พอโตขึ้นมาส่วนมากจะซื้อกระเป๋าให้ เขาเรียกว่า อ้อนหรือเปล่า พอแก่ขึ้นมันต้องใช้สตางค์ทุบแล้วไง
#ขี้อ่อย
คชา : ไม่ค่อยอ่อยใครหรอก รู้สึกว่า มันอันตราย
“ผู้หญิงเขารู้ทันเราหมดทุกอย่างแหละ เขาดูเราออกแหละ แล้วเราอาจจะไปเจออะไรที่อันตรายกว่า อาจจะมีเรื่องปวดหัวตามมาในภายหลัง แต่ถ้าเจอคนขี้อ่อยก็ไม่ใช่ว่า ไม่ชอบนะ แต่คงต้องดูเชิงก่อน”
#สายเปย์
กวินท์ : แน่นอน คนเราต้องใช้สตางค์แก้ไขปัญหา ตอนนี้เราเหมือนบลัฟกันอยู่ เขาจะซื้อของแพงให้ผม แล้วผมก็จะซื้อของแพงคืนให้ ล่าสุดเพิ่งซื้อ Cartier ให้ไป มันเหนื่อยเหมือนกันนะ การบลัพกันเนี่ย หลังจากปุ้ยซื้อนาฬิกา Rolex ให้ผม ผมก็เลยต้องซื้อกระเป๋า ซื้อ Cartier ให้เท่ากัน ต่อไปคงเป็นรถแล้วเนี่ย ผมต้องรีบเก็บสตางค์ตั้งแต่วันนี้ เปย์มาเปย์กลับไม่โกงครับ
คชา : ผมก็เปย์นะ แต่คงไม่ถึงเลเวลของกวินท์ แต่เวลาเราไปเดทเราก็จะจ่ายให้เขาตลอด แต่ต้องเป็นคนที่เรามั่นใจว่า คนนี้เป็นแฟนเราแล้วจริงๆ เราถึงจะอยากดูแล เทคแคร์เขาให้ดีที่สุด
#เจ้าชู้
กวินท์ : ก่อนมีเมียก็เจ้าชู้แหละ ตามประสาเด็กวัยรุ่นเพิ่งหาสตางค์เองได้น่ะ แต่พอมีแฟนผมก็จะหยุด
คชา : ตอนเด็กกว่านี้ก็เคยเป็นนะ แล้วพอได้บทเรียนมาก็มานั่งคิดว่า เหนื่อย ไม่คุ้มเลย ไม่เอาอีกแล้ว
กวินท์ : สมัยก่อนเคยลองสับรางแล้วโคตรวุ่นวายเลยครับ แต่ไม่ Game Over นะ ตอนนี้เป็นคนดีแล้วครับ
#จูบแรก
กวินท์ : ตอนนั้นผมอายุ 14-15 ปียังอยู่อังกฤษอยู่เลย ตามประสาเด็กฝรั่งก็จะโตไวหน่อย
คชา : ของผมน่าจะตอนอายุ 17-18 ปี เป็นโมเม้นต์ที่ยังจำได้อยู่เสมอครับ
#ไอ้ต้าว
คชา : ใช้เรียกอะไรสักอย่างที่น่ารักน่าทะนุถนอม แต่ผมไม่เคยใช้คำนี้นะ เคยได้ยินเพื่อนพูดแล้วหมั่นไส้อยากเข้าไปเขกกระโหลก
กวินท์ : เหมือน “พี่บ่าว” ไหมอะ ผมรู้จักแต่ “เน็ตไอเด้า”
#จิกหมอน
คชา : เคยเกิดอาการนี้ตอนเจอเต้ย-จรินทร์พร ตอนไปถ่ายรายการเมื่อนานมาแล้ว ตอนนั้นไปถ่ายรายการแล้วได้ของขวัญจากเขามา ฟินมาก
กวินท์ : มีบ้าง แต่เมียจับอาการได้ตลอด เขาบอกตาผมชอบลอกแล่ก (หัวเราะ)
┃Photography : Somkiat K.
┃Styling : Anansit K.