ซีซั่นที่แล้วทำคะแนนเอาไว้ดีมาก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สาวกแฟชั่นจะคาดหวังกับคอลเล็กชั่นต่อไป แต่ Fendi ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังเลยแม้แต่น้อย ขนเอาบรรดางาน Tailoring มาใส่ไว้ในคอลเล็กชั่น FW2020-21 มาจนล้น แค่นั้นคงไม่พอเพราะแบรนด์ยังปล่อย Holiday Edit ส่งท้ายปลายปีออกมาให้เราได้ช้อปฯ กันหนักกว่าเดิม
แค่เห็นรันเวย์โชว์ใน Milan Fashion Week เมื่อตอนต้นปี ก็พอจะเดาได้ว่า Silvia Venturini Fendi น่าจะหันแนวทางการออกแบบของไลน์เสื้อผ้าผู้ชายมาในสไตล์ที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและทันสมัยอย่างจริงจัง หลังจากประสบความสำเร็จมาแล้วก่อนหน้าจากคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2020 ที่ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าหรือกระเป๋าก็ต่างเป็นที่พูดถึงของสื่อแฟชั่น คราวนี้เธอกลับมาอีกครั้งกับกลิ่นอายแบบเดิม เพิ่มเติมคือหยิบเอากลิ่นอายของยุค 70s มาเป็นวัตถุดิบหลักในการสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นนี้ไม่ว่าจะเป็นโทนสีหรือซิลลูเอ็ตต์ จนทำเอาใครหลายคนขอเรียก Fendi ในช่วงนี้ว่าเป็นชาว Classicism
ถึงทิศทางงานดีไซน์จะคล้ายกับแบรนด์แฟชั่นอื่นๆ ที่มักจะหยิบของเก่ามาทำใหม่อีกครั้ง แต่สิ่งที่ทำให้เราชอบคอลเล็กชั่นนี้ของเธอคือความ Easy-to-Carry ที่ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มแบบไหนก็หยิบไปใส่ได้อย่างง่ายดาย โดยมีสไตล์หลักประจำคอลเล็กชั่นก็คืองาน Tailoring ซึ่งทำออกมาในดีไซน์อันหลากหลายแบบ อย่างแจ๊กเก็ตที่มาทั้งแบบ Crop-top ท้าทายความกล้าของหนุ่มสาวแฟ Oversized ที่หยิบไปใส่ได้อย่างไม่ต้องคิดมาก หรือจะเป็นแจ๊กเก็ตเบลเซอร์ Double-breasted แบบทูโทนก็น่าสนใจ แต่ที่มองข้ามไม่ได้ก็คือแจ๊กเก็ตผ้าขนสัตว์ที่ถูกดีไซน์เพิ่มช่องกระเป๋าให้สามารถใส่ข้าวของหรือซองซิการ์ได้มากขึ้น ดูเป็นไอเท็มสไตล์ Utilitarian ที่ใช้งานได้จริง แต่อาจจะไม่เหมาะกับอากาศของเมืองไทยเท่าไร
โค้ตตัวยาวในสไตล์ Classic-european เองก็ทำออกมาในดีไซน์แบบมินิมัลที่สามารถแม็ตช์กับไอเท็มอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย ส่วนกางเกงในคอลเล็กชั่นนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากยุค ค.ศ. 1800 ที่มักจะออกแบบให้ส่วนของปลายขากางเกงมีความกว้างเล็กน้อย เพื่อความคล่องตัว
ในด้านแมตทีเรียลเองก็มีความหลากหลายเช่นเดียวกับการดีไซน์ ไม่ว่าเป็นผ้าวูล, ผ้าทวิลล์ และผ้าแฟลนเนล ที่เป็นผ้าทอที่นิยมใช้ในช่วงซีซั่นนี้ แน่นอนว่า เพราะเทรนด์แมตทีเรียลของซีซั่น FW2020 เป็นหนัง เราเลยจะได้เห็นไอเท็มหนังสัตว์แอบแฝงอยู่ในคอลเล็กชั่นนี้ด้วยเช่นกัน
ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือเรื่องของสีสันที่เปลี่ยนจากโทนสีเขียวและน้ำตาลในแบบของฤดูใบไม้ผลิ มาเป็นโทนสีเหลือง สีแดง และสีน้ำตาลอ่อนในแบบของฤดูใบไม้ร่วง และเสริมความคูลอีกเล็กน้อยด้วยโทนสีดำและเทา แต่ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดก็คงจะเป็นสีเหลืองและดำนี่แหละ ที่ถูกใช้เป็นสีหลักของไอเท็มส่วนใหญ่ในคอลเล็กชั่นนี้
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ส่งท้ายรันเวย์โชว์ได้อย่างสวยงาม และดูจะเป็นไอเท็มที่สาวกแฟชั่นสนใจไม่แพ้กันก็คือ Jackets Photochromic คอลเล็กชั่นแจ๊กเก็ตเนื้อผ้าสังเคราะห์สุดพิเศษที่จะเปลี่ยนสีเมื่อถูกการสัมผัสจากแสง UV ซึ่งเป็นผลงานการรังสรรค์จากไอเดียของ Kunihiko Morinaga นักออกแบบชาวญี่ปุ่นที่ออกแบบสำหรับ Fendi โดยเฉพาะเพื่อแฟชั่นแห่งอนาคตอย่างอย่างแท้จริง เรียกว่าได้ใจหนุ่มสายแฟชั่นไปไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับการเปิดตัวคอลเล็กชั่นในครั้งนี้
นอกจากบรรดาไอเท็มในคอลเล็กชั่นนี้ที่เรานำมาให้ช้อปฯ กันแล้ว ยังมีไอเท็มบางส่วนที่ถูกหยิบไปอยู่ในคอลเล็กชั่นพิเศษส่งท้ายปลายปีอย่าง Holiday Edit ด้วยนะ แน่นอนว่าเราก็ไม่ลืมที่จะเอามาให้การ์ซงได้ดูกัน
Fendi Holiday Set มาในดีไซน์และสีสุดคลาสสิกย้อนยุคแบบปี 70s เช่นเดียวกับคอลเล็กชั่นใหญ่อย่าง FW2020-21 และเพิ่มลายกราฟิกใหม่ของ Fendi เข้าไป ช่วยเปลี่ยนมู้ดให้ช่วงปลายปีแบบนี้มีไอเท็มสนุกๆ ให้ใส่กันมากขึ้น ถึงจะลายกราฟิกใหม่จะโดดเด่นแต่ว่าคอลเล็กชั่นนี้ Silvia ดูเน้นไปที่บรรดาไอเท็มเสริมลุคมากกว่า เพราะมีทั้งสนีกเกอร์ ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ขนสัตว์ แว่นตากันแดดในดีไซน์สุดวินเทจ และกระเป๋าเครื่องหนังที่มาในสีดำและสีเหลืองซึ่งเป็นสีเอกลักษณ์ของ Fendi ที่สามารถนำไปครีเอทลุคสุดสมาร์ทที่เหมาะสำหรับสวมใส่ไปทำงานคู่กับไอเท็มอื่นๆ ในคอลเล็กชั่นใหญ่ได้อย่างลงตัว
Fendi Men’s FW2020-21 และ Fendi Holiday Edit เริ่มวางจำหน่ายแล้วผ่านทาง www.fendi.com ส่วนหนุ่มคนไหนที่ยังไม่เคยดูรันเวย์โชว์ของคอลเล็กชั่นนี้ เราก็หยิบมาให้ชมกันก่อนไปช้อปฯ กันด้วย
