อีกหนึ่งวิธีที่ใช้ตะโกนบอกให้ทุกคนได้รับรู้ว่า การ์ซงใช้ไอเท็มแฟชั่นจากเหล่าแบรนด์แถวหน้า ก็คือการเลือกชิ้นที่มีจุดเด่นของแบรนด์มาครีเอทลุค โดยเฉพาะไอเท็มที่มีลวดลายโมทีฟหรือโมโนแกรมประจำแบรนด์ที่เห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บว่า งานดีไซเนอร์แน่ๆ 

1

Dior Oblique Pixel Hawaiian Shirt &
Bermuda Shorts

     ช่วงปีที่ผ่านมาเราจะได้เห็น Dior หยิบเอาลวดลายโมทีฟอย่าง Dior Oblique ไปอยู่บนไอเท็มในไลน์เสื้อผ้าและกระเป๋าผู้ชายอยู่บ่อยๆ แต่จะมาเลือกไอเท็มแบบเดิมๆ ก็คงไม่มีอะไรใหม่ เราเลยหยิบเอาฮาวายเชิ้ตที่พิมพ์ลายโมทีฟในแบบพิกเซิลมาน่าจะดีกว่า เชิ้ตชิ้นนี้ทำมาจากผ้าซิลค์ล้วน ทอลายเป็นลวดลายโมทีฟที่รีดีไซน์เอกลักษณ์ของแบรนด์ออกมาในคู่สี Pale & Navy Blue หนุ่มๆ จะหยิบไปแม็ตซ์เข้ากับไอเท็มตัวล่างชิ้นไหนก็เข้าไปซะหมด ไม่ว่าจะเป็นกางเกงขาสั้นแบบ Summer Look ก็ได้ หรือจะหยิบไปใส่กับกางเกงแบบเวิร์กแวร์ เราก็ยังคิดว่าเข้าอยู่ แต่ชิ้นที่เป็นเพอร์เฟ็กต์แม็ตซ์ก็คือ Bermuda Shorts ที่ทำมาจากผ้าซิลค์ และทอลวดลายเช่นเดียวกับเชิ้ต ถ้าจะช้อปฯ ไปใส่ก็ต้องเอาไปเป็นคู่นะ 

Price : Hawaiian Shirt ราคาประมาณ 50,000 บาท และ Bermuda Shorts ราคาประมาณ 48,000 บาท
Where & When : วางจำหน่ายแล้วผ่านทาง www.dior.com

——————————————

2

Gucci Eco Washed Organic Denim
Bomber Jacket

     เป็นเรื่องที่ยากอยู่เหมือนกันนะที่จะต้องเลือกสักชิ้นจากแบรนด์เก่าแก่แบรนด์นี้ เพราะ Gucci เองก็ทำไอเท็มแฟชั่นในลวดลายโมทีฟ GG ออกมาเยอะอยู่เหมือนกัน แต่ถ้ามีโจทย์เป็นชิ้นง่ายๆ ที่หยิบไปใส่ใน Everyday  Look และยังต้องอินกับเทรนด์ใดเทรนด์หนึ่งในวงการแฟชั่น เราก็ขอเลือกเป็นบอมเบอร์แจ๊กเก็ตจากคอลเล็กขั่น Epilogue ของ Alessandro Michele ที่ทำมาจากผ้าเดนิมออร์แกนิกที่ปลูกแบบอินทรีย์ ลดการใช้น้ำ และสารเคมี ตามเทรนด์ Eco-Friendly แล้วทอลายโมทีฟ GG ด้วยเทคนิคแบบ Jacquard เก็บชายแขนเสื้อ ขอบกระเป๋าบริเวณอก และคลุมกระดุมด้วยหนังสีน้ำตาล พร้อมกับป้ายเลเบลตรงกระเป๋าอกด้านขวาที่เขียนคติของแบรนด์ในภาษาฝรั่งว่า “Gucci quelle qu’en soit la saison” ที่มีความหมายว่า “ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหนก็ต้อง Gucci” ซึ่งเราก็เห็นด้วยกับคตินี่นะ เพราะไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาหรือซีซันไหนไอเท็มแฟชั่นของแบรนด์ก็หยิบไปใส่ได้ตลอดแบบไม่ตกยุค

Price : ราคาประมาณ 120,000 บาท
Where & When : วางจำหน่ายแล้วผ่านทาง www.gucci.com

——————————————

3

Fendi Motif Printed Silk Shirt

     สาวกแฟชั่นอาจจะคุ้นเคยกับโมทีฟทรงเหลี่ยมแบบมินิมัลของ Fendi แต่ว่าจริงๆ แล้วแบรนด์ก็ยังมีโมทีฟอีกแบบหนึ่งเช่นกัน นั่นก็คือ ลวดลายโมทีฟ Fendi Code ที่เปลี่ยนจากทรงเหลี่ยมแบบเดิมๆ มาเล่นกับความโค้งมน สำหรับชิ้นที่เราแนะนำก็คือเชิ้ตแขนยาวผ้าซิลในซิลลูเอ็ตต์แบบ Comfort Fit จะหยิบเอาไปใส่ในลุค Business แบบหนุ่มนักธุรกิจสายแฟ หรือจะใส่คลุมเป็นเสื้อชั้นนอกคู่กับเสื้อยึดตัวในสีขาวก็ได้ทั้งคู่  เชิ้ตผ้าซิลค์ชิ้นนี้มีให้เลือกทั้งหมดสองแบบด้วยกัน แบบแรกจะเป็นเชิ้ตที่มีสีพื้นเป็นสีดำ แล้วพริ้นต์ลายโมทีฟเป็นสีเหลือง และอีกแบบจะเป็นเชิ้ตที่มีสีพืื้นเป็นสีขาว แล้วพริ้นต์ลายโมทีฟด้วยสีแดง ดำ เขียว และสีเหลือง

Price : ราคาประมาณ 40,000 บาท
Where & When : วางจำหน่ายแล้วผ่านทาง www.fendi.com

——————————————

4

Versace Barocco Mosaic Motif Jacket & Pants

     เราอาจจะคุ้นเคยกับบรรดาเสื้อผ้าและกระเป๋าที่มีลวดลายโมทีฟแบบเล็กๆ สุดมินิมัล แต่ก็ยังมีแบรนด์แฟชั่นบางแบรนด์ที่ไม่ขอทำซ้ำในแบบเดิมอยู่ อย่างเช่น Versace ที่เขานำเอาโมทีฟ Medusa Barocco Mosaic สีทองที่เป็นเอกลักษณ์อันคุ้นเคยมาขยายใหญ่ และเติมดีเทลความละเอียดละออ และประโยคต่างๆ อย่าง Gianni Versace, Versace, Love ในโทนสีแดงเข้าไป เพื่อเพิ่มลูกเล่น ก่อนจะนำไปพาดลงบนผ้าโพลีเอสเตอร์สีดำ แล้วตัดเย็บด้วยเทคนิคแพ็ตช์เวิร์ก กับผ้าโพลีเอสเตอร์สีขาว เป็นแจ๊กเก็ตโอเว่อร์ไซส์แบบสปอร์ตแวร์ แน่นอนว่า จะต้องหยิบไปจับคู่กับกางเกงที่พิมพ์ลาย และทำจากวัสดุเดียวกันเท่านั้น ถึงจะให้ลุคไฮสปอร์ตในแบบของ Versace ได้อย่างถูกต้อง หรือจะใส่คู่กันเป็น Total Look สำหรับวันชิลล์ๆ ที่พักผ่อนอยู่บ้านก็ผิดนะ 

Price : Barocco Mosaic Jacket ราคาประมาณ 52,500 บาท และ Barocco Mosaic Pants ราคาประมาณ 28,500 บาท
Where & When : วางจำหน่ายแล้วผ่านทาง www.versace.com 

——————————————

5

Loewe Wool and Cashmere Blanket Shirt 

เชื่อว่าการ์ซงหลายคนคงยังไม่รู้ว่า Loewe Anagram เองก็เป็นลวดลายโมทีฟที่อยู่คู่กับวงการแฟชั่นมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่เวอร์ชั่นแรกเริ่มที่ถูกสร้างสรรค์โดยศิลปินชาวสเปนอย่าง Vicente Yela มาจนถึงยุคที่ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์หนุ่มอย่าง Jonathan Anderson หยิบมารีดีไซน์ให้ดูร่วมสมัยอีกครั้ง และชิ้นที่เราเลือกมาในลิสต์นี้มีความเป็นลูกผสมระหว่างเชิ้ตกับคาร์ดิแกน ทำผ้าวูลผสมแคชเมียร์สีเทา เลยทำให้ระบายอากาศได้ดีกว่าวูลธรรมดา ไม่ต้องกังวลเลยว่าพอหยิบมาใส่ในเมืองไทยแล้วจะรู้สึกร้อนเกินไป มาพร้อมกับลวดลายโมทีฟ Loewe Anagram ขนาดใหญ่ ที่เกิดจากเทคนิคการทอแบบ Jacquard และชายเสื้อด้านหลังยังมีป้ายเลเบลหนักที่ปั้มจมด้วยโลโก้และโมทีฟของแบรนด์ ตอกย้ำกันให้ชัดๆ ว่าเชิ้ตตัวนี้เป็นของแท้ชัวร์ และถึงแบรนด์จะบอกว่าเป็นเชิ้ตที่ใส่เป็นชิ้นแรกหรือชิ้นเดียวได้เลย แต่เราคิดว่าด้วยดีไซน์ที่คล้ายกับคาร์ดิแกนแล้ว มันน่าจะเหมาะกับการใส่คลุมเป็นเสื้อคลุมตัวนอกมากกว่า

Price : ราคาประมาณ 50,000 บาท 
Where & When : วางจำหน่ายแล้วผ่านทาง www.loewe.com 

——————————————

6

Louis Vuitton Nano Amazone Messenger

     เปลี่ยนมาเอาใจหนุ่มๆ ที่ไม่ชอบใส่เสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยลวดลายเยอะๆ แต่ก็อยากอินกับลวดลายโมโนแกรมบ้าง กระเป๋าเลยเป็นตัวเลือกที่ดูจะตอบโจทย์ในสายตาของเราที่สุด ซึ่งเมื่อพูดถึงแบรนด์ที่เขาโดดเด่นเรื่องกระเป๋าลวดลายโมโนแกรมแล้วก็คงไม่พ้น Louis Vuitton เพราะไม่ว่าจะผ่านไม่กี่ซีซัน หนุ่มๆ จะต้องได้เห็นโมโนแกรมของแบรนด์ปรากฏตัวอยู่ตลอด แต่การ์ซงก็เบื่อลวดลายโมโนแกรมของแบรนด์ในแบบเดิมๆ แล้วใช่ไหมหล่ะ Virgil Abloh เขาเลยได้สร้างสรรค์มันใหม่ด้วยการทำเป็นโทนแบบ Pastel Noir ที่ให้ความคูล แล้วพร้ินต์ลงบนผ้าแคนวาส ก่อนจะขึ้นรูปเป็นทรง Nano Amazone Messenger ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Nano Bag ของปี ค.ศ. 1974 เป็นกระเป๋าใบที่ลงตัวมาก ทั้งเรื่องลวดลายโมโนแกรมของแบรนด์ในแบบใหม่ และทรงของกระเป๋าที่ไม่มีทางซ้ำกับใบอื่นๆ ในคอลเล็กชั่น รวมทั้งขนาดเล็กกำลังพอดี หยิบไปใส่ได้แบบชิลล์ๆ 

Price : ราคาประมาณ 68,000 บาท
Where & When : วางจำหน่ายแล้วผ่านทาง us.louisvuitton.com

——————————————

7

Burberry Monogram Print
E-canvas Robin Bag

     นอกจากลายตารางแล้ว Burberry เอง เขาก็มีลวดลายโมโนแกรมออกมาให้เหล่าสาวกแฟชั่นได้เอาไปใส่เหมือนกัน และที่เราพูดถึงก็ไม่ใช่ลวดลายไหนนอกจากลวดลาย Burberry TB Monogram ที่เป็นดีไซน์ดั้งเดิมของผู้ก่อตั้งอย่าง Thomas Burberry ซึ่งแบรนด์นำไปใช้ในไลน์กระเป๋า แต่ใบที่เราเลือกให้การ์ซงในคราวนี้ไม่ได้มีความพิเศษแค่เรื่องลวดลายหรอกนะ เพราะเจ้ากระเป๋าทรง Robin Bag ใบนี้ยังมีความน่าสนใจอยู่ตรงที่วัสดุหลักอย่าง E-canvas ที่เกิดมาจากกระบวนการใช้ซ้ำ ที่นอกจากจะลดปริมาณการใช้น้ำแล้วยังลดการปล่อย CO2 ด้วย หนุ่มๆ ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมน่าจะชอบ Robin Bag จาก Burberry มีให้เลือกทั้งหมดสองสีนะคือสี Bridle Brown และสี Charcoal/Black ถ้าเป็นแฟนของแบรนด์คงจะเลือกใบสีน้ำตาลอยู่แล้ว แต่สำหรับหนุ่มมินิมัลยุคใหม่ เราก็ขอเดาว่าต้องเลือกใบสีเทาชัวร์!

Price : ราคาประมาณ 38,000 บาท
Where & When : วางจำหน่ายแล้วผ่านทาง https://uk.burberry.com 


┃Photos : Courtesy of Brands