Search
Close this search box.
Search
Close this search box.
HOME / Interview

ทำความรู้จัก ‘เก้า & อัพ’ คู่จิ้นมาแรงจากซีรีส์ ‘นับสิบจะจูบ’

Interview

สร้างกระแสความจิ้นฟินจิกหมอนขาดกันไปแล้ว สำหรับซีรีส์วายสุดฮอตของช่อง 3 “นับสิบจะจูบ” ที่ได้คว้าตัวนักแสดงเลือดใหม่ให้มาจิ้นกันสนั่นจอแก้วเป็นครั้งแรก อย่าง อัพ-ภูมิพัฒน์ เอี่ยมสำอาง ที่ตัดสินใจรับบท ‘จีน’ ซึ่งเป็นการรับบทวายเป็นครั้งแรกในชีวิตการทำงาน และเก้า-นพเก้า เดชาพัฒนคุณ ที่เคยชิมลางซีรีส์วายเรื่องด้ายแดงมาแล้วและในครั้งนี้ได้มารับบท ‘นับสิบ’ ที่ทำให้คนดูใจสั่นและหวั่นไหวไปกับบทบาทการแสดงที่สดใหม่ และน่าจับตามองของทั้งสองหนุ่ม เรียกได้ว่าเคมีความน่ารักนั้นเข้ากันจริงๆ

ลิปส์ : แนะนำตัวเองกับผู้อ่านสักนิด
ภูมิพัฒน์ : ผมชื่อ “อัพ” อายุ 26 ปีครับ ผมจบปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แล้วศึกษาต่อปริญญาโทที่ SOAS University of London จบ International Studies and Diplomacy ครับ แล้วก็กลับมาที่ไทย ส่วนในตอนนี้กำลังศึกษาในระดับปริญญาเอก โปรแกรม International Development คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอยู่ครับ ที่เห็นผมเรียนเยอะอย่างนี้ เพราะเป็นคนอยากรู้ สมมุติว่าเราอยากรู้เรื่องนี้เราก็พยายามศึกษาเรื่องนี้ให้ลึกขึ้น ให้เข้าใจมันมากขึ้นครับ ส่วนการทำงานในวงการบันเทิง ผมเริ่มต้นจากงานโฆษณา แล้วก็เล่นซีรีส์เรื่อง GGEZ เกรียนเมพเทพศาสตร์ แล้วอีกเรื่องหนึ่งคือ Girl from Nowhere แนนโน๊ะ ตอนที่ 2 ครับ

นพเก้า : ผมเก้า – นพเก้า เดชาพัฒนคุณ นะครับ อายุ 26 ปีครับ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ผมเข้าวงการด้วยการแคสติ้งโฆษณา พอได้งานโฆษณาแล้วก็เริ่มได้เล่นละครเรื่องแรก สะใภ้กาฝาก ของทีวีธันเดอร์ ตอนนั้นได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ให้รับบทเป็นเล็กๆ น้อยๆ ทำให้เราเริ่มมีฐานแฟนคลับมาติดตาม มันเลยทำให้เราสนใจอยากจะเข้าวงการบันเทิงจริงจังครับ จนต่อมาก็ได้เล่นซีรีส์ Until We Meet Again ด้ายแดง ในปีค.ศ. 2020 ครับ

ลิปส์ : หลังจากที่ได้รู้จักกัน ทำงานร่วมกันในซีรีส์ “นับสิบจะจูบ” ทั้งคู่สนิทกันมากแค่ไหน
นพเก้า : เราเป็นเพื่อนที่ไปด้วยกันดีมากครับ (ยิ้ม)
ภูมิพัฒน์ : ใช่ครับ เราคุยกันได้ทุกเรื่อง คือตอนที่เราเจอกันในวันเวิร์กชอป มันเกร็งจริง เพราะเราไม่เคยเจอกันมาก่อนเลย แต่พอได้คุยกันขึ้นมา ก็ชิลล์ เก้าเป็นคนจริงใจ เป็นคนพูดตรงๆ เป็นคนที่คุยด้วยแล้วเรารู้สึกสบายใจ เพราะฉะนั้นเวลาทำงาน จะทำงานกันง่ายมาก ง่ายเสียจนมันกลายเป็นเพื่อนกันไปแล้ว
นพเก้า : อัพก็จริงใจเหมือนกันเลยครับ เราคุยกันตลอดครับ คือต้องบอกว่าผมกับอัพ เราปรึกษากันทุกเรื่องจริงๆ เราคุยกันแบบจริงจัง เราคุยกันแบบเปิดเผยกันทุกเรื่อง มีอะไรผมก็ปรึกษา ผมไม่รู้อะไรผมก็จะปรึกษาเขา อัพเป็นคนเก่ง แต่ถ่อมตัว ผมได้เรียนรู้จากเขาหลายอย่าง ผมก็จะบอกกับเขาเสมอว่า เขาแทบจะเป็นอาจารย์ผมได้เลย
ภูมิพัฒน์ : โอ้โห…เว่อร์ไปๆ ครับ (หัวเราะ)
นพเก้า : เห็นไหมครับว่าเขาถ่อมตัว ไม่เป็นไร คุณไม่ยอมรับไม่เป็นไร แต่เราก็รู้กันอยู่แล้ว (ยิ้ม)

ลิปส์ : ความรักของตัวละครในซีรีส์ สะท้อนมุมมองในเรื่องของความรักให้กับคุณอย่างไร
ภูมิพัฒน์ : ทุกคนก็มีการนิยามความรักในรูปแบบของตัวเอง ที่มีความแตกต่างหลากหลาย แต่ไม่ว่าจะเป็นความรักในรูปแบบไหนก็เป็นสิ่งสวยงามหมดนะครับ

“ไม่ว่าจะชายรักชาย หรือหญิงรักหญิง ไม่ว่าจะเพศไหนรักกัน เรื่องความรักมันเป็นเรื่องของคนสองคน ผมว่า มันเป็นอะไรที่สวยงามอยู่แล้ว เราไม่ควรตัดสินความรักของใครครับ”

ลิปส์ : แล้วความรักในชีวิตจริงของคุณเป็นอย่างไร
นพเก้า : ผมยังไม่มีแฟนหรอกครับ (หัวเราะ) ขอโฟกัสเรื่องงานก่อน คือตอนนี้ต้องหาเลี้ยงดูแลครอบครัวให้ดีที่สุดครับ (หัวเราะ)
ภูมิพัฒน์ : ความรักของผม ผมให้คุณพ่อคุณแม่และอาม่ามากที่สุดแล้วในชีวิต ไม่มีอะไรที่สามารถมาก่อนครอบครัวได้ ผมจะไม่ทำให้ครอบครัวมาทีหลังเด็ดขาด ขนาดรอยสักยังเป็นรูปครอบครัวเลยครับ (หัวเราะ) ผมถือว่า โชคดีมากๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ผม แล้วก็อาม่า ที่เป็นคนสำคัญมากๆ ในชีวิตของผม คือทั้งสามคนปล่อยให้เราได้ใช้ชีวิตเต็มที่ ให้เราได้ลอง ให้เราได้เจออะไรใหม่ๆ แล้วก็ไม่ได้บังคับให้เราต้องทำอะไร ปล่อยให้เราเจอ เผชิญปัญหาเอง ก็พยายามจัดการมันด้วยตัวเอง แต่พวกเขาก็คอยเป็นห่วงอยู่ใกล้ๆ หันไปก็เจอครับ 

ลิปส์ : ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เป็นตัวตนของคุณเป็นอย่างไร
นพเก้า : ผมเป็นคนที่ชอบแบ่งเวลา เวลาทำงานผมก็จะเต็มที่ แต่นอกเวลาทำงาน ผมก็จะไปทำอะไรที่อยากทำ ก็ไปเที่ยว ไปเดินป่า ไปเปิดประสบการณ์อะไรใหม่ๆ  ได้ไปเรียนรู้โลกภายนอกและต้องบอกว่าเวลาผมไปเที่ยวทุกครั้ง ผมแทบไม่มีรูปกลับมาเลยด้วยซ้ำ เพราะผมเป็นคนที่ไม่ติดโทรศัพท์ เวลาผมไปเที่ยวผมไปเพื่อที่จะซึมซับบรรยากาศโดยรอบ ได้อยู่กับตัวเองจริงๆ อย่างเวลาเดินป่ามันเหนื่อย แต่ผมก็จะคิดอะไรเรื่อยเปื่อยของผมไป มันก็จะมีเรื่องราวอะไรในชีวิตของผมที่ต้องทบทวนข้อผิดพลาด ทบทวนอะไรต่างๆ แต่แค่ผมได้ไปพักผ่อนได้พักสมองผมก็รู้สึกดีแล้ว อย่างล่าสุดผมไปดอยมะม่วงสามหมื่น ที่จังหวัดตากมา ผมชอบมาก เพราะเส้นทางเดินขึ้นสู่ดอย จะเป็นทางชัน เนินสูงต่ำ ทำให้ใช้เวลามากพอสมควรในการเดิน แต่ภาพตรงหน้าที่เราได้เห็นมันสวยงามมาก หรือบางที มีเวลาว่างมากหน่อย ก็ไปอยู่กับเพื่อนที่สมุย บางทีก็ไปอยู่เป็นเดือนครับ ถ้ามีโอกาสผมชวนเพื่อนไปตลอด ตอนนี้ผมก็เริ่มชวนอัพไปด้วยกัน

ภูมิพัฒน์ : ตัวผมเองเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่ว่างๆ เพราะรู้สึกว่า ทุกเวลาเราสามารถใช้มันได้คุ้มค่าได้เพราะถ้าเรานอนเฉยๆ หรือนั่งเล่นๆ ผมรู้สึกเสียเวลาที่นั่งอยู่ตรงนั้น แต่บางคนก็อาจจะเห็นว่าเป็นเวลาพักผ่อน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดี อันนี้ก็เป็นมุมมองที่แตกต่างกัน อย่างเก้าชวนผมไปสมุย ผมไปกับเก้าได้ เก้าไปเซิร์ฟ ผมก็ไปรอตรงชายหาด นั่งอ่านหนังสือได้ ไม่มีปัญหา (หัวเราะ) ผมชอบอ่านหนังสือ ส่วนใหญ่เป็นหนังสือ Non-fiction book ที่ให้สาระความรู้ เพราะผมไม่ค่อยอ่านนิยาย น้อยมากที่จะอ่านนิยาย แต่ถ้าเป็นนิยายก็จะมี 2 เรื่องที่ผมชอบที่สุดคือเรื่อง  Tuesdays with Morrie กับ The Picture of Dorian Gray ก็เป็นนิยายที่ให้แง่คิดต่างๆ กับเรามากเช่นกัน นั่นก็เป็นสิ่งที่ผมชอบทำมันจริงๆ ครับ

ลิปส์ : แล้วเรื่องของสไตล์การแต่งตัวใครสไตลิ่งเก่งกว่ากัน
นพเก้า : ไม่เก่งเลยครับ ผมมีแค่เสื้อยืด กางเกงขายาว แล้วก็เสื้อคลุมหนึ่งตัว รองเท้าผ้าใบ ก็ออกจากบ้านได้แล้วครับ (หัวเราะ)
ภูมิพัฒน์ : ผมก็ไม่ได้แต่งตัวเก่งหรอกครับ แต่ผมเป็นคนติดแอ็กเซสซอรี่ ติดนาฬิกา อย่างผมเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ก็จะมีความเชื่อว่า ใส่แหวนนิ้วก้อยมือซ้ายจะโชคดีครับ ส่วนนิ้วนางเป็นเรื่องของการทำงาน การเงิน ก็พยายามเลือกแบบที่ชอบ แนวเท่ๆ ร็อคๆ หน่อย ก็ใส่ติดตัวตลอดเวลาครับ

Photography : Somkiat K.
Styling : Anansit K.
เสื้อผ้า : Greyhound Original
ขอบคุณสถานที่ :  Che’rie Cafe BKK โทร. 08 9898 9890

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม