จบไปแล้วกับโชว์ตระการตาของ Bvlgari ที่เหล่านางแบบผู้เลอโฉมได้สวมใส่ชิ้นงานเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูง Magnifica High Jewellery อวดผลงานชิ้นเอกของโชว์ที่ถ่ายทำขึ้น ณ หนึ่งในสถานที่อันเป็นไอคอนิกสูงสุดของเมืองมิลาน อย่างศูนย์การค้าสุดหรู Galleria Vittorio Emanuele II ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบทบาทอันโดดเด่นของเมืองมิลานในฉากภาพยนตร์ระดับสากล พร้อมถ่ายทอดผ่านเลนส์เสมือนผู้ชมคอนเสิร์ตโอเปร่า ปิดท้ายโชว์ด้วยเหล่านางแบบแถวหน้า อยู่บนขั้นบันไดของประติมากรรมดวงอาทิตย์จำแลง โชว์นี้ได้แสดงความกล้าแกร่งระหว่างเครื่องประดับอัญมณีและสถาปัตยกรรมได้งดงาม
บรรยากาศโชว์งดงามท่ามกลางดนตรีบรรเลงดั้งเดิม โดยนักดนตรีชาวอิตาลี Marco Guazzone และนักร้องเสียงสูงโอเปร่าระดับตำนาน อย่าง Andrea Bocelli ตีความผ่านภาษาอิตาลีจากบทเพลง “Ode to Joy / Inno alla Gioia” ของ Beethoven ทั้งการแสดงซึ่งนำโดยวาทยกรออร์เคสตร้าชาวอิตาลีชื่อดังระดับโลก Beatrice Venezi
Magnifica High Jewellery ผลงานชิ้นเอกอันเลอค่า สร้างสรรค์ออกมาทั้งสร้อยคออิมพีเรียล สปิเนล (Imperial Spinel) ที่เผยความงดงามของสปิเนลใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสี่ของโลก 131.21 กะรัต ไปจนถึงสร้อยคอ Mediterranean Queen ซึ่งโชว์ความโดดเด่นของพาราอิบาทัวร์มาลีนเจียระไนทรงคุชชันวงรีห้าเม็ด หนักประมาณ 500 กะรัต ที่ประดับร้อยเรียงเข้ากับมรกตคาโบชองและเพชร พร้อมสถาปัตยกรรมจัดวางขนาด 10 เมตร สื่อถึงดวงอาทิตย์โรมันอันเจิดจ้าและเปี่ยมด้วยพลัง ทำให้โชว์ครั้งนี้น่าหลงใหล เข้ากับความสนุกสนานรื่นรมย์ ที่เชื่อมโยงระหว่างบ้านเกิดแห่งบุลการีและนครมิลานได้ลงตัว
ทั้งนี้เพื่อเฉลิมฉลองให้กับการเกิดใหม่ของมิลาน ที่ผ่านพ้นสถานการณ์อันยากลำบากจากการเผชิญกับโรคระบาดโควิด-19 บุลการีได้ตัดสินใจมอบการสนับสนุนผ่านการบริจาคพิเศษให้กับ Milan Municipality อีกด้วย
PHOTOS : Courtesy of Bvlgari
