Search
Close this search box.
Search
Close this search box.
HOME / Culture

Britney Spears เปิดปากต่อศาล “ฉันแค่ต้องการชีวิตของฉันคืน”

การประกาศทวงคืนอิสรภาพที่สั่นสะเทือนทั้งวงการ
Culture

หลังภาพยนตร์สารคดีเรื่อง “Framing Britney Spears” ออกอากาศไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็ทำให้เรื่องราวชีวิตอันยุ่งเหยิงที่นำไปสู่การสติแตก จนทำให้บริตนีย์ต้องเข้ารักษาบำบัดอาการทางจิตใจในโรงพยาบาล และเจมีพ่อของเธอได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้พิทักษ์ดูแลชีวิตและทรัพย์สินซูเปอร์สตาร์สาว ได้กลับมาอยู่ในความสนใจของผู้คนอีกครั้ง รวมถึงคดีความที่นักร้องสาวคนดังวัย 39 ยื่นฟ้องต่อศาลขอให้พ่อของเธอที่ทำหน้าที่นี้มาตั้งแต่ปี 2551 ได้ยุติการควบคุมทั้งชีวิตส่วนตัว เรื่องงาน และทรัพย์สินของเธอสักที แต่ศาลมีคำตัดสินไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วว่า ขยายเวลาให้เจมีผู้พ่อยังคงทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ต่อไปจนถึงเดือนกันยายนปีนี้

ล่าสุดบริตนีย์ สเปียรส์ได้มีโอกาสพูดต่อหน้าศาล เรียกร้องให้พ่อยุติหน้าที่การเป็นผู้พิทักษ์ชีวิตของเธอ และประกาศขออิสรภาพคืนจากพ่อบังเกิดเกล้า พอกันที่กับ 13 ปี ที่เธอไร้อิสระในการตัดสินใจทุกเรื่องในชีวิตแม้กระทั่งการมีลูก ถูกบังคับให้ทำงานหาเงินเยี่ยงทาส แม้กระทั่งป่วยก็ยังต้องขึ้นแสดง  “ฉันแค่ต้องการชีวิตของฉันคืนมา”

มีหลายประเด็นในถ้อยแถลงของบริตนีย์ที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั้งวงการ จนเกิดกระแส #FreeBriney ร้อนฉ่าขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 เริ่มจากประเด็นที่เธออยากพักกายพักใจหลังจบ Britney: Piece of Me ซึ่งเธอแสดงต่อเนื่องมาถึง 4 ปีเต็ม แต่กลับถูกขู่ให้ออกทัวร์ Britney: Domination ที่ลาสเวกัสต่อทันทีทั้งที่ไม่พร้อม จนที่สุดเธอก็ตัดสินใจขอยกเลิกโชว์นี้เพราะฝืนทนต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ

เธอยังถูกพ่อและทีมงานสร้างความเข้าใจผิดว่า เพราะไม่ยอมกินยาในช่วงที่ทำงานตลอดคอนเสิร์ต ทำให้เกิดปัญหาตามมา ที่สุดนักบำบัดโรคที่ทางพ่อและทีมงานเป็นคนจัดหาให้ ก็บีบให้เธอเปลี่ยนยามาเป็นลิเธียมทั้งที่เธอไม่อยากกิน เพราะว่าเป็นยารุนแรง จนทำให้เธอรู้สึกเหมือนคนเมาและขาดสติ ทั้งยังมีพยาบาลถึง 6 คนมาควบคุมดูแลและห้ามเธอออกจากบ้าน

ในเรื่องชีวิตส่วนตัว พ่อไม่ยอมให้บริตนีย์ตัดสินใจอะไรเองเลย แม้กระทั่งการเลือกสีตู้ เคยมีรายงานข่าวว่าเธอทำเงินได้มากถึง 59 ล้านเหรียญต่อปี แต่พ่อให้เธอใช้เงินได้แค่พันกว่าเหรียญต่อสัปดาห์ เธอยังถูกห้ามไม่ให้เจอลูกๆ และแฟนหนุ่ม ถ้าทำงานไม่ถึงที่ทีมงานกำหนด และยังถูกบังคับให้ใส่ห่วงคุมกำเนิด “ฉันบอกทั้งโลกว่าตัวเองสบายดีและมีความสุข ซึ่งในความเป็นจริงฉันเครียด ไม่มีความสุข นอนไม่หลับ และฉันร้องไห้ทุกวัน”

“ฉันแค่ต้องการชีวิตกลับคืนมา ฉันอยู่กับสิ่งนี้มาแล้ว 13 ปี มันควรพอสักที และอยากให้ฟังเสียงของฉันบ้าง เหตุผลที่ฉันมายืนอยู่ที่นี่ในวันนี้ เพราะต้องการให้สิทธิของผู้พิทักษ์นี้จบสิ้น และฉันควรมีสิทธิตัดสินใจด้วยตัวเอง สามารถสร้างครอบครัวและมีลูกได้อีกครั้ง นี่คือทั้งหมดที่ฉันอยากมาพูด และขอบคุณมากที่ให้โอกาสฉันได้มาพูดวันนี้”

หลังจากข่าวการขึ้นศาลครั้งนี้เปิดเผยออกมา ก็มีคนดังหลายต่อหลายคนอาทิ มารายห์ แครี่ ดิว่ารุ่นใหญ่, จัสติน ทิมเบอร์เลค อดีตคนรักของบริตนีย์ และฮาลซีย์ ศิลปินสาวมาแรง ได้ออกมาให้กำลังใจบริตนีย์และขอให้เธอได้รับอิสรภาพอย่างที่ต้องการในเร็ววัน

SOURCE : variety.com, @britneyspears

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม