สมการรอคอยกับ Chanel และโชว์คอลเล็กชั่นโอตกูตูร์โดย Virginie Viard ที่ได้ปลุกสถาปัตยกรรมนีโอเรอเนซองส์ของ Palais Galliera แรงบันดาลใจจากการเคลื่อนไหวของภาพวาดฝรั่งเศส สู่การรังสรรค์แฟชั่นชั้นสูง ฟื้นคืนชีพศิลปะ นับเป็นอีกหนึ่งโมเมนต์ที่ต้องจารึกความยิ่งใหญ่ของตำนานแฟชั่น
โอตกูตูร์คอลเล็กชั่นนี้ จิตรกรรมคือหัวใจ จากการที่ Virginie ค้นพบภาพเหมือนของกาเบรียล ชาเนลที่สวมชุดเดรสสีดำ ขาวในยุค 1880 จนทำให้นึกถึงเรื่องเทเบิ้ลทันที ซึ่งคือแรงบันดาลใจของผลงานของ Berthe Morisot, Marie Laurencin และ Édouard Manet ศิลปะอิมเพรสชั่นนิสม์ ผ่านสีสันสวยงาม ในสไตล์ที่โทนสีขาวครีมของสถาปัตยกรรม Palais Galliera ที่สาดแสงความโดดเด่นมาสร้างตื่นตาตื่นใจให้กับสายแฟชั่นนิสต้า ได้เห็นซูมดีเทลลุคกันแบบเต็มๆ
impressionist-inspired
ลุคที่สะท้อนการแปรงพู่กันแบบอิมเพรสชันนิสม์ ถ่ายทอดสีสันที่เกิดจากการปักด้วยฝีมือประณีต ในยามที่อากาศอบอุ่น จากความตั้งใจที่ Virginie ชอบเห็นสีสันในความมืดของฤดูหนาว
English gardens
ชุดที่บานสะพรั่งด้วยดอกไม้ในสวนสไตล์อังกฤษ ทำให้หวนนึกถึงทุ่งดอกไม้สไตล์อังกฤษ ถ่ายทอดลงบนผ้าทวีดที่ทอด้วยมือ เป็นดีไซน์ดอกไม้โดดเด่น
French style
ผสานกลิ่นอายสไตล์ฝรั่งเศสเข้าด้วยกันตามแบบฉบับของชาเนล
Masculine Chic
การผสมผสานสไตล์มัสคูลีนไม่ว่าจะเป็นซิลูเอทชุดสูท กางเกงที่ทะมัดทะแมง แจ็คเก็ตแต่มีเสน่ห์ของดีเทล แมททีเรียลงานปัก รวมทั้งผ้าทวีดสีโทนเดียวที่ช่วยเติมเต็มให้ลุคน่าหลงใหล
The feminine Detail
ซิลูเอทที่สะท้อนความเฟมินีน ทั้ง กระโปรงทรงบานเอไลน์ รวมไปถึงเดรส ที่เน้นดีเทลเทคนิคการปัก ประดับดอกไม้บนแมททีเรียล และสีสันที่หลากหลาย อย่างมิลติคัลเลอร์ สีชมพู และโทนสีเหลือง
Finale
ปิดท้ายด้วยลุคฟินนาเล่ เจ้าสาวสีขาวงามสง่า ถือดอกไม้เดินจบโชว์ได้อย่างอลังท่ามกลางบรรยากาศน่าประทับใจ ในสถานที่เลื่องชื่อเรื่องแฟชั่น และศิลปะ ที่ชาเนลได้ปลุกความตระการตาขึ้นมาอีกครั้ง
PHOTOS : Courtesy of Chanel