ประวัติศาสตร์อันยาวนานของงานฝีมือจากช่างผู้เชี่ยวชาญและชำนาญชั้นครู เมื่อผสานรวมกับมรดกตกทอดของงานออกแบบและคุณภาพเหนือระดับที่สั่งสมกันมากกว่า 160 ปี ของหลุยส์ วิตตอง ผลงานการออกแบบที่เปี่ยมไปด้วยความเป็นผู้หญิงในดีไซน์ไร้กาลเวลา สร้างให้กระเป๋าถือรุ่น Capucines นั้นเปรียบได้ดั่งสัญลักษณ์อันเป็นแก่นแท้ของงานฝีมือจากหลุยส์ วิตตอง ที่หญิงสาวทุกคนจะได้ครอบครองยิ่งกว่ากระเป๋าแต่เป็นดั่งผลงานชั้นเอก ที่เปี่ยมไปด้วยมนต์สะกดของทั้งความงามและความเป็นเลิศทางด้านดีไซน์และคุณภาพควบคู่ไปด้วยกัน
กระเป๋า Capucines ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นครั้งแรกในปี 2013 โดยชื่อของกระเป๋าถูกตั้งตามชื่อของร้านหลุยส์ วิตตอง สาขาแรกบนถนน Rue des Capucines ในปี 1854 และได้รับแรงบันดาลใจมาจากหีบเดินทางของหลุยส์ วิตตอง ที่แฝงไว้ด้วรายละเอียดอันเป็นเอกลักษณ์ที่สืบทอดต่อๆ กันมาทั้งในส่วนโลหะแกะสลักและลวดลายดอกไม้โมโนแกรม โดยถูกออกแบบขึ้นด้วยรูปทรงเรขาคณิตและงานดีไซน์อันแสนคลาสสิค ที่รวมเอาองค์ประกอบของช่างทำหนังชั้นครูที่เริ่มมีการฝึกฝนเทคนิคให้แก่เหล่าอาเตลิเยร์ที่เมือง Asnieres ประเทศฝรั่งเศส มาตั้งแต่ปี 1892 เข้ากับการออกแบบอันแสนคลาสสิค
การออกแบบที่แฝงไปด้วยรายละเอียดมากมายที่เชื่อมโยงกับผลงานในอดีตด้วยการนำหีบเดินทางมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ และดึงเอารายละเอียดของส่วนโลหะแกะสลักและลวดลายดอกไม้โมโนแกรมเข้ามาใส่ในรายละเอียดของกระเป๋า โดยที่รูปแบบของกระเป๋าได้นำรูปทรงเรขาคณิตมาดีไซน์เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานและจำจด
เทคนิคการขึ้นแพทเทิร์นและการประกอบกระเป๋ากว่า 250 ขั้นตอน ที่ต้องอาศัยความสามารถระดับสูงของช่างฝีมือ เพื่อผลิตกระเป๋าระดับไอคอนิคใบนี้
การคัดเลือกแผ่นหนัง Taurillon หนังลูกวัวเนื้อนิ่มคุณภาพเยี่ยมถูกเลือกมาใช้ในการสร้างสรรค์กระเป๋าใบนี้ ประกอบกับความหมายของหนังตั้งแต่ 2 ถึง 2.4 มิลลิเมตร ที่ให้สัมผัสนุ่มละมุนดุจกำมะหยี่ คือความสมบูรณ์แบบของผิวสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์
ชิ้นส่วนแผ่นหนังต่างๆ ถูกนำมาประกอบเป็นกระเป๋าด้านในและตกแต่งด้วยแผ่นทองคำเปลวโดยใช้เทคนิคการประทับด้วยความร้อน ก่อนที่หมุดโลหะจะถูกติดเข้ากับส่วนล่างของกระเป๋าโดยแนบสนิทอย่างระมัดระวัง
แผ่นโลหะฉลุลวดลายดอกไม้โมโนแกรมที่จะถูกนำมาประกอบและติดเข้ากับส่วนของฝาปิดกระเป๋ารูปทรงคล้ายกลีบดอกไม้ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากลวดลายโมโนแกรมอันเป็นเอกลักษณ์
เทคนิค “beau geste” คือการกลับกระเป๋าด้านที่ถูกต้องออกมาภายนอก แล้วจึงเย็บด้วยเทคนิคการเย็บอานม้า (saddie stitch) เป็นขั้นตอนสุดท้ายเพื่อขึ้นรูปโครงสร้างเรขาคณิตของกระเป๋าให้โค้งมนและแข็งแรงทนทาน จบขั้นตอนด้วยการย้อมสีหนังบริเวณขอบของกระเป๋า
ลายละเอียดของการประดับโลโก้ตัวอักษร LV ที่ถูกวางลงอย่างปราณีต เส้นขอบของตัวอักษรจะถูกล้อมรอบด้วนแผ่นหนังลูกวัวบริเวณส่วนนอกของกระเป๋า
ส่วนของหูกระเป๋าถูกยึดด้วยอะไหล่รูปวงแหวนประดับหมุด 6 ชิ้น ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการสร้างสรรค์เครื่องประดับและจะต้องมีความแข็งแรงทนทานเพื่อการสะพายเข้าไหล่คล้องแขน และถือด้วยมือ
PHOTOS : COURTESY OF LOUIS VUITTON