ปิดฉากแล้วสำหรับแฟชั่นวีกที่มิลานประเทศอิตาลี ถึงแม้แว่าภาพรวมอาจไม่หวือหวามากนักเพราะกระแสของโอไมครอนที่เริ่มระบาดหนักในยุโรป แต่แบรนด์ที่โชว์ที่มิลานคอลเลคชั่น Fall/Winter 2022 กลับทำได้อย่างน่าประทับใจ
ถ้าใครติดตามข่าวแฟชั่นจะรู้ว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เทรนด์นั้นจะเน้นเสื้อผ้าง่ายๆ สบายๆ ตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค แต่วันนี้มิลานแสดงให้เห็นแล้วว่า ‘แฟชั่นกลับมาแล้ว’ เราลองมาดูกันว่าวันสุดท้ายมีแบรนด์อะไรที่น่าสนใจบ้าง
Etro
ใครที่เป็นสายแฟตัวจริงจะรู้ว่า Etro เป็นแบรนด์อิตาเลียนที่มีกลิ่นอายแบบฮิปปี้และโบฮีเมียนสูงมาก โดยมีลายพิมพ์ซิกเนเจอร์ของแบรนด์อย่าง ‘Paisley’ ที่คอยเป็นตัวชูโรงให้กับคอลเลคชั่นเสมอๆ แต่คราวนี้ Kean Etro ดีไซเนอร์ของแบรนด์เลือกที่จะแอบใส่ลายพิมพ์ตัวดังและปล่อยสไตล์แบบอื่นทำงานบ้าง มู้ดโดยรวมครั้งนี้ดูชิลล์และสบายด้วยเสื้อผ้าซิลูเอ็ตต์โคร่งๆ โอเวอร์ไซส์ ทั้งแจ็คเก็ต เสื้อคลุม ไปจนถึงกางเกง แต่ความสบายแทรกไปด้วยดีเทลเก๋ๆ เต็มไปหมด ทั้งลายพิมพ์ ลายปัก หรือแม้กระทั่งเนื้อผ้าที่หลากหลาย
ด้านโทนสีของคอลเลคชั่นถือว่าฉูดฉาดกว่าที่เราคาดคิดทั้งเหลืองมัสตาร์ด สีแดงคริมสัน สีเขียวและสีน้ำเงิน ชิ้นเด่นของคอลเลคชั่นเรายกให้ ‘สเวตเตอร์’ ที่ถูกพรีเซนต์ออกมาหลายรูปแบบแต่ที่ถูกใจเราที่สุดขอยกให้ลายหมาป่าที่แอบน่ารักสะงั้น Etro คอลเลคชั่นนี้เน้นชิลล์แต่เก๋ เสื้อผ้าที่ใส่ได้ในชีวิตจริงจะหมกตัวในบ้านหรือจะแมตช์ออกไปข้างนอกตอบโจทย์ทั้งสองแบบ
Prada
นี่มันพรมแดงงานออสการ์หรือแฟชั่นโชว์ของ Prada กันแน่ ถ้าคุณเป็นคนหนึงที่ติดตามงานแสดงของ Jeff Goldblum, Thomas Brodie-Sangster, Asa Butterfield, Damson Idris หรือ Kyle MacLachlan คุณคงตื่นเต้นที่ได้เห็นพวกเขาเดินแบบที่ Prada คราวนี้ การทำงานร่วมกันระหว่างสองนักคิดแห่งโลกแฟชั้น Raf Simons และ Miuccia Prada เสกคอลเลคชั่นล่าสุดให้เราได้หายใจคำว่า ‘แฟชั่น’ อีกครั้ง
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในคอลเลคชั่นนี้คือซิลูเอ็ตต์แบบ Powersuit สูทตัวโคร่งไหล่ตั้งเอวคอดเบาๆ เสื้อผ้าทั้งหมดพูดเลยว่าไม่ง่าย ซับซ้อน และดูใส่ยาก แต่มันคือเสน่ห์จริงๆ ของแบรนด์ Prada การเป็น Trend Setter ก้าวไปข้างหน้าก่อนใครอาจทำให้หลายคน เอ๊ะ!!! แต่นั่นเหละความสนุกที่สองนักคิดที่ต้องการจะท้าทายสายตา ความคิดและการแต่งตัวของเราๆ คอลเลคชั่นนี้จริงๆ มันคือการต่อยอดจาก Workwear ให้ดูเปรี้ยวมากขึ้นตามคำพูดของดีไซเนอร์ทั้งสอง ‘Clothes that make people feel important’ แหมถ้าได้ใส่ชุดพวกนี้ยังไงก็ต้องสำคัญแล้วละ
JW Anderson
ดีไซเนอร์ที่กำลังฮอตเลยจากการยกเครื่อง Loewe จนสำเร็จกลายเป็นแบรนด์ท๊อปฟอร์มได้เหมือนเดิม กลับมาที่แบรนด์ของตัวเองกันบ้างแย่หน่อยที่เขาไม่สามารถจัดโชว์ได้ตามหวังเนื่องจากโควิด-19 ที่กำลังระบาดจนจำใจต้องเปลี่ยนมาเป็น Digital แทน อย่างไรก็ตามนั่นไม่ได้หยุดคอลเลคสุดเพี้ยนแฟชั่นจัดๆ นี้ลงได้
อีกครั้งที่ JW Anderson ท้าทายคำว่า Masculinity ความเป็นชายจริงๆ แล้วมันคืออะไร หรือมันสามารถออกจากกรอบได้มากกว่านั้นไหม ซึ่งเขาเคยทำมาก่อนหน้าแล้วในคอลเลคชั่นก่อนๆ และเป็นสาเหตุที่ทำให้แฟนรักแบรนด์ของเขา ครั้งนี้เสื้อผ้าของออกแบบมาเพื่อรับกับบรรยากาศปาร์ตี้ (เจ้าโควิด-19) เสื้อผ้าทุกชิ้นมองภาพรวมเหมือนไปคนละทิศคนทางหาจุดเชื่อมยากพอสมควร แต่นั่นเหละความตั้งใจเขาต้องการเสื้อผ้าที่มีคาแรกเตอร์เป็นของตัวเอง เหมือนเวลาที่เราไปผับนั่นเหละเราก็อยากดูแตกต่าง จึงเป็นที่มาของคำว่า เพี้ยนแต่เก๋
