Search
Close this search box.
Search
Close this search box.
HOME / Beauty / Fragrance

ค้นหา ‘น้ำหอมกลิ่นโปรด’ กับ 9 กลิ่นหอมสุดคลาสสิก

กลิ่นหอมแบบไหนที่บ่งบอกสไตล์และเป็นตัวเรามากที่สุด
Beauty / Fragrance

‘กลิ่นน้ำหอม’ เป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับรสนิยมส่วนตัว และยากที่จะอธิบายเป็นรูปธรรมได้ ในขณะเดียวกันกลิ่นหอมก็ทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ สามารถปลุกเร้าความทรงจำ และความรู้สึกได้เป็นอย่างดี ขณะที่ประสาทสัมผัสอื่น ๆ ของมนุษย์ไม่สามารถทำได้ดีเท่ากับการดมกลิ่น

ศาสตร์อันสุดซับซ้อน และน่าฉงนของกลิ่นหอมต่าง ๆ ทำให้การเลือกน้ำหอมเป็นเรื่องที่ยากโดยเฉพาะมือใหม่ ดังนั้นในโลกน้ำหอมจึงเกิด ‘ประเภทของกลิ่นหอม’ ขึ้นมาเพื่ออธิบาย และจำแนกกลิ่นให้เข้าใจตรงกัน วันนี้เรารวบรวมมาให้ชาว LIPS ทำความรู้จักถึง 9 ประเภทกลิ่นน้ำหอม และกลิ่นไหนจะใช่คุณที่สุด ตามไปค้นหาพร้อม ๆ กัน…

น้ำหอมกลิ่นดอกไม้ (Floral)

น้ำหอมกลิ่นดอกไม้เป็นกลิ่นหอมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเภทของน้ำหอมทั้งหมด เพราะนอกจากความชื่นชอบของแฟนน้ำหอมทั่วโลกแล้ว กลิ่นดอกไม้ยังสามารถสร้างความโรแมนติกได้เป็นอย่างดี มอบความรู้สึกราวกับอยู่ในฤดูร้อน หรืออยู่ท่ามกลางงานแต่งงาน ทำให้น้ำหอมกลิ่นนี้เป็นที่นิยมในหมู่เจ้าสาว เพราะเหมาะกันมากๆ กับพิธีสุดพิเศษนี้

น้ำหอมกลิ่นดอกไม้ยังสามารถผสมผสานกับความเฟมินีนของผู้หญิงและส่งให้คาแรกเตอร์ของสาวๆ ดูอ่อนหวานและน่ารักมากขึ้น แต่ในปัจจุบันน้ำหอมกลิ่นนี้ได้กลายเป็นที่นิยมของผู้ชาย เพราะเส้นแบ่งเพศของน้ำหอมเริ่มเลือนไป น้ำหอมที่เราอยากแนะนำก็มี Marc Jacob Daisay, Byredo Lil Fleur รวมไปถึง Jo Malone English Pear & Freesia โทนกลิ่นฟลอรัล ฟรุตตี้

น้ำหอมกลิ่นหวานซ่อนเปรี้ยว (Citrus)

ในเมืองร้อนอย่างประเทศไทย น้ำหอมกลิ่นนี้เหมาะมากๆ นั่นคือ ‘Citrus’ (ซิตรัส) หรือกลิ่นจากผลไม้รสเปรี้ยวอย่างส้ม มะนาว เกรปฟรุต ด้วยคาแรกเตอร์กลิ่นที่มีชีวิตชีวา และสดชื่นอยู่เสมอตั้งแต่เพิ่งฉีดไปจนถึงก่อนอาบน้ำ น้ำหอมกลิ่นซิตรัสนั้นเป็นกลิ่นที่เบาบางจึงมักจะผสมผสานส่วนประกอบอื่นๆ ลงมาในน้ำหอมด้วย

ปกติแล้วน้ำหอมกลิ่นนี้ เรามักจะได้กลิ่นส้ม เบอร์กามอต และมะนาวในช่วงต้น (Top Note) และช่วงกลางของกลิ่น (Middle Note) แต่ส่วนปลาย (Base Note) ของกลิ่นมักจะเป็นส่วนประกอบจากกลิ่นหอมประเภทอื่นๆ เช่น Woody หรือ Amber น้ำหอมที่ดังๆ ก็ต้องยกให้ Jo Malone Lime Basil & Mandarin หรือกลิ่นหอมคลาสสิกอย่าง Calvin Klein CK One

น้ำหอมกลิ่นผลไม้หอมหวาน (Fruity)

อีกกลิ่นหอมที่ได้รับความนิยมมากในหมู่สาวๆ อย่างกลิ่นฟรุตตี้ (Fruity) หรือกลิ่นผลไม้หอมหวาน เช่น แอปเปิ้ล, ลูกแพร์, ลูกพีช, ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ด้วยความหวานฉ่ำที่เป็นคาแรกเตอร์หลักของกลิ่น ทำให้เรานึกถึงฤดูร้อน และชาวตะวันตกก็นิยมน้ำหอมกลิ่นนี้มากเช่นกัน เพราะบ้านเขาหนาวแทบจะตลอดทั้งปี

แม้จะให้กลิ่นหอมหวาน แต่ก็ซ่อนไปด้วยความรู้สึกขี้เล่น ขึ้นอยู่กับส่วนประกอบกลิ่นอื่นๆ ที่จับคู่กัน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นกลิ่นดอกไม้ และน้ำหอมแนวนี้ที่เราอยากแนะนำก็คือ ‘Fresh Sugar Lychee’ และ ‘Jo Malone Nectarine Blossom & Honey’ รวมถึงไปถึง ‘Dolce Gabbana Fruit Collection Pineapple’

น้ำหอมกลิ่นเครื่องเทศ (Oriental/Amber)

กลิ่นน้ำหอมที่เรารู้จักกันในชื่อ ‘Oriental’ (โอเรียนทัล) หรือน้ำหอมสไตล์ตะวันออกใช้มายาวนานในอารยธรรมตะวันออกกลางและโด่งดังไปทั่วโลก ปัจจุบันนี้ น้ำหอมกลิ่นโอเรียนทัลมีความสำคัญมากต่อโลกของน้ำหอม เพราะในอดีตได้ใช้ส่วนผสมสุดแสนหายากจากสัตว์ นั่นก็คือ Ambergis (มูลปลาวาฬหรืออำพันทะเล) ทำให้นักปรุงน้ำหอมต้องสร้างส่วนผสมสังเคราะห์ขึ้นมาทดแทนอย่าง Ambroxan (แอมบรอกแซน) ที่นิยมใช้เป็น Base Note เพื่อให้กลิ่นติดทนนานและกระจายตัว

กลิ่นแอมเบอร์ (Amber) จะเป็นกลิ่นเครื่องเทศหอมนุ่มโทนอุ่นไปจนถึงความร้อนแรง ซึ่งได้กลิ่นจากเครื่องเทศหลากชนิด เช่น วานิลลา, พริกไทย, อบเชย, กานพลู และลูกจันทน์เทศ หากเป็นน้ำหอมของผู้ชาย ตัวกลิ่นจะออกแนวเผ็ดร้อน (Spicy) แฝงไปด้วยความหวานเย้ายวน ส่วนน้ำหอมผู้หญิงจะเน้นกลิ่นวานิลลาและอบเชย ช่วยเพิ่มความหรูหรา มีมิติน่าค้นหามากขึ้น ทั้งนี้กลิ่นโอเรียนทัลและแอมเบอร์มักจะผสมผสานกับกลิ่นอื่นๆ เช่น ฟลอรัล, ฟรุตตี้ เพื่อไม่ให้มีกลิ่นเครื่องเทศฉุนจนเกินไป

น้ำหอมที่เราแนะนำก็จะมี Yves Saint Laurent Opium, Christian Dior Spice Blend และ Maison Margiela Replica By The Fireplace ที่เป็นนิยมอยู่ตอนนี้

น้ำหอมกลิ่นไม้ (Woody)

‘Woody’ หรือน้ำหอมกลิ่นไม้เป็นกลุ่มน้ำหอมที่ได้รับความนิยมมาก ในหมู่คุณผู้ชายด้วยคาแรกเตอร์ของกลิ่นที่มีความสุขุม อบอุ่น และเข้มข้น ชวนให้นึกถึงการเดินท่ามกลางป่าในฤดูฝน ประกอบไปด้วยส่วนผสมจากกลิ่นของไม้จันทน์หอม หญ้าแฝก ไม้ซีดาร์ หรือแม้แต่ไม้กฤษณา

เราขอยกมาแนะนำ 3 กลิ่นที่พลาดไม่ได้ เริ่มที่ ‘Le Labo Santal 33’ น้ำหอมกลิ่นไม้จันทน์หอมที่เป็นที่นิยมมากในนิวยอร์ก โดดเด่นด้วยความเข้มข้นของกลิ่นและกระจายตัวได้ดีจนทำให้คนเดินเข้ามาจับมือคุณและถามว่า “คุณใช้น้ำหอมอะไร?” ตัวที่สอง ‘Hermes Terre D’Hermes’ น้ำหอมที่ให้ความรู้สึกเดินบนพื้นดินนุ่มๆ หลังฝนตก เหมาะมากสำหรับใส่ไปทำงานเพราะมันสุขุมและมีเสน่ห์ และสุดท้าย ‘Tom Ford Oud Wood’ น้ำหอมกลิ่นไม้ที่แทรกด้วยกลิ่นควันผสมวานิลลาและกลิ่นเครื่องเทศจางๆ เวลาใช้แล้วจะเหมือนพระเอกหนังฮอลลีวูดเลย

น้ำหอมกลิ่นอะโรมาและกลิ่นทะเล (Aromatic & Aquatic)

น้ำหอมที่ให้กลิ่นผ่อนคลายและความรู้สึกที่ปลอดโปร่งอย่างกลิ่นอะโรมา (Aromatic) และกลิ่นทะเล (Aquatic) เป็นอีกน้ำหอมที่เหมาะกับหน้าร้อน เราจึงขอจับทั้งสองกลิ่นนี้มารวมไว้ในหมวดเดียวกัน กลิ่นหอมอะโรมานั้นมีส่วนผสมจากสมุนไพรและดอกไม้ที่มีกลิ่นเข้มข้นอย่างเช่น ลาเวนเดอร์ โรสแมรี่ และใบเซจ

ส่วน Aquatic เป็นน้ำหอมที่ใช้แล้วนึกถึงทะเล ให้ความรู้สึกเปล่งประกายราวกับพระอาทิตย์ส่องกระทบเกลียวคลื่น มีส่วนผสมของกลิ่นสังเคราะห์อย่าง Marine Fresh Air, สาหร่าย หรือแม้กระทั่งเกลือที่เมื่อผสมรวมกันแล้วจะเป็นกลิ่นทะเล เหมาะมากสำหรับเมืองร้อนอย่างบ้านเรา มีน้ำหอมตัวหนึ่งที่มอบทั้งกลิ่นผ่อนคลายและยังชวนให้นึกถึงทะเลในคราวเดียว นั่นคือ ‘Jo Malone Wood Sage & Sea Salt’ กลิ่นหอมอีกตัวที่ขายดีของ Jo Malone

น้ำหอมกลิ่นชีเพรอ (Chypre)

‘Chypre’ อ่านออกเสียงว่า “ชี-เพรอ” น้ำหอมกลิ่นนี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศไซปรัส มีคาแรกเตอร์ของกลิ่นที่แตกต่างและซับซ้อน พูดเลยว่าแรร์มากในโลกของน้ำหอมเพราะไม่ค่อยรู้จักกันอย่างแพร่หลาย จัดเป็นกลิ่นที่มีความงดงามมาก ในมุมมองของนักปรุงน้ำหอม กลิ่นแนวนี้ประกอบไปด้วยกลิ่นของโอ๊ก มอส เรซิน เบอร์กามอต และพิมเสน นิยมปรุงให้เป็นน้ำหอมผู้ชาย เราขอยกมาหนึ่งกลิ่นที่คลาสสิกสุดๆ อย่าง ‘Chanel No.19’ กลิ่นแนวชีเพรอผสมกับกลิ่นมินต์ ปรุงขึ้นมาจากส่วนผสมถึง 19 ชนิด เป็นน้ำหอมอีกตัวที่มีประวัติและทรงคุณค่ากับแฟชั่นเฮาส์สุดเก่าแก่อย่าง Chanel

น้ำหอมกลิ่นหนัง (Leather)

มีคนกล่าวไว้ว่า ‘หากดอกไม้เป็นกลิ่นสำหรับผู้หญิงฉันใด กลิ่นหนังก็เป็นกลิ่นสำหรับผู้ชายฉันนั้น’ กลิ่นหนังมักพบเจอในน้ำหอมผู้ชายไม่แพ้กลิ่นวูดดี้ น้ำหอมประเภทนี้มักเต็มไปด้วยส่วนผสมดิบๆ ที่ส่งเสริมกันได้ดีกับกลิ่นหนัง ให้คาแรกเตอร์กลิ่นแบบแห้งๆ และสโมกกี้

ในปัจจุบันมีน้ำหอมกลิ่นหนังหลายตัวมากที่กลายเป็นน้ำหอมไร้เพศหรือ Genderless Perfume ซึ่งเป็นเทรนด์ที่จะมาแรงมากๆ ในปีนี้ อย่างเช่น Byredo Black Saffron น้ำหอมกลิ่นหนังที่แฝงมาด้วยเครื่องเทศอย่างหญ้าฝรั่นและผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ต่างๆ เหมาะกับทั้งชายและหญิง ให้ความรู้สึกเย้ายวน แฝงด้วยความเท่ไปพร้อมๆ กัน หรือ Tom Ford Tuscan Leather และ Tom Ford Ombre Leather สองกลิ่นดังจากบ้าน Tom Ford ที่ให้คาแรกเตอร์ที่แมนมากๆ และหากผู้หญิงใช้ก็ดูเท่ไม่แพ้กัน

น้ำหอมกลิ่นขนม (Gourmand)

มาถึงกลิ่นสุดท้ายกันแล้ว  ‘Gourmand’ หรือน้ำหอมกลิ่นขนม เป็นกลิ่นแนวไม่รักก็เกลียดไปเลย ใครที่ชอบก็อยากดมแล้วดมอีกเพราะมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด ด้วยคาแรกเตอร์กลิ่นที่หอมหวานเกินบรรยาย ชวนให้นึกถึงขนมชนิดต่างๆ ที่มีส่วนผสมของ วานิลลา ช็อกโกแลต น้ำตาลไหม้ และคาราเมล

นอกจากนั้นนักปรุงน้ำหอมหลายคนได้บัญญัติถึงน้ำหอม Gourmand ที่ดีว่าจะต้องกระตุ้นความอยากกินขนมที่แสนอร่อย และสร้างความรู้สึกเย้ายวนราวกับมีแรงดึงดูด ยกตัวอย่างน้ำหอม กลิ่นขนมที่โด่งดังเช่น ‘Prada Candy’ หรือ ‘Maison Francis Kurkdjian Baccarat Rouge 540’ ให้กลิ่นคล้ายไซรัปเชอรี่และน้ำตาลไหม้ที่เหล่าคนรักน้ำหอมกลิ่น Gourmand ชื่นชอบมาก ในช่วงหลาย ๆ ปีที่ผ่านมานี้

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม