ในยุคนี้คงยากที่จะไม่มีใครรู้จัก Rihanna ศิลปินระดับโลกผู้กวาดมาแล้วทุกรางวัล แฟชั่นไอคอนผู้ท้าทายขนบการแต่งตัว และนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจากการขยายกรอบความงามโอบรับความหลากหลายของคนทุกรูปแบบ เธอคือแรงบันดาลใจคนสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าการจะทำอะไรก็ตามเราต้องทำโดยคำนึงถึงทุกคนไม่ว่าจะเพศ เชื้อชาติ สีผิว หรือรูปร่างแบบไหนก็ตาม ทุกคนเท่าเทียมกันและเป็นมนุษย์เหมือนกัน
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากในอุตสาหกรรมดนตรี Rihanna เบนเข็มความสนใจของเธอมาที่ธุรกิจความงามในชื่อ Fenty Beauty ในปี 2017 และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการพลิกโฉมอุตสาหกรรมความงามไปเลย นอกจากความสำเร็จในการทำแบรนด์และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงและเซเลบริตี้คนอื่นๆ ออกมาทำแบรนด์เองบ้างแล้ว Rihanna ได้เปลี่ยนคำจัดความของคำว่า ‘ความงาม’ ให้หลากหลายด้วยผลิตภัณฑ์ที่เธอตั้งใจให้ทุกคนสามารถใช้ได้ไม่ว่าคุณจะเพศหรือสีผิวแบบไหนก็ตาม ยกตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์รองพื้นของ Fenty Beauty มีมากกว่า 40 เฉดสี เพราะเธอต้องการทลายกรอบการเหมารวมว่าผู้หญิงผิวเข้มต้องใช้แค่สีนี้ หรือผู้หญิงเอเชียใช้อีกเฉด ทุกสีผิวมีความต่างต่อให้คุณเป็นเอเชียเหมือนกันไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีผิวขาวแบบเดียวกัน ความใส่ใจตรงนี้กลายเป็นจุดแข็งของ Fenty Beauty
ต่อยอดเรื่องความหลากหลาย Rihanna รู้ดีว่าฐานแฟนของเธอนั้นเป็นกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ เธอสร้างสแตนดาร์ดให้แบรนด์ของเธอเป็นแบรนด์บิวตี้ที่เฟรนซ์ลีกับทุกเพศ ไม่ว่าจะเป็นส่งของให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ หรือตัวเธอเองที่เข้าไปถึงกลุ่ม LGBTQ+ เพื่อต้องการจะเบลอการแบ่งแยกตรงนี้ออกไป สาเหตุหลักที่ Fenty Beauty สามารถประสบความสำเร็จได้มากขนาดนี้เพราะการโอบรับแบบไร้กรอบของแบรนด์ และมันยังกลายเป็นมาตราฐานให้กับแบรนด์บิวตี้อื่นๆ ทำตามในเวลาต่อมาอีกด้วย
แฟชั่นก็เป็นอีกเรื่องที่ Rihanna ทรงอิทธิพลอย่างมาก นอกจากสไตล์เก๋ๆ ของเธอแล้ว เธอยังลงมือเปิดแบรนด์แฟชั่นเป็นของตัวเอง แต่ที่สร้างแรงกระเพื่อมมากที่สุดคงไม่พ้น Savage x Fenty แบรนด์ชุดชั้นในและเป็นอีกครั้งที่เธอเซ็ตสแตนดาร์ดให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่นอีกครั้ง ในยุครุ่งเรืองของแบรนด์ Victoria’s Secret ภาพลักษณ์ของผู้หญิงสวมชุดชั้นในจะต้องเพอร์เฟกต์รูปร่างผอมบาง แต่สำหรับ Rihanna เธอต้องการปรับมุมมองนั้นให้สมจริงมากขึ้น เธอคิดว่าผู้หญิงทุกรูปร่างสามารถรู้สึกเซ็กซี่ได้ ผู้หญิงทุกคนควรรู้สึกแบบเดียวกันเมื่อพวกเธอได้สวมใส่ชุดชั้นในของแบรนด์นี้ นี่คือมุมมองของผู้หญิงที่มองผู้หญิงด้วยกันเอง และมุมมองนี้สร้างพลังงานเชิงบวกให้กับผู้หญิงด้วยกันเอง จนกลายเป็นกระแสตีกลับไปสู่แบรนด์ที่มองผู้หญิงแค่มิติเดียวจุดเปลี่ยนที่สร้างแรงกระเพื่อมให้แบรนด์สินค้าอื่นต้องคำนึงถึงความหลากหลายของผู้บริโภคเป็นหลัก
เส้นทางความสำเร็จของเธอตั้งแต่การนักร้อง นักแสดง และนักธุรกิจเจ้าของแบรนด์ Fenty Beauty และ Savage x Fenty นั้น เผยให้เห็นถึงจุดสำคัญคือ ‘เธอเต็มที่และใส่ใจ’ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าถ้าเราต้องการจะทำอะไรจงทำให้เต็มที่ที่สุดแต่ต้องใส่ใจถึงคนอื่นให้มาก ความไม่เท่าเทียมต่างๆ เกิดขึ้นมากมายในแวดวงที่เน้นภาพลักษณ์ที่สวยงาม Rihanna เป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่เข้ามากระชากหน้ากากปลอมๆ นี้ออก และเติมเต็มความจริงของมนุษย์เข้าไป เราไม่แปลกใจเลยที่เธอจะประสบความสำเร็จขนาดนี้เพราะเธอถือเป็นตัวแทนผู้สร้างความแปลกใหม่สำคัญๆ ให้กับอุตสาหกรรมความงามและแฟชั่นได้อย่างน่าสนใจ
