เจอวิกฤตหนักหน่อยเมื่อเมืองแฟชั่นอย่างนิวยอร์คที่เคยเต็มไปด้วยสีสันของงานดีไซน์เก๋ๆ กำลังถูกลืมและไม่ได้รับความสนใจเหมือนเดิม ไม่ว่าจะด้วยพิษของโควิด19 ที่คอรัปต์ทุกอย่างส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ แต่ที่น่าเป็นห่วงจริงๆ กลับเป็น ‘ตัวตน’ และ ‘จุดยืน’ ของดีไซเนอร์ประจำนิวยอร์คเหล่านี้มากกว่า เมื่อแบรนด์ฝั่งยุโรปนั้นขาขึ้นสุดๆ ทั้งในแง่งานดีไซน์และวิธีการนำเสนอ นิวยอร์คเมืองที่เคยเป็นผู้นำกลับกลายเป็นผู้ตามแทนเสีย เสน่ห์ของนิวยอร์คคืออะไร? เมื่อกาลครั้งหนึ่งเราเคยเอ่ยชื่นชมสไตล์แบบนิวยอร์คเกอร์
แม้จะไม่มีบิ๊กเนมอย่าง Marc Jacobs, Tom Ford หรือ Ralph Lauren เรียกแขกเหมือนซีซั่นก่อนๆ กลายเป็นเรื่องดีเมื่อเหล่าดีไซเนอร์หน้าใหม่และชื่อใหม่ฉวยจังหวะแสดงผลงานที่เหมือนนัดกันมาโชว์จุดแข็งและอัตตลักษณ์ของแบรนด์ประคองแฟชั่นวีคคราวนี้ให้ผงาดแบบเงียบๆ ได้อย่างน่าสนใจ จังหวะและเวลาที่เหมาะเมื่อนิวยอร์คกำลังถูกตั้งคำถาม เหล่าดีไซเนอร์เลือดใหม่ก็ได้เวลาเติบโตพอดิบพอดี และพวกเขานี่เหละคืออนาคตอันสดใสมากๆ ของนิวยอร์คที่จะสร้างสิ่งใหม่ให้แก่แฟชั่นระดับโลก
วันนี้ LIPS ได้รวบรวมไฮไลต์โชว์ดีที่สุดที่บอกเล่าความเป็น ‘นิวยอร์ค’ ในบริบทใหม่ ลองไปดูกันสิว่าตรงใจผู้อ่านหรือไม่
Peter Do
ถ้าใครที่ชื่นชอบผลงานของ Peter Do จะรู้ดีว่าจุดแข็งของแบรนด์อยู่ที่งาน ‘เทเลอร์’ อย่างที่เรากล่าวไปข้างต้น จุดแข็งที่หลายแบรนด์หันกลับชูโรงมากกว่าวิ่งตามกระแสแบรนด์ยุโรปเขาทำอะไร งานเทเลอร์ฉ่ำๆ ในทุกรูปแบบที่คุณจะสามารถจินตนาการได้ปรากฎบนโชว์ของเขาซีซั่นนี้ ทุกชิ้นถูกทำขึ้นเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงที่นี่จริงๆ Working Woman ในบริบทต่างๆ คุณต้องการสูทที่ดีที่สุด รับกับรูปร่างและสวยพอที่คนจะทักว่าซื้อมันจากที่ไหนใส่ในทุกๆ โอกาส ซึ่ง Peter Do ก็ทำแบบนั้นเป๊ะ
Micheal Kors
ดีไซเนอร์รายใหญ่ไม่กี่คนในแฟชั่นวีคครั้งนี้ Michael Kors คือตัวแทนของ American Chic อย่างแท้จริง สไตล์ของเขาทำมาเพื่อนิวยอร์คเกอร์ตัวจริง แม้จะไหลๆ ลอยๆ ไปตามกระแสบ้าง แต่ซีซั่นนี้ Michael กลับไปหาแก่น DNA ตัวตนของแบรนด์ ‘Glamour’ ความแกลมฉ่ำๆ ที่ถูกคลื่นสตรีทสไตล์ซัดหายไปพักใหญ่ เมื่อตัวตนของผู้สวมใส่นั้นสำคัญมากกว่าเทรนด์ การกลับไปหาจุดแข็งของตัวเองถือว่าฉลาดมากๆ ในเวลานี้ เสื้อผ้าของเขาหรูหรา ใส่ได้จริง และเพื่อผู้หญิงทุกรูปแบบ เดรสกลิตเตอร์คว้านเอวที่ Bella Hadid สวมนั้น มันพูดชื่อ Micheal Kors ออกมาดังมาก
Dion Lee
หนึ่งในดีไซเนอร์ที่น่าจับตามองเวลานี้ (ไม่ใช่แค่เพราะพีพีเอาชุดไปใส่อย่างเดียว) ผลงานของ Dion Lee เปรียบเสมือนงานของ Tom Ford ยุค Gucci คือการชูเรื่อง ‘เซ็กส์’ ลงบนคอลเลคชั่น แต่บริบทของ Dion นั้นสดกว่า โมเดิร์นกว่า และไร้เพศ เมื่อคิดถึงเสื้อผ้าเซ็กซี่คงอดคิดถึงเสื้อผ้าสไตล์ Body Con หรือรัดรูปไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีนะแต่แค่ผลักมันไปให้ไกลสุดกว่าเดิม แต่หลายๆ ชิ้นในคอลเลคชั่นกับเป็นชิ้นโคร่งที่ทำไมมันดูเซ็กซี่ได้ขนาดนี้ เสื้อผ้าเก๋ๆ ที่ได้อารมณ์เซนส์ชวลมากๆ คือจุดแข็งที่ยากจะหาใครเลียนแบบ และเราชอบมากๆ ที่เซ็กส์ของ Dion ไร้เพศและเฟรนด์ลี่กับทุกรูปร่าง
LaQuan Smith
แซ่บ!!!!!! พริก 100 เม็ด!!!! นอกจาก Julia Fox ที่เพิ่งเลิกกับ Kanye West หลังคบกันสองสามเดือนจะมาเดินในเดรสรัดรูปคว้านช่วงอกแล้ว LaQuan Smith คือชื่อที่ทุกคนต้องจำถ้าชอบงานดีไซน์เผ็ด ยั่ว และมีชั้นเชิง ไม่ใช่แค่ฮอลีวูดและเซเลบริตี้แถวหน้าของโลกเท่านั้นแต่ผู้หญิงค่อนโลกต่างก็หลงไหลงานของเขา เขาดีไซน์เสื้อผ้าเฉลิมฉลองรูปร่างของผู้หญิงเพราะเขาอยากให้ผู้หญิงทุกคนสนุกกับการใช้ชีวิตและการแต่งตัวเปรี้ยวๆ ก็เป็นส่วนหนึงของการใช้ชีวิต ไม่ผิดเลยเพราะถ้าเรามีเงินมากพอเราก็อยากแต่งตัวในงานดีไซน์ของเขาเช่นกัน
Coach
สิ่งที่เราชอบมากๆ ในคอลเลคชั่น Coach ล่าสุดไม่ใช่แค่มู้ด 60s, 70s และ 90s ที่ถูกนำมาเป็นแรงบันดาลใจหลักเท่านั้น เราชอบการเล่าเรื่องของคอลเลคชั่นที่ไหลลื่นของเพศได้เท่มากๆ มินิเดรสลูกไม้และโบว์แบบ 60s ยุค Mod ดูกรันจ์มากกว่าน่ารักหวานแหว๋ว ส่วนผสมที่เราไม่คาดคิดว่าจะลงตัวได้ค่อนข้างเซอร์ไพรส์เราเหมือนกัน เสื้อผ้าของเหล่าคูลคิดด์ยุคใหม่อย่างแท้จริง ไร้เพศ ไร้กฎเกณฑ์ ถือเป็นหนึ่งในคอลเลคชั่นที่สวยมากๆ ในรอบหลายปีของ Coach เลยทีเดียว
Carolina Herrera
อีกหนึ่งบิ๊กเนมดีไซเนอร์ประจำนิวยอร์ค Carolina Herrera แม้ชื่อจะดูเก่าแต่ดีไซเนอร์ไม่เก่าเลย Wes Gordon เข้ามารับช่วงต่อดีไซเนอร์สาวคนดังพักใหญ่แล้ว เขาปรับสูตรเสื้อผ้าสาวสังคมนิวยอร์คให้ดูโมเดิร์นขึ้น เด็กลง และน่าใส่กว่าเดิมเยอะ คอลเลคชั่นนี้ของเขายังทำหน้าที่แบบที่เรากล่าวเหมือนเดิม งานดีไซน์แบบ Traditional ถูกปรับสนุกมากขึ้นด้วยการมิกซ์สีและผ้าตัดต่อให้ดูเก๋ขึ้น โดยเฉพาะเซ็ตชุด Evening Gown ถ้าสามารถฉันจะใส่มันทุกชุด
Khaite
สำหรับใครที่ไม่รู้จักแบรนด์ Khaite เราขอให้อัพเดท iOS แฟชั่นด่วน! ดีไซน์โดย Catherine Holstein สาวเก๋ชาวนิวยอร์คที่แบรนด์ของเธอครองใจแฟชั่นนิสต้าตัวแม่ อาทิ Kendall Jenner นางแบบคนดังที่ใส่บ่อยจนทำเอาของ Sold Out ไปหลายรายการ เสน่ห์ของ Khaite คือความเก๋แบบชาวนิวยอร์คที่ไม่ใช่ใครที่ไหนก็สามารถสกัดออกมาได้ถูกต้องเสียทีเดียว ดูรวมๆ อาจจะมอง เอ๊ะ มันก็เสื้อผ้าเบสิกนี่แล้วมันเก๋ตรงไหน ความเบสิกที่ละเอียดในเรื่องดีเทล บวกกับสไตล์ที่เท่จัดและโก้จัดทำให้ Khaite ไม่ธรรมดาแบบที่คิด ทุกชุดใส่ได้จริงและเก๋จริงแบบไม่จกตา
Altuzarra
ไม่ใช่หน้าใหม่เสียทีเดียวเพราะเราจะบอกว่าจริงๆ แล้ว Altuzarra เริ่มทำแบรนด์ตั้งแต่ปี 2010 กว่า 12 ปีในวงการแฟชั่นเขาลองผิดลองถูกและมีโมเมนต์ปังและเฟลมาหลายครั้ง ในคอลเลคชั่นนี้ Joseph Altuzarra ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์กลับไปมองหาตัวตนของตัวเอง เขาโดดเด่นมากๆ จากชิ้นงานสุดคราฟต์อย่างงานเทเลอร์ที่เล่นบทหลักในช่วงแรกของคอลเลคชั่น ก่อนจะไปเข้าสู่งานคราฟต์พาร์ตต่อไปไม่ว่าจะเป็นการเล่นกับไหมพรมและการเล่นลายพิมพ์แบบพื้นบ้านที่นำมาทำให้โมเดิร์นด้วยซิลูเอ็ตต์โก้ๆ จนไปถึงเดรสกลางคืนที่เขาหยิบแรงบันดาลใจของนางเงือกมาเล่ากับชุดเกล็ดปลา อีกหนึ่งตัวอย่างของการนำจุดแข็งของตัวเองออกมาใช้ได้อย่างถูกจุดและถูกเวลา
Proenza Schouler
Lazaro Hernandez และ Jack McCollough เคยโด่งดังสุดๆ จากกระเป๋า PS1 แต่หลังจากนั้นเราแทบจดจำตัวตนของเขาไม่ได้อีกเลย Proenza Schouler รีแบรนดิ่งใหม่ก่อนจะมาโชว์ที่นิวยอร์คครั้งนี้ ทั้งสองเคยสัมภาษณ์ว่าก่อนหน้าเขาให้ความสำคัญกับเหล่าเอดิเตอร์และสไตลิสต์ว่าอยากเห็นเสื้อผ้าของพวกเขาเป็นแบบไหนมากกว่าผู้บริโภคต้องการอะไร ดังนั้นการ Revalue ครั้งนี้ของ Proenza Schouler ที่นิวยอร์คค่อนข้างน่าสนใจ ความเก๋ โก้ และคูลไวป์แบบสาวนิวยอร์คอยู่ครบเพิ่มเติมคือความง่ายในการสวมใส่ ทุกชิ้นถูกออกแบบเพื่อผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวแต่ไม่แฟชั่นจ๋าจนใช้ชีวิตจริงๆ บนท้องถนนไม่ได้ ทั้งสองปรับแบรนด์ให้ติดดินมากขึ้นผสมผสานระหว่างแฟชั่นและฟังค์ชั่นได้กำลังพอดี ถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ
