Search
Close this search box.
Search
Close this search box.
HOME / Fashion / Trends

Style Book

Tie Dye: The Freedom Child
Fashion / Trends

Tie Dye: Fashion from Hippie to Chic หนังสือแฟชั่นเล่มใหม่ที่ว่าด้วยการเดินทางของสไตล์มัดย้อม ซึ่งคนมักคิดกันว่ามีจุดกำเนิดในทศวรรษที่ 1960 ที่วัฒนธรรมฮิปปี้บุปผาชนเบ่งบานโดยเฉพาะที่เทศกาลดนตรีวู้ดสต็อกในปี 1969 ศิลปินดังยุคนั้นขึ้นเวทีในชุดมัดย้อม อาทิ Janis Joplin, John Sebastian และ Joe Cocker ส่งผลให้เสื้อผ้ามัดย้อมเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเหล่าเสรีชนจวบจนถึงทศวรรษที่ 1970 ซึ่งสไตล์ดิสโก้ได้เข้ามาครองกระแสแฟชั่นแทนฮิปปี้

ก่อนที่ผ้ามัดย้อมจะผูกติดกับฮิปปี้ ก็เป็นวิธีย้อมสีและสร้างลวดลายผ้าที่พบทั้งในทวีปเอเชีย แอฟริกาและอเมริกามาตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 คนไทยอาจรู้จักกันในชื่อผ้าบาติก คนญี่ปุ่นเรียกว่าเทคนิคชิโบริ ส่วนชาวแอฟริกาตะวันตกเรียกว่า ‘chuupp’ อย่างไรก็ตามเทคนิคมัดย้อมในศตวรรษที่ 21 นี้ก็แตกต่างไปจากยุคสมัยก่อนหน้า ทั้งการใช้สีสันหลากหลายขึ้น ใช้ผ้าชนิดต่างๆมากกว่าผ้าฝ้ายหรือผ้าใยธรรมชาติ โดยใช้สีย้อมผ้าที่เรียกว่า Rit® DyeMore™ Synthetic Fabric Dye ก็จะทำมัดย้อมได้ทั้งผ้าใยสังเคราะห์และผ้าผสมใยสังเคราะห์ได้ ที่สำคัญเทคนิคมัดย้อมยุคนี้ปรากฏอยู่ในเค้าโครงเสื้อผ้าที่สวิงสวายมากกว่าแค่เสื้อยืดหรือแม็กซี่เดรสอย่างในยุคบรรพบุรุษยุคฮิปปี้ของมัน 

แต่การที่กระแสแฟชั่นหนึ่ง ๆ จะผุดขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเสียทีเดียว Chris Leba ผู้ก่อตั้ง R13 ที่ใช้เทคนิคมัดย้อมกระหน่ำในคอลเล็กชั่นของแบรนด์กล่าวว่ามัดย้อม = เสรีภาพ กระแสมัดย้อมเริ่มปรากฏให้เห็นในสมัยที่ Donald Trump เป็นประธานาธิบดีสหรัฐก็อาจเป็นการต่อต้านแนวคิดอนุรักษ์นิยมที่จำกัดสิทธิเสรีภาพของคนผิวสี คนที่มีความหลากหลายทางเพศและคนต่างเชื้อชาติ ส่วนมัดย้อมในยุค 1960 ก็เป็นสมัยที่ Richard Nixon เป็นประธานาธิบดีสหรัฐซึ่งส่งทหารอเมริกันไปรบในสงครามเวียดนาม ทำให้คนรุ่นใหม่ในยุคนั้นออกมาต่อต้านสงครามและแสวงหาเสรีภาพ กระทั่งกลายเป็นวัฒนธรรมฮิปปี้ที่มีคำขวัญประจำใจว่า Make Love Not War 

ขณะเดียวกันกระบวนการทำมัดย้อมก็ทำให้เสื้อผ้าแต่ละตัวมีรายละเอียดลวดลายที่ไม่เหมือนกันเลย มัดย้อมจึงเป็นสัญลักษณ์แสดงความเป็นปัจเจกบุคคล จึงไม่แปลกที่มัดย้อมจะกลับมาฮิตในยุคนี้ที่คนรุ่นใหม่ให้ค่ากับอัตลักษณ์ของแต่ละคนอย่างสูง ประกอบกับความยั่งยืนได้กลายเป็นความสำคัญอันดับต้น ๆ ของผู้บริโภคในยุคนี้ แบรนด์แฟชั่นที่ให้ค่ากับงานฝีมือ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ใช้วัสดุธรรมชาติจึงตอบโจทย์ผู้บริโภค ซึ่งเทคนิคมัดย้อมก็มีกระบวนการทำงานเช่นนั้นอยู่แล้ว จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมมัดย้อมจึงเป็นกลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง และไม่ว่าจะยุคสมัยใดมัดย้อมก็ยังเป็นสัญลักษณ์ของความหวังอยู่วันยังค่ำ

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม