เมื่อต้องใช้ชีวิตในวิถีใหม่ที่ผ่านการเรียนรู้ และปรับตัวมาพักใหญ่ เราถวิลหาสุนทรียกับเรื่องเรียบง่าย แต่แฝงด้วยการใส่ใจตนเองมากขึ้น และการต้องใช้ชีวิตอยู่กับบ้านนาน ๆ อีกหนึ่งกิจกรรมของเรา ซึ่งเชื่อว่าเช่นเดียวกับหลายคน คือ การปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมภายในบ้าน ผ่านการเลือกสรรข้าวของตกแต่งบ้านที่สะท้อนอารมณ์ ความรู้สึก และตัวตนเราในขณะนั้น ๆ ก็เพลิดเพลินดี
เมื่อเสาะแสวงหาจนได้มารู้จัก “P PALLADIO” ร้านเฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน และสิ่งของที่ถูกออกแบบไม่ซ้ำใคร (Customise & Personalise) ที่เรียกได้ว่า คือ งานศิลปะอย่างแท้จริง เพราะชิ้นงานทุกชิ้นถูกรังสรรค์ผ่านการคิด การออกแบบ และบอกเล่าเรื่องราวโดยสองดีไซเนอร์สาวอย่าง พลอย จินดาโชติ ที่คนวัยเราคุ้นเคยชื่อของเธอในบทบาทนักแสดง กับ ปอม ธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง หรือ Pomme Chan ศิลปินนักวาดภาพประกอบคนเก่งแห่งยุคสมัย
“จากจุดเริ่มต้นด้วยความรัก และความหลงใหลที่ทุ่มเทให้หมดใจ”
พลอย จินดาโชติ – เธอผันตัวมาเป็นนักออกแบบผู้หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของงานไม้ J. Timber (เจ ทิมเบอร์) เข้าอย่างจัง นอกจากการเป็นคุณแม่ของลูก เธอทุ่มเทจิตวิญญานที่เปี่ยมด้วยความชอบ ควบคุมตั้งแต่กระบวนการผลิตเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น ไปจนถึงขั้นตอนการส่งมอบถึงมือลูกค้าด้วยตัวเธอเอง เธอเล่าให้ฟังอย่างภูมิใจว่า “พลอยนำส่งเฟอร์นิเจอร์ และข้าวของที่ลูกค้าสั่งทำทุกชิ้นถึงหน้าบ้านของลูกค้า และถ่ายคลิปวิดีโอเก็บสีหน้าที่ประทับใจของลูกค้าไว้ทุกราย อย่างน้อยก็นำมารวบรวมเป็นกำลังใจในการทำงานให้ดียิ่งขึ้นไป”
“Pomme Chan” ปอม ธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง – Illustrator ชื่อดัง เธอเล่าให้ฟังติดตลกว่า นอกเหนือจากเวลาทำงาน เธอมักใช้เวลาในร้านทำเล็บมากกว่า แต่ก็สัมผัสได้ถึงความทุ่มสุดตัวในฐานะศิลปิน ดีไซเนอร์ และผู้ร่วมก่อตั้ง แบรนด์สินค้าแต่งบ้าน ที่รวมสองความแตกต่างเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ถ่ายทอดแรงบันดาลใจผ่านชิ้นงานทุก ๆ ชิ้น ที่นำมาจัดแสดงในพื้นที่อันเต็มไปด้วยความหลากหลายของดีไซน์ และจินตนาการรวมไว้อย่างลงตัว จนก่อเกิดเป็นร้าน “P Palladio – The Palace of Imagination”
“สตูดิโอโชว์รูมที่เนรมิตจินตนาการ และจิตวิญญาณของศิลปิน”
เราเดินเข้ามาในโชว์รูมที่มีโถงรับแขกขนาดไม่ใหญ่นัก แต่สะดุดตาด้วยสไตล์การตกแต่งภายใน และทุกจุดนำสายตานั้นชวนมอง โดยชิ้นงานต่าง ๆ ที่แสดงทั้ง หมอนอิง โต๊ะวางถาด เก้าอี้รับแขกรูปทรงแปลกตา เรื่อยไปจนถึงลวดลายบนผนังของวอลเปเปอร์ ทำให้เราแทบละสายตาในผลงานแต่ละชิ้นจนเผลอหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา Snap Story โดยไม่รู้ตัว
คุณปอมพาเราเข้าชมในห้องใต้บันได พร้อมเล่าด้วยสีหน้าเปี่ยมด้วยความหลงใหล สัมผัสได้ถึงความสุขที่ได้ปล่อยของ โดยเธอตั้งใจทำให้เป็นห้องแห่งความลับเล็ก ๆ ที่แฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์แบบปารีเซียง ทั้งกรอบรูปขนาดเล็กใหญ่ที่เรียงรายจัดแสดงรูปผลงานของศิลปินหลายคนที่เธอเก็บสะสมด้วยความรัก และความเคารพในจิตวิญญาณแห่งศิลปะ
ก่อนที่เราจะรู้ว่าโชว์รูมแห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็น 3 ชั้น บรรยากาศภายในอันอบอุ่น ตลอดจนการต้อนรับอย่างเป็นมิตรของศิลปิน และน้อง ๆ พนักงาน ก็นำพาเราเดินขึ้นบันไดสู่บริเวณชั้น 2 ไปแล้ว ระหว่างชั้นมีการตกแต่งที่ทำเราคล้อยเคลิ้มด้วยสไตล์ที่ค่อนข้างจะแตกต่างกัน ดูสุดโต่ง หวือหวา แต่ว่าสอดประสานเข้ากันแบบผ่านการคิดมาแล้วเป็นอย่างดี
เราหยุดหน้ากระจกทรงสูง ที่ด้านข้างรายล้อมด้วยกระเป๋าถักสาน ดีไซน์สวยคุ้นตา กับแบรนด์ PIPATCHARA ของน้องเพชร ภิพัชรา แก้วจินดา ดีไซเนอร์ และศิลปินรุ่นน้องคนเก่งของเรา ที่ให้เกียรติซึ่งกันและกันในฐานะคนสร้างสรรค์งานศิลป์กับ P Palladio มาร่วมจัดแสดงเป็นป็อปอัพเล็ก ๆ ราวกับเป็น Walk-In Closet สำหรับบ้านชวนฝันหลังนี้
เข้าไปในโถงห้องของชั้นที่สอง ชั้นนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินทางไปยังอีกสถานที่หนึ่งที่มีความสนุกสนานมากยิ่งขึ้นด้วยสีสัน และการตกแต่งที่เลือกใช้รูปทรงเรขาคณิตมาเป็นองค์ประกอบในการออกแบบชิ้นงานไม้ เรายังสามารถเปิดแคตตาล็อกเพื่อเลือกลวดลายแบบจับนั่นผสมนี่ ทั้งลวดลายของวอลเปเปอร์ และลายพิมพ์บนเฟอร์นิเจอร์ไม้ต่าง ๆ พาลนึกไปว่า เราเองก็สามารถเป็นศิลปินได้เหมือนกัน
ชั้นสุดท้ายของโชว์รูมเป็นชั้นที่ดูแปลกตาที่สุด เพราะถูกออกแบบให้เป็นโซนรับรองของเหล่าคนรักงานพรม ปัก ถัก ทอ ขนาดต่าง ๆ ที่เราสามารถเลือกได้เองจากดีไซน์ของร้าน หรือจะโลดแล่นจินตนาการ เพื่อให้ได้ลวดลายซิกเนเจอร์ที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของเราก็ทำได้เช่นกัน
“ความสนุกสนานที่สอดแทรกเสมือนสปริงเคิลที่โรยบนขนมหวาน”
นอกจากนี้ที่นี่ยังได้สร้างสรรค์ผลงานการคอลแลบกันระหว่าง ชารีฟ ลอนา เจ้าของ Studio Act of Kindness ออกเป็นคอลเลคชั่นชิ้นพิเศษต่าง ๆ ไม่นับรวมแว่นแคทอายหลากหลายแบบที่ออกแบบร่วมกับแบรนด์ Half-Frame Eyewear (ฮาร์ฟเฟรม อายแวร์) ของ แมน-ธีระพจน์ พงศ์สุวโรจน์ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก คุณแม่เม วินิตตา ก้องธรนินทร์ ผู้เป็นไกด์คนเก่งอีกคนที่คอยบอกเล่าเรื่องราวสนุก ๆ เกี่ยวกับบ้านหลังนี้ให้เราฟัง เพราะคุณแม่นั้นให้การสนับสนุนสองดีไซเนอร์สาวสุดหัวใจ
ร่วมสัมผัสผลงานศิลปะ และการออกแบบอันปราณีตบรรจงจากช่างฝีมือ พ่วงด้วยจิตวิญญาณศิลปะ และมนต์เสน่ห์แห่งจินตนการได้แล้ววันนี้ที่ P PALLADIO ซอยสุขุมวิท 49 (ติดกับโรงพยาบาลสมิติเวช) เปิดให้บริการทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 11:00 – 18:00 น. (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 082-441-5491)