แม้ว่าปัจจุบัน ‘ความหลากหลาย’ หรือ ‘Diversity’ จะเป็นจุดมุ่งหมายที่หลายอุตสาหกรรมที่ต้องการจะเข้าใกล้คำคำนี้ให้ได้มากที่สุด แต่ทว่าบนโลกของเรานั้นผู้คนในแต่ละวัฒนธรรมและสังคมนั้นยังมีมาตรฐานด้านความงามเฉพาะอันแตกต่างที่ยังฝังรากลึกอยู่ในแต่ละพื้นที่อยู่ ทำให้ผู้คนในแต่ละพื้นที่นั้นต้องปรับตัวให้เข้ากับมาตรฐานความงามที่ปกคลุมอยู่ในพื้นที่นั้นๆ
โดยเฉพาะสองมาตรฐานความงามหลักของโลกที่ปกคลุมสองฝากฝั่งของโลกนี้อย่าง ‘American Beauty’ มาตรฐานความงามแบบอเมริกันที่ได้รับความนิยมอย่างมากในโลกฝั่งตะวันตก ความงามเหล่านี้ถูกขับเคลื่อนโดยเหล่าเซเลบริตี้ระดับโลกมากมาย ส่วนอีกมาตรฐานก็คงหนีไม่พ้น ‘Asian Beauty’ มาตรฐานความงามแบบเอเชียที่รับอิทธิพลหลักมาจาก จีน เกาหลี และญี่ปุ่น ซึ่งมาตรฐานความงามเหล่านี้เราสามารถเห็นได้ชัดเจนจากเหล่าดารา นักร้อง และศิลปินส่วนใหญ่ในฝั่งเอเชียตะวันออก
แต่ทุกวันนี้อินเทอร์เน็ตทำให้มาตรฐานความงามหลักของโลกสองมาตรฐานนี้เดินทางไปทั่วทุกแห่งบนโลกใบนี้อย่างไร้เส้นแบ่งเหมือนในอดีต ทำให้ทั้งสองฝั่งของโลกนั้นได้รับอิทธิพลจากกันและกันผ่านโซเชียลมีเดีย และสื่อต่างๆ วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าความแต่งต่างของสองอิทธิพลความงามจากสองฝากโลกนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร และมาตรฐานความงามแบบใดที่เหมาะกับเรามากที่สุด!
The American Beauty Standard
มาตรฐานความงามของอเมริกันนั้นเกิดและเติบโตขึ้นในช่วงยุค 90s ตัวละครฝาแฝดจากเรื่อง Sweet Valley High อย่าง Elizabet Wakefield และ Jessica Wakefield นั้นกลายเป็นสัดส่วนทองคำของความงามแบบ American Beauty อย่างแท้จริง พวกเธอมีผมบลอนด์แบบธรรมชาติ สัดส่วนใบหน้ารูปหัวใจ และผิวสีแทนสุดเฮลตี้ ซึ่งอย่างหลังสุดเรียกว่าเป็นหัวใจของมาตรฐานความงามแบบอเมริกันเลย
เห็นได้จากนิตยสารเกี่ยวกับความงามและแฟชั่นของสหรัฐฯ เรามักจะเห็นบทความเกี่ยวกับเคล็ดลับการทำผิวสีแทนให้สมบูรณ์แบบต่างๆ มากมาย ทำให้ผลิตภัณฑ์ทำผิวแทนเลยกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของสาวๆ ในอเมริกาและหลายๆ ประเทศในฝั่งตะวันตกยกตัวอย่างเช่น โลชั่นผิวแทน แทนนิ่งออยล์ หรือแม้แต่เครื่องทำผิวแทนได้รับความนิยมมากๆ ในประเทศสหรัฐฯ และอีกหลายๆ ประเทศที่นิยมมาตรฐานความงามแบบอเมริกัน ถึงขนาดที่ว่าในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยแต่ร้านทำผิวแทนยังคงเฟื่องฟูสวนทางกับกราฟเศรษฐกิจในตอนนั้น
นอกจากผิวสีแทนแล้วมาตรฐานความงามแบบอเมริกันยังให้ความสำคัญกับรูปร่างที่โค้งมน ขนาดจมูกอันสมส่วน ดวงตากลมโต โหนกแก้ม ซึ่งมาตรฐานความงามเหล่านี้เรามักพบได้ทั้งในสื่อต่างๆ รวมไปถึงเหล่าเซเลบริตี้ชื่อดังของอเมริกา แต่มาตรฐานความงามเหล่านี้ไม่คงที่ทำให้ในประวัติศาสตร์ความงามของ American Beauty เราจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
เห็นได้ชัดจากตระกูล ‘Kardashian’ ตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดของยุคนี้ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงมุมมองความงามของ American Beauty ไปอย่างสิ้นเชิง จากมาตรฐานความงามแบบอเมริกันในอดีตที่เน้นไปที่รูปร่างสุดเฟิร์มกระชับแบบ Gisele Bündchen บิวตี้ไอคอนแห่งยุค 2000s กลายมาเป็นสัดส่วนนาฬิกาทรายแบบ Kim Kardashian นอกจากนั้นเทรนด์ปากอวบอิ่มเทรนด์ความงามที่เป็นที่นิยมอยู่ในตอนนี้ก็ถือกำเนิดจาก Kylie Jenner น้องคนสุดท้องจากบ้าน Kardashian ที่ทำให้สารเติมเต็มอย่าง Filler และ Lip Liner กลายเป็นสินค้าความงามยอดนิยมสำหรับสาวๆ ในยุคนี้
The Asian Beauty Standard
เมื่อกระโดดมาที่ฝั่งเอเชียเราจะเห็นว่าหลายๆ ประเทศในแถบนี้มีประวัติศาสตร์ความงามและมาตรฐานความงามมาอย่างยาวนานตั้งแต่ก่อนยุคล่าอาณานิคมเสียอีก ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัด ‘Geisha’ หรือเกอิชาเป็นสัญลักษณ์ความงามของผู้หญิงญี่ปุ่น หรือแม้แต่นักแสดงงิ้วของจีนก็สร้างค่านิยมผิวขาว ปากแดง และการพูดแบบเกินจริงผ่านการแสดงอันเปรียบเสมือนมรดกวัฒนธรรมเอาไว้
ตรงข้ามกับผิวสีแทนของอเมริกา ‘ผิวขาว’ กลายเป็นหัวใจของมาตรฐานความงามของเอเชียที่ได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมและศิลปะแขนงต่างๆ ทำให้ในหลายๆ ประเทศแถบเอเชีย เช่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย รวมถึงประเทศไทยของเรามีการแบ่งแยกชนชั้นตามสีผิว ส่งผลให้สีผิวนั้นสามารถสร้างเส้นแบ่งที่ชัดเจนระหว่างคนรวยกับคนจน ยิ่งมีสีผิวขาวมากเท่าไหร่นั้นแสดงว่าคุณนั้นมีชีวิตที่สะดวกสบายห่างไกลจากแสงแดดที่แผดเผาคุณระหว่างการทำงานหนัก
สอดคล้องกับลักษณะกายภาพของชาวเอเชียที่สัญญาณแรกของความชราบนผิวพรรณของคนเอเชียนั้นคือ ‘เม็ดสี’ ต่างๆ เช่น ฝ้า กระ ไม่ใช่ริ้วรอยเหมือนกับชาวตะวันตก ทำให้มาตรฐานความงามที่นิยมผิวขาวไม่ใช่แค่ค่านิยมความสวยความงามเท่านั้น แต่เป็นค่านิยมที่ต้องการรักษาผิวพรรณให้ดูอ่อนกว่าวัยซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายของทุกคนบนโลกใบนี้ จนทำให้นักข่าวด้านความงามคาดการว่าผลิตภัณฑ์ลบเลือนจุดด่างดำจะมีมูลค่าในตลาดโลกสูงถึง 31.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2024 ที่จะถึงนี้
นอกจากค่านิยมผิวขาวแล้วนั้นมาตรฐานความงามของเอเชียนั้นไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากเท่ากับมาตรฐานความงามฝั่งอเมริกา ‘ความผอม’ เป็นอุดมคติความงามที่สาวๆ เอเชียในทุกยุคทุกสมัยคลั่งไคล้ ดังนั้นผู้หญิงเอเชียส่วนมากจึงทำทุกวิถีทางให้ตัวเองมีรูปร่างที่ดูบอบบางและเฟมินีนมากที่สุดจนทำให้ ‘โรคบูลิเมีย’ นั้นเป็นปัญหาสุขภาพจิตที่พบบ่อยมากๆ ในประเทศฝั่งตะวันออกหลายๆ ประเทศ นอกจากความผอมแล้ว
นอกจากความขาวและความผอมแล้วในเรื่องของมาตรฐานความงามบนใบหน้าของผู้หญิงเอเชียก็มีความชัดเจนยกตัวอย่างเช่น ใบหน้ารูปตัว V, ตาสองชั้น และจมูกโด่ง กลายเป็นต้นแบบความสวยของผู้หญิงเอเชีย เราจะเห็นมาตรฐานความงามบนใบหน้าเหล่านี้บนเหล่านักแสดงและนักร้องชาวเอเชียที่ปัจจุบันกลายเป็นต้นแบบความงามของผู้หญิงทั่วโลกที่นิยมความงามแบบเอเชีย
Which Standard Is Most Beautiful?
อย่างที่เราบอกว่า ‘ความหลากหลาย’ ได้กลายเป็นจุดหมายที่หลายๆ คนอยากจะก้าวไปถึง ทำให้ผู้คนทั่วโลกนั้นรับรู้ถึงความงามอันหลากหลายและมีความเชื่อว่าทุกคนสามารถสวยได้ใบแบบของตัวเองได้ ไม่มีมาตรฐานความงามแบบไหนสวยหรือดีกว่ามาตรฐานความงามแบบไหน เราเชื่อว่าทุกคนสามารถเลือกและโอบรับมาตาฐานความงามตามความชอบและความเหมาะสมกับตัวเราได้
และถึงแม้ว่าปัจจุบันเหล่าเซเลบริตี้และอินฟลูเอนเซอร์ของทั้งสองมาตรฐานความงามนั้นมักจะสร้างเทรนด์ความงามให้เกิดขึ้นใหม่อยู่เสมอ ส่งผลให้มีเทรนด์ความงามใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดทั้งปี และไม่ผิดที่เราจะโอบรับเทรนด์เหล่านั้นแต่สิ่งที่เราอยากจะแนะนำก็คือ ‘การเป็นตัวของตัว’ และปฏิบัติตามเทรนด์ความงามเหล่านั้นอยู่บนพื้นฐานความเหมาะสมและปลอดภัยอยู่เสมอ