Search
Close this search box.
Search
Close this search box.
HOME / Fashion / Trends

‘Female Gaze’ เปลี่ยนมุมมองในทุกงานสร้างสรรค์ด้วยของมุมมองของผู้หญิง

ผู้หญิงผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงและเท่าเทียมของมุมมองการทำงานในแวดวงสร้างสรรค์
Fashion / Trends

แทบจะทุกอุตสาหกรรมทั่วโลกใบนี้นั้นถูกขับเคลื่อนและควบคุมด้วยผู้ชายเสียเป็นส่วนใหญ่ มีสาเหตุมาจากชุดความคิด ‘ชายเป็นใหญ่’ ที่ฝังรากลึกมาอย่างยาวนานในทุกวัฒนธรรมทั่วโลกที่กดทับผู้หญิงมาหลายยุคสมัย ทำให้ผู้หญิงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้นถูกด้อยค่าว่าพวกเธอไม่มีความสามารถเท่าผู้ชายทั้งทางด้านกายภาพและชีวภาพ 

ชุดความคิดแสนจะล้าหลังเหล่านี้เองที่ทำให้พวกเธอต้องอยู่ใต้อาณัติของผู้ชายมาโดยตลอดเปรียบเสมือนช้างเท้าหลังที่ไม่มีสิทธิ์จะออกมาแสดงความคิดเห็นหรือแม้แต่ฝีไม้ลายมือในด้านต่างๆ ของพวกเธอ ทำให้ผู้หญิงทั่วโลกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันผู้หญิงถูกกีดกันในสายอาชีพต่างๆ ทำให้พวกเธอเป็นได้แค่ไม้ประดับในเส้นทางอาชีพของผู้ชายเท่านั้น 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์อุตสาหกรรมที่ใช้ความคิดเป็นตัวขับเคลื่อนพวกเธอก็ยังโดนกดทับจากชุดความคิดชายเป็นใหญ่จนทำให้พวกเธอนั้นต้องอยู่ใต้เงาของนักสร้างสรรค์เพศชายมาโดยตลอด ทำให้จำนวนผู้หญิงที่มีบทบาทสำคัญในสองอุตสาหกรรมนี้มีเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมากๆ ส่งผลให้ ‘Male Gaze’ หรือมุมมองของผู้ชายนั้นครอบครองพื้นที่ในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และอุตสาหกรรมแฟชั่นที่เหล่าผู้กำกับ ช่างภาพ และนักออกแบบเสื้อผ้ามักจะจ้องมองผู้หญิงให้กลายเป็น ‘วัตถุทางเพศ’ และส่งต่อมุมมองนี้มาจนถึงปัจจุบัน 

ทว่าหลายปีที่ผ่านมาเกิดกระแสการเคลื่อนไหวเพื่อความเท่าเทียมทางเพศของผู้หญิงมากมาย ยกตัวอย่างเช่น #METOO และ #ASKHERMORE ทำให้ผู้หญิงในแวดวงต่างๆ หันมาเรียกร้องสิทธิของตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยเรื่องราวคุกคามทางเพศ สร้างพลังหญิงในวงการเรียกร้องความเท่าเทียมและเพิ่มช่องทางการทำงานของของผู้หญิงมากขึ้น ทำให้ในปัจจุบันผู้หญิงหลายๆ คนเข้ามามีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์มากขึ้นและสร้างมุมมองที่ชื่อว่า ‘Female Gaze’ ขึ้นมาเพื่อถ่ายทอดอีกมุมมองอันเท่าเทียมให้กับแวดวงความคิดสร้างสรรค์นี้

What is the Female Gaze and How Different with Male Gaze?

แนวคิดหรือทฤษฎี Female Gaze นั้นเป็นทฤษฎีที่ตรงกันข้ามกับ Male Gaze ซึ่งทฤษฎีหลังนั้นเกิดขึ้นในปี 1975 โดยนักทฤษฎีภาพยนตร์ชาวอังกฤษที่ชื่อว่า ‘Luara Mulvey’ เพื่อขึ้นมาเพื่อตั้งคำถามและอธิบายการจ้องมองผู้หญิงจากมุมมองของผู้ชายในสื่อฝั่งตะวันตก โดยขยายความคำว่า Male Gaze ได้ว่าคือสายตาที่จับจ้องไปยังผู้หญิงในงานภาพยนตร์และงานสร้างสรรค์ต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นสายตาของชายรักต่างเพศหรือ ‘Heterosexual Male’ และยังส่งผลไปยังบทบาทและสถานะของผู้หญิงในชิ้นงานสร้างสรรค์นั้นๆ ด้วย

ดังนั้นทฤษฎี Female Gaze จึงหมายความว่า การสร้างผลงานสร้างสรรค์ในมุมมองของผู้หญิงเพื่อตอบสนองผู้บริโภคที่เป็นเพศหญิงซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์นี้ ในทางกลับกัน Female Gaze ไม่ได้มองผู้ชายแบบเป็นวัตถุทางเพศหรือนำเสนอความเป็นผู้หญิงจ๋า แต่มันคือการมองเรื่องราวที่เกิดขึ้นผ่านมุมมองของนักสร้างสรรค์ผู้หญิงหรือตัวละครหญิงบ้างเท่านั้น บริบทของผู้หญิงที่ไม่ใช่วัตถุทางเพศอย่างเดียวเท่านั้น พวกเธอมีกรอบความคิด มีบทบาท และแสดงอารมณ์ได้มากกว่าในมุมมองแบบ Male Gaze 

Women Who Convey a View of Female Gaze

Maria Grazia Chiuri – Fashion Designer 

เรามาพบกับผู้หญิงคนแรกกันดีกว่าอย่าง ‘Maria Grazia Chiuri’ เธอคนนี้มีบทบาทเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์และเป็นครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ให้กับแบรนด์แฟชั่นสุดหรูอย่าง Dior ซึ่ง Maria เป็นครีเอทีฟไดเร็กเตอร์หญิงคนแรกและคนเดียวในประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 76 ปีของแบรนด์หรูเก่าแก่นี้ เธอเข้ามารับตำแหน่งหัวเรือใหญ่ของแบรนด์ด้วยมุมมองแบบ Female Gaze และมุ่งมั่นที่จะพูดถึงในมุมมองใหม่ๆ เพื่อถ่ายทอดภาพของผู้หญิง Dior ให้แตกต่างออกไปจากเดิม 

เสื้อผ้าของเธอนั้นเข้าถึงง่ายและสวมใส่ได้จริงแตกต่างไปจากครีเอทีฟไดเร็กเตอร์คนก่อนๆ เธอสลัดภาพสุดเว่อวังของพวกออกไปจนหมดและยังสอดแทรกความเป็น ‘สตรีนิยม’ ไปในทุกๆ คอลเลคชั่น จนทำให้สื่อแฟชั่นหลายสำนักรวมถึงสายแฟจำนวนมากค่อนแคะในผลงานออกแบบสุดเรียบง่ายของเธอที่ต่างจากที่นักออกแบบคนก่อนๆ เคยทำมา แต่ผลงานการออกแบบของเธอนั้นกลับได้รับการตอบรับจากลูกค้าของแบรนด์เป็นอย่างดี ทำให้แบรนด์นั้นเติบโตอย่างก้าวกระโดดและสร้างยอดขายถึงเกือบ 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีที่แล้ว 

Phoebe Philo – Fashion Designer

อีกหนึ่งแฟชั่นดีไซเนอร์ที่เชิดชูในสตรีนิยมอย่าง ‘Phoebe Philo’ อดีตหัวเรือหลักของแบรนด์ Celine และ Chloe ผู้สร้างลัทธิ Old Celine ให้กับสายแฟที่คิดถึงผลงานการออกแบบของเธอสมัยที่เธอเป็นครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ให้กับแบรนด์นี้อยู่ เธอเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ที่ออกแบบเสื้อผ้าเพื่อเสริมพลังให้กลับผู้หญิงไม่ใช่เพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้ชาย และเธอยังเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์หญิงเพียงไม่กี่คนที่ถูกยกย่องให้เป็นนักออกแบบที่ใช้มุมมอง Female Gaze ในการรังสรรค์เสื้อผ้า

ผลงานการออกแบบของ Phoebe นั้นเรียกได้ว่ามีผู้หญิงเป็นหัวใจในการออกแบบอย่างแท้จริง เธอให้ความสำคัญกับความรู้สึกและความต้องการของผู้หญิง แต่ในขณะเดียวกันเธอยังให้ความสำคัญในเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งานและความสะดวกสบายในการสวมใส่ด้วย อีกทั้งยังออกแบบเสื้อผ้าให้เข้ากับรูปร่างโดยธรรมชาติของผู้หญิงในทุกไซส์ ที่สำคัญผลงานการออกแบบของเธอยังสวยและโอบรับกับไลฟ์สไตล์ผู้หญิงยุคใหม่ ทำให้สายแฟทั่วโลกชื่นชอบและคลั่งไคล้ใน Old Celine จนถึงทุกวันนั้น

Chloe Zhao – Movie Director

กระโดดมาที่แวดวงหนังกันบ้างกับผู้กำกับหญิงเชื้อสายเอเชียคนแรกที่คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากออสการ์อย่าง ‘Chloe Zhao’ เธอเป็นผู้กำกับที่เติบโตมาในความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างแท้จริง เพราะเธอเกิดและเติบโตที่ประเทศจีนก่อนที่จะย้ายไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษและประเทศสหรัฐอเมริกาตามลำดับ บ่มเพาะให้เธอความเป็นสตรีนิยมอย่างเข้มข้นและมุมมองแบบ Female Gaze เห็นได้จากผลงานกำกับภาพยนตร์ของเธอหลายๆ งาน

อย่างภาพยนตร์เรื่อง The Rider ที่สร้างชื่อให้เธอกลายเป็นที่รู้จักในแวดวงฮอลลีวูดก็ถูกยกย่องว่าจากสื่อบันเทิงว่าเป็นภาพยนตร์คาวบอยที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างละเมียดละไม แสดงถึงมุมมองอันอ่อนแอและบอบบางของผู้ชายต่อต้านแนวคิด Toxic Masculinity ที่มองผู้ชายว่าจะต้องแข็งแกร่ง เป็นผู้นำ และอดทน และตอกย้ำมุมมองของผู้หญิงของเธอในการถ่ายทอดตัวละคร ‘Fern’ จากเรื่อง NOMADLAND ที่บอกเล่าเรื่องราวของหญิงวัยกลางคนที่ถูกทิ้งจากระบบทุนนิยมได้อย่างสมจริงจนคว้ารางวัลออสการ์มาได้ถึง 7 สาขา 

Greta Gerwig – Movie Director

อีกหนึ่งชื่อผู้กำกับหญิงที่เราคงจะไม่พูดถึงไม่ได้อย่าง ‘Greta Gerwig’ ผู้กำกับและนักเขียนบทผู้ผันตัวมาจากนักแสดงสายอินดี้ที่ประกาศกร้าวว่าตัวเองเป็นนักสตรีนิยม ด้วยประสบการณ์ที่โชกโชนทำให้หนังที่เธอกำกับทั้งสองเรื่องอย่าง Lady Bird และ Little Woman ได้เข้าชิงรางวัลด้านภาพยนตร์ระดับโลกแม้จะเป็นงานกำกับสองเรื่องแรกในชีวิตของเธอ

ภาพยนตร์เรื่องแรกอย่าง Lady Bird ภาพยนตร์แนว Coming of Age น้ำดีที่บอกเล่าเรื่องราว ‘Christine’ นักเรียนไฮสคูลที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ถูกถ่ายทอดคาแรกเตอร์ออกมาได้อย่างสมจริงและสลัดพล็อตสุด Cliché ของวัยรุ่นออกไปได้ เธอเน้นเส้นเรื่องไปที่การค้นหาตัวตนของ Christine และความสัมพันธ์ของเธอกับตัวละครอื่นๆ ลดเรื่องราวโรแมนติกลงให้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของหนังจนเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของออสการ์

ส่วน Little Women ภาพยนตร์รีเมคที่เธอนำมาสลัดความเชยของบท และบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของหญิงสาววัยรุ่นในรูปแบบที่ต่างกันภายใต้กรอบของสังคมที่กดทับผู้หญิงในศตวรรษที่ 19 ตัวละครพี่น้องในเรื่องทั้ง 4 คนนั้นสามารถสะท้อนถึงผู้หญิงที่มีความหลากหลายในสังคมในปัจจุบันนี้ แถมภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องมีจุดเด่นเรื่องของบทพูดมากๆ และยังสะท้อนการกดทับของผู้หญิงได้เป็นอย่างดี

Annie Leibovitz – Photographer

จากงานสร้างสรรค์ในรูปแบบภาพเคลื่อนไหวเราขอมาพูดถึงหญิงผู้ทรงอิทธิพลผู้รังสรรค์ภาพนิ่งสุดมหัศจรรย์อย่าง ‘Annie Leibovitz’ ช่างภาพชาวอเมริกันผู้โด่งดังในงานภาพถ่ายบุคคุล หรือ Portrait ให้กับเหล่านักแสดงและศิลปินผู้มีชื่อเสียงระดับโลกหลายๆ คน เช่น  John Lennon, Yoko Ono, Demi Moore รวมถึง Leonardo Dicaprio ความโดดเด่นในการถ่ายภาพบุคคลของเธอทำให้เธอมักถูกนิตยสารชื่อดังอย่างเช่น Vanity Fair และ Vogue เรียกไปถ่ายปกนิตยสารอยู่บ่อยครั้ง

ภาพถ่ายบุคคลของเธอนั้นมีความโดดเด่นในเรื่องของอารมณ์ ท่าทาง และสีสันเพราะ Annie มีความสามารถในการดึงอารมณ์ร่วมจากเหล่าเซเลบริตี้ที่เธอถ่ายออกมาได้อย่างดี ทำให้ภาพไอคอนิคหลายๆ ภาพของเธอเราจะเห็นอิริยาบถของแบบในอารมณ์ที่แตกต่างกันแต่ก็สวยงามและลงตัวและมีลายเซ็นของเธออยู่เต็มเปี่ยม ซึ่งเรามองว่ามันเป็นผลมาจาก Female Gaze ของเธอที่ดึงเอาอิริยาบถธรรมชาติของมนุษย์มาใช้ อีกทั้งเธอยังเป็นคนที่ให้ความสำคัญในความหลากหลายโดยเลือกใช้แบบหลากสีผิวและหลากเชื้อชาติในการถ่ายแบบอีกด้วย

Judy Chicago – Artist

ศิลปินคนสุดท้ายที่ถ้าไม่มีชื่อเธอในลิสต์นี้หัวข้อที่เราพูดถึงวันนี้ก็จะไม่สมบูรณ์อย่าง ‘Judy Chicago’ ศิลปินแนวสตรีนิยมผู้มีอิสระและมีเชิดชูในสตรีนิยมเป็นอย่างมาก โดยเธอเผยแพร่ความเป็นสตรีนิยมและ Female Gaze ผ่านชิ้นงานศิลปะสุดไอคอนิคของเธอหลายๆ ชิ้น ผลงานศิลปะของเธอมักจะนำเอาองค์ประกอบที่ Feminine จ๋าอย่าง งานปักชนิดต่างๆ และการจัดวางของ มาผสมผสานกับองค์ประกอบที่ Masculine สุดโต่งอย่าง การเชื่อม และศิลปะการทำดอกไม้ไฟ

ยกตัวอย่างเช่นผลงานชินเด่นที่สุดของเธออย่าง ‘The Dinner Party’ งานศิลปะจัดวางที่แสดงถึง Female Gaze และแนวคิดสตรีนิยมได้เป็นอย่างดี ศิลปะชิ้นนี้เป็นการจัดวางโต๊ะ 39 ตัวแทนผู้หญิงที่มีชื่อเสียง 39 คน แต่ละโต๊ะมีจานเซรามิกที่วาดภาพเป็นดอกไม้ที่มีรูปร่างคล้ายกับช่องคลอด นอกจากนั้นเธอยังได้ไปคอลแลบอเรชั่นกับ Dior โดย Maria Grazia Chiuri โดยนำเสนอโชว์ Haute Couture S/S 2020 ภายในอาคารชั่วคราวที่ Judy ออกแบบมาให้คล้ายกับช่องคลอดขนาดใหญ่ ส่วนด้านในของโดมนั้นประดับตกแต่งด้วยป้ายขนาดใหญ่สูงสามเมตรที่ปักด้วยคำถามเกี่ยวกับสตรีนิยม 

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม