แบรนด์ Longines เป็นแบรนด์ที่ริเริ่มการผลิตนาฬิกาความถี่สูงถึง 36,000 ครั้ง/ชั่วโมง (5Hz) หรือ 10 ครั้ง/วินาที ที่มาพร้อมกับความเที่ยงตรงในระดับสูง ด้วยชื่อเสียงในฐานะผู้นำเรื่องพัฒนาเทคโนโลยีในนาฬิกาพกจับเวลาความถี่ตั้งแต่ปี 1914 จนต่อได้มีการพัฒนานาฬิกาข้อมือความถี่สูงเป็นเรือนแรกในปี 1959 ซึ่งได้รับรองในระดับ Ultra Chronometer นับเป็นการสร้างสถิติใหม่ในการเป็นผู้นำด้านความแม่นยำ
และในปี 1968 แบรนด์ไม่ได้หยุดการพัฒนากลไกความถี่สูงของ Longines ที่ชื่อ Ultra-Chron ให้มีเฉพาะแค่ในนาฬิกาเดรสส์เท่านั้น แต่ได้พัฒนามาใช้กับนาฬิกาดำน้ำ Ultra-Chron Diver ด้วย ซึ่ง ด้วยกลไกอัตโนมัติ 431 และมีความสามารถในการกันน้ำ 200 เมตร ส่วนชื่อ Ultra-Chron ย่อมาจาก Ultra-Chronometer เปรียบเสมือนการยืนยันความเที่ยงตรงของกลไกในยุคนั้น ที่มีค่าความคลาดเคลื่อนแค่ 1 นาทีต่อวันเท่านั้น
สำหรับ Longines Ultra-Chron Diver เวอร์ชันปี 2022 ได้รับแรงบันดาลใจจากดีไซน์ของนาฬิกา Ultra-Chron รุ่นดั้งเดิมจากปี 1968 ที่มาพร้อมกับหน้าปัดสีดำด้านขัดแต่งผิวแบบ Grain เข็มนาทีทรง Pensil สีแดง เข็มชั่วโมงและหลักชั่วโมงทรง Baton เคลือบสารเรืองแสง Super Luminova และสัญลักษณ์ ‘Ultra-Chron’ ตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกา ขอบ Bezel หมุนได้ทิศทางเดียวพร้อม Insert วัสดุ Sapphire กับ Diving Scale สีแดงสลับกับตัวเลขเรืองแสง ใช้กระจกหน้าปัด Sapphire แบบ Box
ตัวเรือน Stainless Steel ทรง Cushion ขนาด 43 มิลลิเมตร สามารถกันน้ำลึก 300 เมตร ฝาหลังแบบปิดทึบสลักโลโก้ Ultra-Chron ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไก Automatic Cal.L836.6 ความถี่สูง 36,000 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 52 ชั่วโมง และผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงในระดับ Ultra-Chronometer จากสถาบัน Timelab Geneva โดยทดสอบในอุณหภูมิแปรผัน 3 ระดับ (8-23-38 องศาเซลเซียส) เป็นเวลา 15 วัน ตามมาตรฐาน ISO3159-2009
กลไกเหล่านี้เป็นองค์ความรู้ที่ถูกถ่ายทอดสืบต่อกันมาตั้งแต่ Longines เป็นผู้ผลิตขึ้นในปี 1914 สำหรับนาฬิกาจับเวลาแบบตั๊งโต๊ะ (ความสามารถในการจับเวลาได้ละเอียดถึง 1/10วินาที) และปี 1916 (ความสามารถในการจับเวลา ได้ละเอียดถึง 1/100 วินาที) และถือเป็นนวัตกรรมที่ช่วยพัฒนาการจับเวลาให้ดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม นับจาก ตั้งแต่ปี 1959 เป็นต้นมา Longines ได้นำระบบกลไกความถี่สูงมาใช้เพื่อเพิ่มความแม่นยำ ให้กับนาฬิกาข้อมือของตนเอง กลไกความถี่สูงนี้มาพร้อมคุณสมบัติในการต้านทานแรงกระแทกหรือการเคลื่อนไหว โดยได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความแม่นยำที่สูงกว่า
นาฬิกามาพร้อมกับสาย Steel ขัดลวดลาย Satin สลับ Polished กับบานพับแบบล็อก 2 ชั้น หรือรุ่นสายหนังวัวกับ Pin Buckle Steel โดยทาง Longines ยังมีเซ็ตที่มาพร้อมกับสายผ้า NATO สีดำทอสลับแถบสีแดงกับ Pin Buckle Steel ในรุ่น Box Edition ให้เลือกอีกด้วย
Longines Ultra-Chron Diver รุ่นที่วางจำหน่ายมีด้วยกัน 4 แบบ ได้แก่
L2.836.4.52.2 – สายหนัง ราคา 117,000 บาท
L2.836.4.52.6 – สายสตีล ราคา 126,800 บาท
L2.836.4.52.8 – สายหนัง+สาย NATO สีดำผลิตจากวัสดุรีไซเคิล ราคา 128,700 บาท
L2.836.4.52.9 – สายสตีล+สาย NATO สีดำผลิตจากวัสดุรีไซเคิล ราคา 136,500 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม longines.com
#LONGINES
#LIPSMAGAZINE