การตีความงานดีไซน์ครั้งใหม่โดยครีเอทีฟไดเรกเตอร์เครื่องประดับ Pierre Hardy เมื่อเขาได้เลือกสิ่งใกล้ตัวเราอย่าง ‘เงา’ มาเป็นคีย์หลักในการรังสรรค์คอลเลคชั่นเครื่องประดับล่าสุดจาก Hermès โดยให้ชื่อว่า Les Jeux de L’ombre ซึ่งถือเป็นคอลเลคชั่นที่ 7 แล้วที่ Pierre ได้เข้ามาร่วมงานและสรรสร้างเครื่องประดับให้กับแบรนด Hermès
การตีความครั้งนี้น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะ Pierre ได้นำเอามิติของเงามาเล่าเรื่องในการออกแบบ การผสานเรื่องราวการเคลื่อนไหวของเงาและความสัมพันธ์ระหว่างเงาและแสงได้ถูกถ่ายทอดสู่เครื่องประดับชั้นสูงดีไซน์สุดโมเดิร์นและแยบยลด้วยความเก๋ในแบบฉบับของ Pierre อัญมณีเลอค่าถูกประดับลงบนเค้าโครงรูปเงาสีดำเป็นการเล่นความสัมพันธ์ระหว่างแสงและเงาแบบที่เราเกริ่นไป ทุกชิ้นจะมีเอกลักษณ์ของสีดำที่สื่อถึงเงาเกือบทั้งหมดสร้างมิติอีกแบบให้กับคอลเลคชั่นนี้ได้อย่างน่าสนใจ
อีกหนึ่งความสัมพันธ์ระหว่างแสงและเงา เมื่อเครื่องประดับแต่ละชิ้นกระทบแสงจะเกิดประกายทำให้อัญมณีที่ถูกล้อมด้วยสีดำดูเปล่งประกายขึ้นอีก และยังมีเทคนิคการจัดวางอัญมณีแบบเรียงแถวไล่เฉดสีและโมโนโครมอย่างเช่นสร้อยคอ Miroir d’ombre ซึ่งแบ่งออกเป็นสองส่วน โดยส่วนเงาสามารถแยกชิ้นออกจากอัญมณีได้ นอกจากนี้แล้วเทคนิคการฝังแบบเรียงแถวสามารถเห็นได้อีกจาก Chaine d’ombre สร้อยคอเพชรสีขาวน้ำงามเจียระไนแบบ Flat-cut ซึ่งตัวนี้ถือเป็นไฮไลต์เพราะต้องใช้ช่างฝีมือเป็นเวลาร่วม 2,000 ชั่วโมง รวมถึง 700 ชั่วโมงในการเจียระไน
สำหรับ Pierre ผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบคอลเลคชั่นทั้งหมด เขาต้องการเน้นเครื่องประดับที่สามารถสวมใส่ได้จริงผ่านงานดีไซน์และงานฝีมือระดับของช่างฝีมือ ซึ่งคอลเลคชั่นนี้จะประกอบไปด้วย Lueurs du jour, Omnres mobiles, Miroir d’ombre, Chaines d’ombre, Fouet ombre, Triptyques lumiere และ Lumiere brutes เซตเครื่องประดับครบครันที่ตอบโจทย์แง่ความสวยงามและการใช้สอยได้จริง
