อย่างที่ทุกคนรู้กันว่าสถานการณ์โลกในปัจจุบันนี้นั้นล้วนมีแต่สถานการณ์วุ่นวายที่สามารถสร้างสภาวะความเครียดและความกังวลให้กับหลายๆคนได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านเศรษฐกิจ สงคราม สิ่งแวดล้อม รวมถึงโรคระบาดสายพันธุ์ใหม่นานาชนิดที่เกิดขึ้นอย่างไม่หยุดไม่หย่อน
และเพื่อก้าวข้ามสถานการณ์อันวุ่นวายเหล่านี้ไป มนุษย์เราต้องปรับตัวให้เข้าสถานการณ์ต่างๆ อย่างใจเย็นและแน่วแน่
ผู้คนในยุคปัจจุบันละเลยการดูแล ‘ตัวเอง’ ในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านสุขภาพกายและสุภาพจิตที่เปรียบเสมือนเชื้อเพลิงและเครื่องยนต์ที่คอยขับเคลื่อนให้ชีวิตของพวกเราดำเนินต่อไปได้อย่างไม่มีสะดุด ทำให้ผู้คนในยุคนี้มีปัญหาด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่เป็นผลพวงมาจากสถานการณ์โลกอันวุ่นวายต่างๆ
แต่ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเหล่านั้นจะหมดไปถ้าเราเรียนรู้ที่จะ ‘รักตนเอง’ ก่อนเพราะมีเพียงแค่ตัวเราเองที่เรานั้นใช้เวลาทุกๆ วินาทีในชีวิตด้วย การสร้างความสัมพันธ์ด้วยความรักกับตัวเองอาจจะเป็นอะไรที่ดูยากและซับซ้อนและในบางครั้งก็ถูกมองในเชิงลบ แต่อย่างไรก็ตามการสร้างความสุขและเสรีภาพให้กับตัวเองก็เป็นอะไรที่ดีและตอบโจทย์มากสำหรับคนในยุคนี้
What Does Self-Love Mean?
’Self-Love’ หรือ ‘การรักตนเอง’ คือความรู้สึกไว้วางใจ มั่นใจ และภูมิใจในตัวตนและความสามารถของตนเอง การรักตัวเองนั้นจะช่วยให้เรามีความสุขและสนุกกับช่วงเวลาดีๆ ในชีวิต อีกทั้งยังสร้างความเชื่อมั่นในตัวเองที่มีต่อความสามารถของเราในการเผชิญและจัดการกับปัญหาต่างๆ รวมถึงช่วงเวลาที่เลวร้ายในชีวิต
การรักตัวเองนั้นอาจจะเป็นเรื่องยากเนื่องจากความคิดต่างๆ ภายในใจของเรา โดยเฉพาะความคิดที่ว่า “เราไม่ดีพอ” รวมถึงความรู้สึกผิดเกี่ยวกับการให้ความสำคัญกับความต้องการของตัวเองก่อน ซึ่งหลายๆ คนมองว่าเป็นเรื่องที่เห็นแก่ตัว แต่ความจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลยเพราะ Sabrina Romanoff นักจิตวิทยาคลินิกที่โรงพยาบาล Lenox Hill ในกรุงนิวยอร์กได้กล่าวไว้ว่า
“มีการเปลี่ยนแปลงมุมมองโดยธรรมชาติของการรักตนเอง เมื่อบุคคลเริ่มจัดลำดับความสำคัญของความต้องการภายในมากกว่าความต้องการของผู้อื่น” สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติหรือเห็นแก่ตัวเลยเพียงแต่เป็นการให้ความสำคัญกับความต้องการของตัวเองมาเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตามการพัฒนาการรักตัวเองอาจจะใช้เวลา ความอดทน และการฝึกฝน แต่การรักตนเองเป็นสิ่งที่ทุกคนคู่ควรและทำได้โดยทุกคน
6 Ways to Practice Self-Love
วันนี้เราจะพาทุกคนมาฝึกรักตนเองโดย 6 วิธีง่ายๆ ที่จะทำให้คุณเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม จะมีขั้นตอนอะไรบ้างไปดูกันเลย!
1. ฝึกดูแลตนเอง
‘การดูแลตนเอง’ คือสิ่งที่คุณทำเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ ร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ของคุณ ซึ่งการดูแลตนเองนั้นเปรียบเสมือนรากฐานของการรักตัวเองเพราะเมื่อเราเริ่มรักตัวเองเราจะหันมาสนใจในการดูแลตัวเองด้วยวิธีการต่างๆ ที่จะพัฒนาให้องค์รวมของเรานั้นดียิ่งขึ้น ซึ่งมีหลายวิธีมากที่เราสามารถดูแลตัวเองได้ เช่น ทำอาหาร ดูหนัง เล่นเกม เดินเล่น ทำความสะอาดบ้าน ออกกำลังกาย เป็นต้น
2. มีสติตลอดเวลา
‘การมีสติ’ หรือการตระหนักรู้ในสิ่งที่คุณกำลังสัมผัสและรู้สึกในขณะนั้นโดยไม่มีการตัดสิน การมีสติพยายามพาคุณออกจากอดีตหรืออนาคตให้มันมาโฟกัสในปัจจุบัน ซึ่งวิธีการนี้เป็นอะไรที่คนไทยรู้กันเป็นอย่างดีเพราะการมีสติสัมปชัญญะเป็นอะไรที่ถูกผูกกับศาสนาพุทธอย่างแยกไม่ออก
วิธีการที่ดูง่ายแต่ทำยากข้อนี้จะทำให้เราฟังความต้องการของร่างกายและจิตใจของคุณ อีกทั้งยังช่วยให้เราตระหนักถึงความต้องการของตัวเองและเข้าใจว่าความต้องการของเราเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้เพื่อตัวเอง มีวิธีการมากมายที่จะช่วยฝึกสติของเราให้อยู่กับปัจจุบันยกตัวอย่างเช่น การนั่งสมาธิ การนับลมหายใจเข้าออก หรือแม้แต่การทำ ‘Grounding Exercise’ หรือการตั้งสติด้วยการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้าก็เป็นอะไรที่ช่วยทำให้เรามีสติมากขึ้น
3. ตั้งคำถามต่อความคิดลบ
เมื่อคุณมีความคิดในหัวว่า “ฉันไม่ดีพอ” หรือ “ฉันทำไม่ได้” ให้ตั้งคำถามกับตัวเองว่าอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกอย่างนั้น และคุณจะเปลี่ยนมุมมองและความคิดเพื่อมุ่งไปสู่ความสำเร็จได้อย่างไร นอกจากนี้ให้คุณใช้เวลาคิดทบทวนว่าปัจจัยภายนอกมีอิทธิพลต่อความคิดเห็นที่มีต่อตัวเองของคุณอย่างไร
มีบางครั้งคุณทำงานได้ไม่ดีแต่บางทีความคาดหวังของคนอื่นก็เป็นสิ่งที่เอารัดเอาเปรียบเรา Aimee Daramus นักจิตวิทยาคลินิกชื่อดังกล่าวไว้ว่า บางครั้งเราไม่ได้อยู่เพื่อคนอื่นและความต้องการของคนอื่นก็ไม่มีเหตุผลในบางที ดังนั้นอย่าเอาความคิดของคนอื่นมาเป็นแรงผลักดันในชีวิตของคุณ แต่ให้ความต้องการของเรานั้นเป็นสิ่งที่พาเราไปสู่ความสำเร็จแทน
4. กำหนดขอบเขตในชีวิต
‘การกำหนดขอบเขต’ ทั้งทางร่างกายและอารมณ์ช่วยให้คุณควบคุมวิธีปฏิบัติต่อตนเองและวิธีที่ผู้อื่นปฏิบัติต่อคุณได้ ซึ่งทั้งสองอย่างที่เรากล่าวไปนี้สำคัญมากต่อการรักตัวเอง การกำหนดขอบเขตช่วยจัดลำดับความสำคัญต่อความต้องการของคุณ และช่วยให้คุณพูดได้ว่าคุณต้องการอะไร ถ้าหลายๆ คนกำลังงงว่าการกำหนดขอบเขตคืออะไร เราเลยยกตัวอย่างการกำหนดขอบเขตอย่างคร่าวๆ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจดังต่อไปนี้
– เรียนรู้ที่จะพูดว่า “ไม่” โดยไม่รู้สึกผิด
– ตัดสินใจโดยไม่คำนึงถึงความคิดเห็นของผู้อื่น
– ยืนหยัดเพื่อตัวเองและความต้องการของคุณ
5. หยุดเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น
ปัจจุบันนี้โซเชียลมีเดียทำให้เราสามารถท่องโลกกว้างได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด และอีกสิ่งที่ตามมาก็คือการได้เห็นชีวิตและความสำเร็จตามอุดมคติของผู้อื่นได้ง่ายเช่นกัน ซึ่งก่อให้เกิดการเปรียบเทียบตัวเองกับบุคคลอื่นในโลกออนไลน์ขึ้น ซึ่งสิ่งนี้ส่งผลเสียต่อการรักตัวเองและการเห็นคุณค่าในตนเอง
Sabrina Romanoff นักจิตวิทยาคลินิกเลยกล่าวไว้ว่า “โซเชียลมีเดียวเป็นเวอร์ชันสุดโต่งของบุคคลนั้นๆ สิ่งที่เขาแสดงในโลกออนไลน์เป็นเพียงเศษเสี้ยวของชีวิตพวกเขา” ดังนั้นจงหยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนในโลกออนไลน์ที่แสดงให้เห็นแต่เพียงด้านบวกของพวกเขา และจงจำไว้ว่าทุกคนล้วนมีปัญหาและความยากลำบากในชีวิตเหมือนๆ กัน
6. หลีกเลี่ยงบุคคลที่เป็นพิษ (Toxic Person)
’Toxic Person’ หรือ ‘บุคคลที่เป็นพิษ’ เป็นคนที่สามารถจำกัดความสามารถและความคิดในการรักตนเองของคุณได้ ถึงแม้ว่าคุณจะสามารถรักตัวเองได้ด้วยตัวเองแต่มันจะง่ายกว่าไหมเมื่อคนรอบข้างคุณให้พลังงานบวกและความเคารพต่อตัวคุณ ดังนั้นพยายามหลีกเลี่ยงเหล่าบุคคลที่เป็นพิษต่อชีวิตของคุณไว้ แล้วเราจะรู้ได้ไงหละว่าบุคคลที่เป็นพิษจะมีลักษณะอย่างไร? ไม่ต้องห่วงวันนี้เราได้รวมลักษณะของบุคคลที่เป็นพิษคร่าวๆ ไว้ให้คุณพิจารณากันแล้ว
– อย่างแรกเลยคือต่อต้านการเจริญเติบโตของคุณ
– มีแต่เรื่องแย่ๆ ที่จะพูด
– เพิกเฉยต่อความคิดเห็นของคุณ
– ละเลยขอบเขตที่คุณตั้งไว้
– ปล่อยให้คุณเหนื่อยหลังจากใช้เวลาร่วมกัน
และขั้นตอนเหล่านี้ก็คือการฝึกฝน ‘การรักตนเอง’ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งการเดินทางในชีวิตของคุณที่จะช่วยให้คุณมีชีวิตที่ดีขึ้น คุณสามารถฝึกฝนและพัฒนาความสัมพันธ์ต่อตัวคุณเองได้หรือรับความช่วยเหลือจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญ เราขอสรุปง่ายๆ เลยว่าการรักตัวเองก็เหมือนการรับฟังความเห็นของตัวเอง ตั้งคำถามกับความคิดลบๆ ในหัว และพยายามหลีกเลี่ยงบุคคลที่จะทำให้คุณตกต่ำ แม้อาจจะฟังดูปฏิบัติตามได้อย่างแต่เราเชื่อว่าหากคุณปฏิบัติตามได้ชีวิตรวมถึงสุขภาพกายและจิตของคุณจะดีขึ้นเป็นกอง