ในโอกาสวันตรุษจีนปี 2023 ที่กำลังจะมาถึง ‘Breguet’ แบรนด์นาฬิกาหรูสัญชาติสวิสฯ ได้เฉลิมฉลองปีกระต่ายด้วยนาฬิการุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นจำนวน 8 เรือนที่ส้รางขึ้นมาเพื่อมอบพลังให้กับคุณผู้หญิงโดยเฉพาะ โดยนาฬิกาสำหรับโอกาสพิเศษนี้มาจากคอลเลกชั่น ‘Classique’ ที่นำเสนอการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างเทคนิคช่างฝีมือของเมซงในด้านความเชี่ยวชาญด้านการลงยาและการแกะสลัก นาฬิกาเรือนนี้เป็นการตีความทางศิลปะที่ประดับประดาด้วยกระต่าย 6 ตัว ซึ่งความงามที่ถูกส่งมอบผ่านหน้าปัดนั้นแสดงออกถึงความฉลาด ความว่องไว และความอ่อนโยนของผู้หญิงยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี
‘กระต่าย’ นั้นเป็นสัญลักษณ์ของความปรารถนาดีในประเทศจีน และกระต่ายยังเป็นสัตว์ที่เป็นส่วนหนึ่ง 12 ปีนักษัตรของจีนอีกด้วย ซึ่งมีความเกี่ยวข้องและสื่อถึงความขี้เล่นและความฉลาด ด้วยเหตุนี้ Breguet จึงได้รับแรงบันดาลใจจากคุณสมบัติและลักษณะของกระต่าย นำมารวมกับงานฝีมือชั้นครูของเมซงอย่างเทคนิคการลงยาและเทคนิคการแกะสลักด้วยมือที่ทำให้กระต่ายบนหน้าปัดนั้นดูมีชีวิตชีวา มีอิสระ และมีชีวิตขึ้นมาในนาฬิการุ่นใหม่จากคอลเลกชั่น Classique สำหรับเทศกาลตรุษจีนปีหน้า
The Artistic Dial
จุดเด่นของนาฬิกา ‘Breguet Classique 9075 2023 Chinese New Year Edition’ นั้นอยู่ที่หน้าปัดที่แสดงฉากไดนามิกที่สดใสและประณีต ซึ่งมีกระต่าย 6 ตัวกำลังวิ่งเล่นรอบๆ พืชพันธุ์ โดยมีฉากหลังเป็นเมฆปุย ลวดลายทั้งหมดสลักด้วยมือบนหน้าปัดทองคำขาว 18 กะรัต ในขณะที่ลวดลายตรงกลางจะถูกสลักไว้ใต้การลงยา และลวดลายกระต่ายจะถูกสลักบนการลงยา และโครงร่างที่มีความนูนสูงสุด นอกจากนั้นเทคการแกะสลักทองคำที่ใช้ในการผลิตนาฬิกาเรือนนี้ยังเป็นเทคนิคการปั้นนูนต่ำที่ประกอบไปด้วยการแกะสลักลวดลายในขนาดที่เล็กลงมากๆ ของนาฬิกา ซึ่งหลังจากร่างแบบแล้วช่างฝีมือจะทำงานโดยใช้เครื่องมือแกะสลักแบบต่างๆ เช่น สิ่ว ขณะสังเกตส่วนประกอบต่างๆ โดยใช้กล้องจุลทรรศน์ นี่เป็นกระบวนการการผลิตที่ละเอียดอ่อนที่สุดจากทุกๆ ขั้นตอนการผลิต ตามมาด้วยการทำความสะอาดและขัดเงาชิ้นงาน เผยให้เห็นความงดงามของนาฬิกาเรือนนี้อย่างเต็มที่
นอกเหนือจากการตกแต่งหน้าปัดนาฬิกาแล้ว งานลงยายังเป็นงานฝีมือที่อาศัยความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษต้องอาศัยความเข้มงวด ความอดทน และความชำนาญด้านเทคนิค หลังจากเตรียมการอย่างรอบคอบแล้วทางช่างฝีมือของเมซงจึงลงยาบนหน้าปัดหลายๆ ชั้นก่อนนำไปเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 800 องศาเซลเซียส ต้องใช้น้ำยาที่โปร่งแสงและสีขาวในชั้นต่อเนื่องกันเพราะการเคลือบ 2 สีพร้อมกันจะทำให้มีความยากลำบากในขั้นตอนการทำงานที่อาจส่งให้เกิดความไม่สมบูรณ์แบบและแยกชั้นของสีเคลือบหรือลงยาได้ ช่างเคลือบจะต้องมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการทาสีและสีที่ใช้เคลือบหลังการเข้าเตาอบแล้ว รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสีแต่ละสีที่อุณหภูมิที่แตกต่างกัน เพื่อควบคุมการทาและการอบของชั้นที่ต่อเนื่องกัน และให้แน่ใจว่าไม่มีการรบกวนกันของแต่ละชั้น ประการสุดท้ายหน้าปัดจะต้องคงความหน้าขั้นสุดท้ายที่กำหนดไว้เป็นอย่างดี เพื่อให้ได้ขนาดที่สมบูรณ์แบบและละเอียดอ่อน ตลอดจนถึงความสูงและการตกแต่งที่สวยงามของหน้าปัด ในปัจจุบันมีช่างไม่กี่คนที่เชี่ยวชาญในด้านนี้ซึ่งหนึ่งในนั้นทำงานให้กับเมซงแห่งนี้
The Movement
นาฬิการุ่น 9075 นั้นผสมผสานความประณีตของนาฬิกาชั้นสูงหรือ ‘Haute Horlogerie’ แบบดั้งเดิมกับความสง่างามเอาไว้ด้วยกัน หัวใจของนาฬิกาเรือนนี้คือกลไกไขลาน ‘591C’ ที่ผลิตด้วยมือ การเคลื่อนไหวนี้มาพร้อมกับคันโยก Silicon ตามมาตรฐานการผลิตแบบนาฬิกาสวิสฯ และสปริง Silicon บาลานซ์แบบแบน โดยตัวเครื่องของนาฬิกาเรือนนี้ประกอบด้วยส่วนประกอบ 171 ชิ้น เคลื่อนไหวที่ความถี่ที่ 4 Hz และสำรองพลังงานได้นานถึง 38 ชั่วโมง และกันน้ำลึกได้ถึง 30 เมตร ตามธรรมเนียมของ Breguet ส่วนประกอบของลำกล้องจะทำด้วยมือทั้งหมดโดยช่างฝีมือของเมซง นาฬิกาเรือนนี้ยังสามารถชื่นชมได้จากด้วยหลังด้วยจานเหวี่ยงทองคำที่ประดับประดาอย่างประณีตด้วยงาน Guilloche ลวดลายข้าวโพดบาร์เลย์
Breguet Know-How
ณ เมซง Breguet งานฝีมือเชิงศิลป์ไม่ได้เป็นเพียงการยกระดับกลไกการผลิตนาฬิกาเท่านั้น แต่งานฝีมือเหล่านี้ล้วนเป็นหนึ่งใน DNA ของเมซงตั้งแต่ปี 1775 ที่เมซงได้ให้ความสำคัญกับความสวยงาม เทคนิค และนวัตกรรมในระดับเดียวกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับงาน Guillochage ซึ่งเป็นมรดกของแบรนด์ Breguet ที่ทำมากกว่ารักษาเอาไว้ โดยเครื่อง Guilloche ประมาณ 30 เครื่องได้รับการสร้างขึ้นใหม่ในส่วนของสานการผลิตนาฬิกา ถึงแม้จะมีรูปลักษณ์เหมือนเครื่องจักรโบราณ แต่เครื่องนี้มีอุปกรณ์ล่าสุดที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ระบบแสง ระบบออปติคัล และความแม่นยำที่เป็นเลิศ
การประชุมเชิงปฏิบัติการจึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกาทั้งหมด และช่างฝีมือสามารถดำเนินการในรูปแบบทางเรขาคณิตได้หลากหลาย ด้วยมุมมองของการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของฝ่ายวิจัยและแผนกสร้างสรรค์ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการพัฒนาโมติฟใหม่ๆ โดยทุ่มเทให้กับศิลปะ Guilloche เป็นพิเศษ