เรือนเวลาลุคสปอร์ตกับกลไกสุดพิเศษที่ลดความคลาดเคลื่อนเหลือเพียงแค่ 0/+2 วินาทีต่อวัน
Omega (โอเมก้า) เผยโฉมนาฬิกาโครโนกราฟแนวสปอร์ตระดับตำนานจากตระกูล Speedmaster รุ่น Speedmaster Super Racing (สปีดมาสเตอร์ ซูเปอร์ เรซิ่ง) เราอาจคุ้นเคยชื่อรุ่น Speedmaster Racing กันมาบ้าง ซึ่งการเพิ่มคำว่า ‘Super’ เข้ามาในครั้งนี้ ไม่ใช่ว่าเพิ่มแบบไร้ที่มาที่ไป แต่เป็นการสื่อถึงความเหนือชั้นยิ่งกว่า เพราะมาพร้อมกับกลไกที่ชื่อว่า ‘Spirate™ System’ เทคโนโลยีล่าสุดที่ Omega พัฒนาขึ้นเพื่อยกระดับความเที่ยงตรงให้สูงขึ้นถึงระดับ 0 ถึง +2 วินาที/วัน เลยทีเดียว
กลไกใหม่นี้มาพร้อมรหัสกลไก 9920 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงวัสดุที่ใช้ในการผลิตใยนาฬิกาใหม่ ด้วยการนำวัสดุที่เรียกว่า Spirate ซึ่งเป็นวัสดุผสมที่มีพื้นฐานของ Silicon นำมาจัดเรียงเส้นให้เป็นขดอย่างเป็นระเบียบ เพื่อสร้างรูปแบบการทำงานที่เสถียร และส่งมอบความเที่ยงตรงได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง Omega ก็ได้จดสิทธิบัตรวัสดุนี้ไว้เป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุง Balance Wheel หรือจักรกรอก เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านความแม่นยำ และความทนทานต่อสนามแม่เหล็ก ทำให้ผู้ใช้งานเกิดความมั่นใจในประสิทธิภาพอย่างสูงสุดอีกด้วย
การขับเคลื่อนนาฬิการุ่นล่าสุดนี้ เป็นกลไกแบบ ‘In-house’ ขึ้นลานอัตโนมัติ มีระบบปล่อยจักรแบบ ‘Co-Axial’ ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง ได้รับมาตรฐานความเที่ยงตรงระดับ ‘Master Chronometer’ และสามารถต้านทานแม่เหล็กได้ถึงระดับ 15,000 เกาส์ สำรองพลังงานได้ 60 ชั่วโมง ซึ่งทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาการใส่คำว่า ‘Super’ ลงไปในชื่อรุ่นอย่างที่ใครก็ไม่อาจปฏิเสธได้
ตัวเรือน Speedmaster Super Racing ทำจากสเตนเลสสตีล ขนาด 44.25 มิลลิเมตร มีความหนา 14.9 มิลลิเมตร สามารถกันน้ำได้ 50 เมตร ขอบตัวเรือนเป็นเซรามิกสีดำผิวเงา กระจกหน้าปัดคริสตัลแซฟไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อน กรุฝาหลังด้วยวัสดุชนิดเดียวกับหน้าปัด Omega นำแนวทางการออกแบบรถแข่งที่เน้นเรื่องการลดน้ำหนักของชิ้นส่วนต่าง ๆ มาถ่ายทอดด้วยการใช้หน้าปัดหลักเป็นแบบตะแกรงรังผึ้งสีดำ เจาะด้วยเลเซอร์ ประกบเข้ากับหน้าปัดแผ่นล่างที่เคลือบด้วยเทคนิค DLC สีดำ
โทนสีหลักบนหน้าปัดของนาฬิการุ่นนี้ คือ สีขาวกับสีเหลือง ซึ่งทาง Omega เคยใช้มาก่อนแล้วในปี 2013 กับรุ่น Seamaster Aqua Terra > 15,000 GAUSS (ซีมาสเตอร์ อควา เทอร์รา > 15,000 เกาส์) ดังนั้นการใช้โทนสีคู่นี้ ก็เพื่อระลึกถึงวาระครบ 10 ปี ของ Aqua Terra รุ่นนั้น โดยเพิ่มรายละเอียดเล็ก ๆ ด้วยการพิมพ์เลขวันที่ 10 ด้วยฟอนต์ตัวเอียง เพื่อย้ำว่าครบรอบ 10 ปีแล้วจริง ๆ นะ
Speedmaster Super Racing มาพร้อมสายสเตนเลสสตีลแบบ 3 แถว ผิวปัดลายสลับขัดเงา พร้อมตัวล็อกชนิดบานพับที่สามารถปรับระยะความยาวได้ ความพิเศษที่ทำให้น่าครอบครองอย่างสุดท้าย คือ สาย ‘NATO’ สีดำคาดลายสีเหลืองที่ทำจากวัสดุในกระบวนการรีไซเคิล แถมมาให้เปลี่ยนเผื่อลุคที่อยากจะดุดัน มีสไตล์ ไม่เกรงใจใคร โดยราคาจำหน่ายของนาฬิการุ่นนี้อยู่ที่ 410,000 บาท พร้อมการรับประกันนาน 5 ปี
