ในยุค 5.0 ที่การเปลี่ยนผ่านหลอมรวมโลกแห่งความเป็นจริงเข้ากับโลกเสมือน และดูเหมือนว่าเทคโนโลยีจะถูกผนึกเข้ากับกับชีวิต ไลฟ์สไตล์ และความสัมพันธ์ของมนุษย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่แปลกเลยที่ทุกครั้งเมื่อก้าวสู่ไตรมาสแรกของทุกปี บรรดากูรูจากหลากหลายวงการโดยเฉพาะในบริษัท Big Tech หรือ วงการ Marketing จะออกมาสรุปเทรนด์ “Tech for Life” ในด้านต่าง ๆ
ตั้งแต่เรื่อง AI ที่เข้ามามีบทบาทราวกับสมองที่สองของมนุษย์ เช่นเดียวกับระบบ Cloud Storage ที่เสมือนลิ้นชักจากสวรรค์ ทำให้มนุษย์จัดการกับข้อมูลทั้งหมดทั้งมวลภายใต้สังคมแห่งยุค Data ณ วันนี้ลองหันดูสิว่าข้าง ๆ ตัว ทีวีสีธรรมดากลับกลายเป็น ทีวีเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เครื่องซักผ้าที่สั่งการผ่านมือถือ ระบบไฟที่ปรับเปลี่ยนสีได้ตามสภาพแวดล้อม ฯลฯ IoT หรือ Internet of Things เข้ามามีอิทธิพลกับทุกด้านของมนุษย์
ในเรื่องของ “ความสัมพันธ์” หลายคนต่างตีความไปหลากหลายมุม แนวคิดเลยถ่างออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ มีทั้งกลัวว่ายุค 5.0 จะทำให้ความสัมพันธ์ของมนุษย์ ดูแข็งใส่กันราวกับหุ่นยนต์ และบ้างก็เชื่อมั่นว่าการ “เข้าใจ และรู้จักใช้” จะนำพาคุณภาพชีวิตที่ดี และการแสวงหาความสุขในความสัมพันธ์เป็นไปได้ง่ายขึ้น
ในเมื่อ “ของมันจำเป็นต้องมี” ทำไมต้องฝืน? ลิปส์เลยคลอดคอลัมน์นี้ราวกับว่าเป็นไบเบิลที่แจกแจงสมการเพื่อการพัฒนาความสัมพันธ์แห่งโลก 5.0 ภายใต้การเชื่อมโยงระหว่าง มนุษย์ เทรนด์การใช้ชีวิต เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ ที่เราขอละไว้ในตัวแปร “X” อันหลอมรวมเข้ากับการแสวงหาความสุขในความรัก ไว้ใช้เพื่ออัปเดตก็ดี หรือใช้เป็นไกด์ไลน์ชีวิตก็ย่อมได้
ว่าแล้วเรามาถอดสมการ หาตัวแปร “X” กันเถอะ !
X is for “Aging Society Tech”
Humans + Love + Aging Society Tech ผู้สูงอายุในบ้านจะมีคุณภาพชีวิตที่ดี และความสุขที่มากขึ้น” ปีที่ผ่านมาเราเข้าสู่ “สังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์” ตามหลักเกณฑ์ที่ว่า มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งมากกว่า 20% ของประชากรทั่วประเทศ ดังนั้นจึงได้เห็น Aging Society Tech หรือเทคโนโลยีเพื่อการต่อยอดคุณภาพชีวิตให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์ และแอปพลิเคชันที่ใช้มอนิเตอร์ และตรวจจับความเคลื่อนไหว หรือเตือนให้ทานยา ให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อป้องกันการหลงลืม รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการเคลื่อนไหวสุดล้ำ และ Ai ที่ช่วยลดความยุ่งยาก ทำให้ผู้สูงอายุใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้านเพียงแค่สั่งด้วยเสียง
X is for “Beauty Tech”
Humans + Love + Beauty Tech “ความสวย จะนำพาเรื่องโชคในความรัก และความสัมพันธ์” คำกล่าวนี้ก็ยังเป็นจริงเสมอ ในยุค 5.0 แบรนด์อุตสาหกรรมความงามหลากหลายเจ้า ตบเท้าแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดด้าน “Smart Cosmetics” แบรนด์ L’Oreal นำเสนอแอปพลิเคชันออกแบบทรงผม และสีผมโดยอาศัยเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) พร้อมคลอด L’Oréal Brow Magic อุปกรณ์ตกแต่งคิ้วด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบพกพาที่เนรมิตทรงคิ้วตามที่ต้องการอย่างแม่นยำ
นอกจากนี้แบรนด์ La Roche-Posay ใช้ AI มาช่วยวิเคราะห์ผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิว และ Lancome เปิดตัวแอปฯ ช่วยเลือกรองพื้นที่เหมาะสมกับลูกค้า ตลอดจนเข็นเทคโนโลยี HAPTA อุปกรณ์สำหรับลงเมคอัพด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่มีความแม่นยำสูง ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวมือและแขน ฯลฯ ซึ่งในอนาคตเราอาจจะได้เห็นการเติบโตของ Beauty Tech อีกมากมาย เพื่อสร้างสรรค์โซลูชันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ให้กับผู้บริโภค
X is for “EdTech”
Humans + Love + Edtech ตัวย่อ EdTech เป็นชื่อเล่นของ Educational Technology หรือเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ซึ่งในยุค 5.0 จะนำพาซึ่งทักษะ ความสุข และก่อให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลมากขึ้น ซึ่งจริง ๆ แล้วเทคโนโลยีเพื่อการศึกษามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่เห็นความสำคัญอย่างชัดเจนก็ช่วงโควิดที่ผ่านมา หลายสถานการศึกษาปรับไปใช้ Hybrid Learning กันมากขึ้น (และยังมีการต่อยอดใช้งานในปัจจุบัน) ทำให้ผู้ปกครองหลาย ๆ คนต้องมีส่วนร่วม และใช้เวลากับการศึกษาของบุตรหลานโดยตรง รวมถึงการใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบ Microlearning ซึ่งเป็นองค์ความรู้แบบสั้น กระชับ และตรงจุดมากกว่า เราสามารถเลือกเรียนในหัวข้อที่สนใจได้ อาจจะเป็นคอร์สออนไลน์สั้น ๆ สำหรับทุกคนในครอบครัว เช่นคอร์สสอนทำอาหารสำหรับคุณแม่ คอร์สภาษาสำหรับนักเรียนนักศึกษา คอร์สวาดภาพสำหรับเจ้าตัวน้อย ฯลฯ ซึ่งเป็นการพัฒนาทักษะแบบตรงใจผู้เรียน รวมถึงการใช้ Gamification ซึ่งเป็นการเรียนรู้โดยใช้เกมเป็นสื่อการเรียนการสอน เน้นความสนุกสนานควบคู่กับการพัฒนาทักษะ ต่อยอดไปถึงการพัฒนาปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับเพื่อน ผู้ปกครอง และผู้สอนมากขึ้นได้
X is for “FinTech”
Humans + Love + “FinTech” เงินเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาความสัมพันธ์อย่างปฏิเสธไม่ได้ ตั้งแต่การใช้จ่าย ไปจนถึงการวางแผนการเงินในชีวิตคู่ หรือการวางแผนเก็บเงินเพื่อการศึกษาของบุตรหลาน ตลอดจนสารพัดเรื่องราวทางการเงินที่ทุกความสัมพันธ์ต้องจัดการให้เหมาะสม ดังนั้นความสัมพันธ์ในยุค 5G จึงเป็นเรื่องของ Financial + Technology ที่จะมาเพิ่มความสะดวกในเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ให้จบได้ด้วยปลายนิ้ว
ปีนี้เราจะมีโอกาสได้เห็นการแข่งขัน และการพัฒนาแอปพลิเคชันของธนาคารเจ้าต่าง ๆ การแข่งขันในเรื่อง Digital Payment ที่ดุเดือดขึ้น การให้คำปรึกษาด้านผลิตภัณฑ์ทางการเงินผ่านช่องทางออนไลน์ที่รวดเร็วเพราะผู้บริโภคมีทางเลือกในการหันหาคู่แข่งได้ตลอดเวลา การซื้อประกันให้ตัวคุณ และคนที่คุณรักโดยอาศัย InsurTech เพียงแค่หน้าจอสมาร์ตโฟนก็จบได้ รวมถึงจะเห็นเทคโนโลยีที่ช่วยในการลงทุน ระดมเงินทุน และระบบให้คำแนะนำเรื่องการลงทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมจับตามองระบบ Blockchain และ Cryptocurrency ที่อาจจะกลับมาผงาดอีกครั้งเมื่อยุค Web 3.0 ครองเมือง
X Is For “HealthTech”
Humans + Love + “HealthTech” สุขภาพทั้งตัวคุณ และคนที่คุณรักเป็นสิ่งสำคัญ สุขภาพที่ดี ต่อยอดให้ความสัมพันธ์เป็นบวก ในยุค 5.0 เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพก้าวหน้าไปหลายสเต็ป เราจะมีโอกาสได้เห็นตั้งแต่ระบบ Cloud Storage ที่มีความปลอดภัยสูง ซึ่งนำมาจัดการ Data อันมหาศาลของผู้ป่วย พร้อมพัฒนาระบบ Biosensor ที่ช่วยวัดความผิดปกติของร่างกาย ระดับกลูโคส อัตราการเต้นของหัวใจ ฯลฯ รวมถึงการประยุกต์ใช้หุ่นยนต์ที่นำมาใช้ในวงการการแพทย์ และการประยุกต์ใช้ Reality Technology ไม่ว่าจะ AR-VR-MR-XR เข้ามาจำลองอวัยวะภายในแบบ 3D ไม่ว่าจะเป็นกระดูก หลอดเลือด หรือเซลล์มะเร็งต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการผ่าตัด ทำให้สามารถจำลองผลการผ่าตัดเสมือนจริง ให้แพทย์ประเมินสถานการณ์ก่อนตัดสินใจ
X is for “Mental Health Tech”
Humans + Love + Mental Health Tech เรื่องของจิตใจคือสาเหตุสำคัญเบอร์ต้น ๆ ของการมีความสุขในทุกความสัมพันธ์ ไม่แปลกที่เราเห็นเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาสุขภาพจิตภายในครอบครัวเติบโตอย่างก้าวกระโดด ปีนี้เหล่าสตาร์ตอัปต่างพัฒนา แอปพลิเคชันที่ช่วยสร้างความสุข และรับมือกับปัญหาสุขภาพจิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แอปฯ Kintsugi ที่สามารถใช้อัลกอริทึมวิเคราะห์เสียงของบุคคลต่าง ๆ เพื่อตรวจสภาวะซึมเศร้า รวมถึง แอปฯ Parallel Learning ที่จัดหานักจิตวิทยาสำหรับเด็ก พร้อมส่งเสริมการเรียนการสอนออนไลน์สำหรับเด็กที่มีภาวะสมาธิสั้น และภาวะอ่านออกเขียนยาก รวมถึงแอปฯ Nilo.health แอปฯ สำหรับคนวัยทำงาน ที่สามารถนัดหมายนักจิตวิทยารับฟังปัญหาสุขภาพจิต และความกดดันที่เกิดจากที่ทำงานอีกด้วย
X is for “PropTech”
Humans + Love + “PropTech” ความสุขเริ่มต้นที่บ้าน ดังนั้นในยุค 5.0 บรรดา PropTech หรือ เทคโนโลยีสำหรับบ้าน และอสังริมทรัพย์ต่างผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด ซึ่งจากการก้าวเข้าสู่ความเป็น IoT หรือ Internet of Things ที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในบ้านเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อตอบโจทย์การเป็น Smart Home อย่างแท้จริง ส่งผลให้ชีวิตในบ้านง่าย และสะดวกขึ้น รวมถึงทำให้ทุกคนในครอบครัวมีความสุขที่ได้ใช้เวลาร่วมกันภายในบ้านหลังนี้ เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างสามารถสั่งการด้วยมือถือ ระบบไฟอินฟราเรดที่สามารถฆ่าเชื้อโรค พื้นที่ออกกำลังกายที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เกม และทีวี เครื่องซักผ้าหรือเตาอบ ที่บรรดาคุณแม่สั่งการควบคุมอุณหภูมิได้ด้วยปลายนิ้ว ระบบมอนิเตอร์ลูกน้อย ที่ผู้ปกครองสามารถตรวจดูภาพจากกล้องได้ทุกเวลาผ่าน Mini Monitor ในรูปแบบนาฬิกาข้อมือ อุปกรณ์เซนเซอร์ช่วยปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติที่เหมาะสมกับทุกคน ไปจนถึงหุ่นยนต์ช่วยทำความสะอาด และทำสวน เป็นต้น
สมการ Relationship 5.0
Relationship 5.0 เป็นแนวทางพัฒนาความสุขในความสัมพันธ์ของทุกคนในยุคปัจจุบัน แม้ว่า “ความรัก และความปรารถนาดี” จะเป็นเรื่องยืนพื้น แต่ปัจจัยพื้นฐานอื่น ๆ (ที่เราระบุเป็นตัวแปร X) อย่าง บุคลิกภาพ เงิน สุขภาพกาย สุขภาพจิต การศึกษา บ้านพร้อมความเป็นอยู่ การจัดการในเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ให้เป็นในทิศทางเชิงบวกเพื่อตอบโจทย์คุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคน ย่อมส่งผลโดยตรงกับการพัฒนาความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะในบริบทของครอบครัว หรือว่าคนรัก
โดยเฉพาะในยุค 5.0 ที่ถูกครอบด้วย “Tech” และโลกขับเคลื่อนด้วย “Data” อันเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนโลก จึงไม่แปลกที่มนุษย์จะต้องหาวิธีดึงจุดแข็งของนวัตกรรม เพื่อเก็บเกี่ยวความสุขให้หลอมรวมเข้ากับความสัมพันธ์ให้ได้มากที่สุด ตามสมการ Relationship 5.0 = Humans + Love + “X”-Tech
