ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ วี BTS จะเป็นสมาชิกประจำของรายการวาไรตี้ แต่ที่สุดแล้ววีโดนตกไปปรากฏตัวใน Jinny’s Kitchen วาไรตี้โชว์ที่พาแก๊งนักแสดงตัวท็อปของเกาหลี ทั้ง อีซอจิน, พัคซอจุน, จองยูมี, ชเวอูชิก และ วี BTS นั่งเครื่องบินจากเกาหลีใต้ 16 ชั่วโมง ต่อรถตู้อีก 5 ชั่วโมง ไปเปิดร้านสตรีทฟู้ดเกาหลีในเมืองบาคาลาร์ ประเทศเม็กซิโก
นายองซอก โปรดิวเซอร์ค่าตัวสูงสุดในเกาหลีใต้ ได้ชื่อว่าชอบทำงานกับกลุ่มคนเดิมๆ ดังนั้น หลังจากรายการ Youn’s Stay ที่ให้ยุนยอจอง นักแสดงรุ่นเก๋าซึ่งเป็นชาวเกาหลีใต้คนแรกที่ได้ออสการ์จากหนัง Minari ในปี 2021 มาเป็นเจ้าของโฮมสเตย์ ‘ฮันอก’ บ้านโบราณของเกาหลี เปิดให้ชาวต่างชาติเข้าพักในช่วงโควิด พร้อมด้วยเหล่าลูกมือ ได้แก่ อีซอจิน, พัคซอจุน, จองยูมีและชเวอูชิก จนมัดใจคนดูทั่วโลกได้แล้ว โปรดิวเซอร์นาก็มีแผนจะพาคุณยายยุนและแก๊งเดิมไปเปิดร้านอาหาร เผยแพร่เค-ฟู้ดที่เม็กซิโก
แต่ว่าคุณยายยุนติดถ่ายซีรีส์ Pachinko ซีซั่น 2 อีซอจินจึงได้เลื่อนตำแหน่งมาเป็นเจ้าของร้าน ขณะที่ลูกมือแก๊งเดิมคือ จองยูมีและพัคซอจุนซึ่งรับหน้าที่เชฟ ร่วมด้วยชเวอูชิก (พ่อน้องชายเจ้าของหินในหนัง Parasite) ก็สวมบทเด็กฝึกงาน (หรือเบ๊) ในรายการเดิมแต่ชื่อใหม่ว่า Jinny’s Kitchen ที่ตั้งตามชื่ออีซอจินนั่นเอง
ทำไม วี BTS ยอมมาจอยในรายการ Jinny’s Kitchen
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2021 โปรดิวเซอร์นายองซอกพา Game Caterers รายการดังที่ให้ดาราดังๆมาเล่นเกมขำๆ ไป collab กับ Run BTS รายการวาไรตี้ที่รันมาอย่างยาวนานของวง BTS ซึ่งในช่วงท้าย สมาชิกแต่ละคนได้เวาเชอร์แตกต่างกันไป ในส่วนของวีนั้น ได้เวาเชอร์ ‘ไปป่วนในรายการของโปรดิวเซอร์นา’
แหล่งข่าวไปกระซิบบอกนายองซอกว่า วีเก็บรักษาเวาเชอร์นี้ไว้อย่างดีในตู้ทีเดียวหนา วีสนิทเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันกับซอจุนและอูชิกอยู่แล้ว การมาจอยกับเพื่อนสนิทในฐานะเด็กฝึกงาน (เบ๊เบอร์สอง) ในวาไรตี้โชว์ร้านอาหารซึ่งไปถ่ายทำกันในเมืองที่มีทะเลสาบ 7 สีอย่างบาคาลาร์ ประเทศเม็กซิโกจึงเท่ากับเป็นทริปพักผ่อนดีๆนี่เอง
ว่าแต่มันเป็นอย่างนั้นจริงเรอะ
Jinny’s Kitchen รวมพลังซอฟต์เพาเวอร์เกาหลี
Jinny’s Kitchen ก็เหมือนหนัง Avengers เวอร์ชั่นวาไรตี้โชว์ เพราะรวมพลังซอฟต์เพาเวอร์ของเกาหลีใต้มาไว้ในที่เดียว ทั้ง…
K-Variety
รูปแบบรายการที่เป็นวาไรตี้โชว์ ซึ่งติ่งเกาหลีทั่วโลกโดนตกกันมานักต่อนัก โดยเฉพาะรายการของโปรดิวเซอร์ที่ถ้าไม่เล่นเกมเอาฮาก็มักจะจับคนดังมานั่งทำกับข้าว 3 มื้อแล้วก็ตั้งกล่องถ่ายไปเรื่อยๆ…แต่คนชอบดูกันมากเพราะมัน ‘ฮีลใจดี’ โปรดิวเซอร์นาพูดถึงเคล็ดลับการคิดรูปแบบรายการให้ฮิตติดลมบนกับ คิม คยอง-ฮยอน อาจารย์ด้านเอเชียตะวันออกศึกษาและผู้อำนวยการผู้ก่อตั้งศูนย์ศึกษาเกาหลีเชิงวิพากษ์ที่ University of California Irvine (UCI) ในคลาสที่ให้นักศึกษาซูมพูดคุยกับโปรดิวเซอร์นาเมื่อปี 2021 ว่า
“ทุกวันนี้คนเก่าๆแก่ๆก็ยังย้อนกลับไปดูรายการเก่าๆที่ผมทำ ส่วนคนรุ่นใหม่ก็เพิ่งค้นพบรายการเก่าๆที่ผมเคยทำมา ขณะที่คนทุกยุคก็ดูรายการใหม่ๆของผมได้ เพราะผมเลือกเนื้อหาของรายการที่อยู่เหนือกาลเวลา ดูได้ทุกยุคสมัย นั่นก็คือเรื่อง ‘การเดินทางและอาหาร’ ผมคิดว่าความชอบของคนในการเดินทางหรืออาหารก้าวข้ามกาลเวลาได้ ฉะนั้นแทนที่จะหยิบจับประเด็นตามกระแส ผมพยายามโฟกัสไปที่คุณค่าและความสนใจพื้นฐานของมนุษย์และสิ่งที่ไม่ถูกกำจัดด้วยกาลเวลามากกว่า”
K-Drama
นักแสดง 4 คนในรายการนี้ล้วนเป็นเบอร์ต้นๆของอุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีใต้ทั้งสิ้น ซึ่งโปรดิวเซอร์มักจะผสมผสานคนช่วงวัยต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนดูได้ทุกช่วงอายุ และมีหลักในการเลือก ‘เดอะแก๊ง’ ว่า “อันดับแรกก็ต้องดูคาแรกเตอร์ก่อนว่าเข้ากับรายการหรือเปล่า และพูดตรงๆก็ต้องเป็นคนมีชื่อเสียง แต่สำคัญสุดคือบุคลิกภาพ มีตัวตนที่น่าติดตาม เพราะมันเป็นสิ่งที่ตัดต่อไม่ได้ ถ้าคนๆนั้นนิสัยแย่ ยังไงก็จะออกมาให้คนดูทางบ้านเห็นอยู่ดี ต่อให้พยายามตัดต่อหนักแค่ไหนก็ตาม”
K-Pop
ชื่อ BTS อธิบายตัวเองได้เป็นอย่างดี เพราะก่อนจะออนแอร์เอพิโซดแรก กระแสรายการ Jinny’s Kitchen แรงมาก แฟนๆของ วี BTS ทั่วโลกเรียกร้องอยากดูจนทีมงานต้องนำรายการไปฉายบนแพล็ตฟอร์มสตรีมมิ่งอินเตอร์อย่าง Prime Video โปรดิวเซอร์นาพูดถึงการทำเนื้อหาให้โดนใจคนดูต่างชาติว่า “ความตั้งใจแรกเริ่มของผมคือทำรายการให้ชาวเกาหลีดู นั่นต่างหากที่ทำให้ผมมีคนดูต่างชาติ เวลาผมได้เจอผู้ชมชาวต่างชาติ ผมชอบถามว่าอยากให้ผมปรับรายการให้ดูสนุกมากขึ้นยังไงได้บ้างไหม ทุกคนก็จะตอบว่า ไม่ต้องปรับ ทำเหมือนเดิมไปนั่นแหละ ชอบแบบที่คุณทำอยู่”
K-Food
แม้ตั้งใจทำรายการให้ชาวเกาหลีดูเป็นหลัก แต่โปรดิวเซอร์กล่าวว่า “ไม่ใช่ว่าผมไม่ได้นึกถึงผู้ชมในต่างประเทศเลย ผมเลยพยายามนำเสนอแง่มุมที่หลากหลายของวัฒนธรรมเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ต่างๆที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวได้ อาหารจากภูมิภาคต่างๆ” รายการ Jinny’s Kitchen จึงขายอาหารสตรีทฟู้ดตัวดังของเกาหลี เช่น คิมบับ (ข้าวม้วนห่อสาหร่าย) ต๊อกบอกกี (แป้งต๊อกราดน้ำซอส) หรือรามยอน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเส้นใหญ่เหนียวหนุบอันเป็นเอกลักษณ์ของเกาหลีนั่นเอง
Jinny’s Kitchen นี่มันรายการแนว Healing หรือ Survival Show กันแน่
ในงานแถลงข่าว นายองซอกกล่าวว่า “Youn’s Kitchen เปรียบเหมือนรายการเพื่อการบำบัด มันสงบและผ่อนคลาย แต่ Jinny’s Kitchen เป็นเหมือนรายการเอาชีวิตรอด เหมือนคุณกำลังดูเรื่องดราม่าในออฟฟิศ”
ออนแอร์ไปแล้ว 2 ตอน คนดูจะได้เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจของวีที่เพิ่งประเดิมรายการวาไรตี้ เช่น เอาหน้ากากกันน้ำลายของคนครัวมาคาดที่ตาแล้วบอกว่า “ผมมองไม่เห็นเลยอ่ะ” ฮาไปหนึ่งดอก และวีได้รับเกียรติให้เป็นคนเปิดป้าย ‘OPEN’ เปิดทำการร้าน Jinny’s Kitchen เป็นวันแรกด้วย ปรากฏว่า…ก็นั่งตบยุงกันไปสิเธอ แต่ แทแท (ชื่อที่แฟนคลับ BTS เรียกวี มาจากชื่อจริงว่า คิมแทฮยอง) ก็ยังมองโลกในมุมต่างได้เสมอ เพราะในขณะที่ทุกคนนั่งกลุ้มที่ไม่มีลูกค้า วีกลับถามว่า “ผมได้เงินเดือนเท่าไร” ทำเอาทุกคนฮา
ส่วนเอพิโซด 2 ซึ่งเปิดตัวชเวอูชิกที่นั่งเครื่องบินตามมา ใจหวังว่าทุกคนจะดีใจที่ได้เจอเขา แต่การณ์กลับเป็นว่า อูชิกไปถึงตอนมีลูกค้าแน่นร้านพอดี และพอวีเห็นหน้าเพื่อนซี้ก็บอกว่า “หวัดดี” แล้วบอกให้ไปเปลี่ยนชุดมาช่วยงานไวๆ แต่งตั้งตนเป็นเด็กฝึกงานเบอร์หนึ่งไปแบบอูชิกงงๆ
Jinny’s Kitchen ก็เป็นเช่นเดียวกับรายการอื่นๆ ยี่ห้อโปรดิวเซอร์นาที่ไม่มีสคริปต์ ทุกอย่างเกิดขึ้นสด เรียล จริง “ผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับ Grandpas Over Flowers (หนึ่งในวาไรตี้โชว์ชื่อดังของโปรดิวเซอร์นาที่ให้นักแสดงดังวัยชราไปเดินทางท่องเที่ยวพร้อมกับนักแสดงหรือนักร้องรุ่นลูกหลาน) เวอร์ชั่นรีเมกของอเมริกัน ทางสถานีที่อเมริกาส่งอีเมลคำถามมาถึงผม หนึ่งในนั้นคือทำไมการทำงานระบบเกาหลีจึงไม่มีบท ทำไมเราปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้นสดๆเรียลๆหน้างาน ซึ่งเป็นคนละรูปแบบกับการทำรายการทีวีในอเมริกา ซึ่งทุกอย่างจะมีการวางแผนแบบเป๊ะๆ 100% เหตุผลสำคัญก็คือเรื่องเงินนั่นเอง
“ยกตัวอย่างว่าทำไมเราถึงไม่เขียนสคริปต์ ในรายการ Youth Over Flowers ที่เราพาผู้ใหญ่วัยกลางคนกับคนวัยหนุ่มไปท่องเที่ยวกัน ยูฮียอลซึ่งเป็นนักดนตรีรุ่นใหญ่ดูเหมือนจะตื่นตะลึงมากเมื่อได้ไปเห็นมาชูปิกชูที่เปรู พอผมถามว่าเขารู้สึกยังไง ก็นึกว่าจะได้คำตอบประมาณว่า ‘โอ้ วิวที่นี่อลังการมาก มันสวยงาม’ แต่เขากลับตอบว่า ‘Time flies. (เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน)’ คุณไม่มีวันได้อะไรแบบนี้เลยหากว่าเขียนสคริปต์ไว้ก่อน และคำพูดแบบนี้ก็ไม่มีทางเขียนสคริปต์ขึ้นมาได้แน่นอน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขียนบทหรือไม่เขียน แบบไหนถูกหรือผิด การเขียนสคริปต์ไว้ก่อนเป็นการลดปัญหาค่าใช้จ่ายบานปลาย ช่วยควบคุมงบประมาณได้แม่นยำ และอาจจะลดความเสี่ยงต่างๆได้เพราะเตรียมการมาล่วงหน้าแล้ว”
อาจารย์คิมให้นักศึกษาอเมริกันดูรายการ Grandpas Over Flowers ทั้งเวอร์ชั่นเกาหลีและอเมริกัน ปรากฏว่านักศึกษาชอบเวอร์ชั่นเกาหลีมากกว่า เพราะสัมผัสได้ถึงความเรียล ขณะที่บอกว่าเวอร์ชั่นอเมริกันดูเป็นการแสดง ดูเสแสร้งพูดและทำไปตามสคริปต์ ก็แสดงว่าความเรียลมันทะลุจอและทะลวงผ่านวัฒนธรรมได้
สุดท้ายโปรดิวเซอร์นาพูดถึงรายการที่อยากทำจริงๆ ถ้าไม่ติดเงื่อนไขอะไรเลยก็คือ “อยากทำรายการทำอาหาร ให้คุณยายสักคนทำอาหาร ทำพายบลูเบอร์รี่ เหมือน Julia Child อะไรแบบนั้น เปลี่ยนเมนูไปเรื่อยๆ แล้วผมก็จะทำรายการนี้ไปจนแก่เลยครับ”
Jinny’s Kitchen – ตัวอย่างอย่างเป็นทางการ [ซับไทย] | Prime Video
Words: Suphakdipa Poolsap
ข้อมูลจาก: