ปี 1997 ถือเป็นประตูเปิดทางไปสู่สหัสวรรษใหม่ที่ใกล้เข้ามาถึง ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านที่ทั้งโลกหวั่นไหวว่าจะถึงคราวกลียุคเมื่อนาฬิกาเดินไปแตะเที่ยงคืนของวันที่ 1 มกราคม ปี 2000 หรือไม่นั้น ดาวจรัสจ้าดวงแล้วดวงแล้วกลับฉายแสงเหนือน่านฟ้าแฟชั่น และกลุ่มแฟชั่นดีไซเนอร์ที่แจ้งเกิดในปีนั้นยังคงเป็นดาวเหนือนำทางวงการแฟชั่นสืบมาจนบัดนี้
Hedi Slimane วางรากฐานกางเกงสลิมฟิต แจ็กเก็ตหนังและลุคร็อกแอนด์โรลที่เขาทำซ้ำจนกลายเป็นลายเซ็นประจำตัว เมื่อ Pierre Bergé (อดีต)หุ้นส่วนและคนรักของ Yves Saint Laurent จีบให้เขามานั่งตำแหน่งครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ฝ่ายเครื่องแต่งกายชาย หรือแผนก Rive Gauche Homme ของ Yves Saint Laurent ซึ่งสลิมานเดบิวต์ผลงานแรกที่เมซงในฟอลล์-วินเทอร์ 1997
ปี 1997 Comme des Garçons แบรนด์อาวองต์การ์ดจากญี่ปุ่นส่งนางแบบในชุดสอดแผ่นฟองน้ำไว้ตามหน้าท้อง สะโพกและไหล่อย่างโย้เย้บิดเบี้ยวจนดูราวกับเป็นเนื้องอกตามตัวมากกว่าจะเป็นเทคนิคเสริมทรวดทรง เนื้อผ้าเป็นลายตารางสีพาสเทลเหมือนผ้าปูโต๊ะหรือผ้ากันเปื้อนที่สื่อถึงความเป็นแม่บ้าน และให้ชื่อคอลเล็กชั่นว่า Body Meets Dress, Dress Meets Body เพื่อท้าทายหุ่นนาฬิกาทรายที่ถูกสถาปนาให้เป็นทรวดทรงตามอุดมคติของผู้หญิง และสถานภาพของผู้หญิงที่สังคมยัดเยียดให้เป็นภาชนะฟูมฟักทารกและที่ทางในสังคมของสตรีก็คือในบ้านและในครัว กลายเป็นคอลเล็กชันที่สื่อยุคนั้นยกย่องว่าล้ำจัด และชุดเนื้องอกจากคอลเล็กชันที่สื่อตั้งชื่อเล่นให้ว่า ‘Lump and Bump’ ก็ได้เข้าไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์
1997 ยังเป็นปีที่ดีไซเนอร์โอตกูตูร์ได้แสงไปเต็มๆ ทั้ง Jean Paul Gaultier และ Thierry Mugler ส่วนเมซงฝรั่งเศสก็ต้อนรับผู้สืบทอดคนใหม่ชาวอังกฤษ Alexander McQueen ดีไซเนอร์ขบถวัย 27 ปี ซึ่งเปิดตัวคอลเล็กชันแรก ‘Search for the Golden Fleece’ ในฐานะครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของ Givenchy ที่ École des Beaux-Arts ในปารีสเมื่อวันที่ 19 มกราคม ปี 1997 ด้วยความที่เป็นคอลเล็กชันโอตกูตูร์สปริง-ซัมเมอร์ 1997 แม็กควีนจึงได้ปล่อยของเต็มที่สมดังปรารถนา ดังที่เขากล่าวถึงเหตุผลที่คว้าโอกาสใหญ่นี้ไว้ว่า “กูตูร์คือที่สุดของที่สุด มันคือพื้นที่ที่ความฝันทั้งมวลที่คุณวาดหวังไว้ในแฟชั่นกลายเป็นความจริง”
ในเดือนมกราคมปี 1997 John Galliano ย้ายจาก Givenchy ไปบ้านใหม่ที่ Christian Dior โดยไปแทนที่ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ Gianfranco Ferré กัลลิอาโนประเดิมผลงานแรกที่เมซงแห่งนี้ในโอตกูตูร์ ฟอลล์-วินเทอร์ 1997 ที่เป็นประตูเปิดสู่ยุคแฟชั่นและรันเวย์โชว์ดั่งละครเวทีสุดอลังการและฟุ้งฝัน กัลลิอาโนพาบรรดาช่างตัดเย็บมานั่งชมผลงานจากสองมือของตนที่ได้เฉิดฉายบนร่างนางแบบในชุดที่ผสมผสานทั้งเดรสซาตินกรุยกราย ลูกปัดอินเดียปักลายชนเผ่าบนเดรสผ้าสีนู้ดจนแลดูคล้ายลายสัก ซึ่งได้กลายเป็นลายเซ็นของเขาไปจนตลอดยุคสมัยของเขาที่ Dior รวมไปถึงสูทลายฮาวนด์ทูธและเดรสบอลกาวน์ใส่สุ่มพอง
1997 เป็นปีเผยโฉมดีไซเนอร์น้องใหม่ โดยหารู้ไม่ว่าพวกเขาจะกลายเป็นเสาหลักของวงการแฟชั่นยาวนานไปอีกสองทศวรรษ อาทิ Olivier Theyskens, Stella McCartney และ Nicolas Ghesquière ซึ่งรายหลังกลายเป็นตัวเลือกม้ามืดแทนที่จะเป็นตัวพ่ออย่าง Helmut Lang ที่ได้ทำหน้าที่พลิกฟื้นเมซงแฟชั่นเก่าแก่ของ Cristóbal Balenciaga ผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็นนายแห่งผ้า ค่าที่เขาตัดเย็บผ้าเป็นเค้าโครงแปลกให้ได้ดังใจนึกชนิดที่ไม่มีดีไซเนอร์รายใดในยุคนั้น (และยุคนี้) ทำได้ ตำแหน่งนี้จึงน่าขนหัวลุกสำหรับดีไซเนอร์หน้าใหม่วัย 26 ที่มีเวลาไม่ถึง 4 เดือนทำคอลเล็กชันแรก ฟอลล์-วินเทอร์ 1998 ให้กับ Balenciaga เมซงที่เขาปั้นให้กลับมาอยู่แถวหน้าในวงการแฟชั่นในอีก 15 ปีต่อมา
1997 เป็นปีแห่งการแจ้งเกิดของดาวรุ่ง ขณะเดียวกันก็เป็นปีอันโศกศัลย์จากโศกนาฏกรรมของ Gianni Versace ที่ถูกยิงตายแถว Casa Casuarina บ้านพักในไมอามีเพียง 9 วันหลังจากเพิ่งโชว์ผลงานคอลเล็กชันโอตกูตูร์ ฟอลล์-วินเทอร์ 1997 ที่ Hôtel Ritz ใน Paris ที่จานนีจับเอาธีมเทพปรกณัมกรีก (เช่นเดียวกับแม็คควีนที่ Givenchy) มาทำในสไตล์ Versace – กูตูร์พังก์กับฟองน้ำเสริมไหล่ที่ทำให้ผู้หญิงแปลงร่างเป็นนักรบ
1997, FASHION BIG BANG จึงเป็นชื่ออันเหมาะเจาะของนิทรรศการที่กว้านรวมแฟชั่นไอเท็มสำคัญๆในปีนั้นกว่า 50 ชิ้นมาจัดแสดงที่ PALAIS GALLIERA ในปารีสตั้งแต่ 3 มีนาคมจนถึง 16 กรกฎาคม 2023
ข้อมูลจาก:
- www.palaisgalliera.paris.fr
- www.theguardian.com
- www.anothermag.com/fashion-beauty/9854/remembering-nicolas-ghesquires-revival-of-balenciaga
- www.anothermag.com/fashion-beauty/10850/the-show-that-would-become-gianni-versaces-creative-epitaph
- www.nytimes.com
- www.vanityfair.com
- www.sleek-mag.com
- www.dazeddigital.com