มีทั้งหวาน มีทั้งเปรี้ยว หลากหลายสีสัน หลากหลายสายพันธุ์ คือคุณสมบัติของผลไม้อย่างมะม่วง ซึ่งกลายเป็นที่มาของชื่อ Mango Art Festival เทศกาลศิลปะที่จัดออกมาได้ตรงตามคอนเซปต์สุดๆ ด้วยการผสมผสานรสชาติหลากหลายของศิลปะในหลายแขนง ตั้งแต่ภาพวาด งานปั้น งานดีไซน์ ศิลปะการแสดง ไปจนถึงมัลติมีเดีย
ในปีที่ 3 นี้ Mango Art Festival กลับมาอีกครั้งในธีม Rise ที่สื่อถึงการเริ่มต้นใหม่ การคว้าโอกาสและการเติบโต โดยเปิดเวทีแสดงผลงานให้กับทั้งศิลปินรุ่นใหม่และศิลปินอิสระ รวมถึงแกลเลอรีทั้งในและต่างประเทศ 21 แห่ง จาก 7 ประเทศอาทิ เยอรมนี จีน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเมียนมาร์ รวมถึงมีเทศกาลศิลปะจากไต้หวันอย่าง Formosa Art Fair มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน เพื่อเป็นตัวกลางการเชื่อมโยงศิลปะร่วมสมัยในระดับนานาชาติ แถมยังมีเวทีพูดคุยในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับศิลปะและ Speaker ที่น่าสนใจมากมาย เปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้เข้าชมคนทั่วไปที่นิยมในงานศิลป์ จนถึงนักสะสมตัวจริง
ถึงงานจะจบไปแล้วในวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ใครพลาดไปไม่ต้องเสียใจ Lips เก็บภาพบรรยากาศมายั่วน้ำลายล่วงหน้า เผื่องานปีหน้าวันที่ 7 – 12 พฤษภาคม 2024 กันแล้วที่นี่เลย
Rise of Pride
ภายในงานยังมีนิทรรศการย่อยพิเศษที่นำเสนอผลงานเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศ ด้วยแนวคิดที่เชื่อว่า การขับเคลื่อนสังคมไปสู่ความเท่าเทียม เป็นหนึ่งในหน้าที่ของศิลปิน ตัวนิทรรศการย่อย ประกอบด้วยงานของ ศิลปินทั้งชายหญิง และ LGBTQNI++ หลายคน เช่น RIETY, BAPHOBOY, SIRAWIT CHATU, SUBANNAKARIT KRIKUM, THAKOON WIJITJAN, SORNCHAI PONGSA, THANAPON DATHUMMA และ CHAYANICH MUANGTHAI
โซนศิลปะ
ในส่วนอื่นๆ จะแบ่งเป็น 4 โซน ได้แก่ โซนแกลเลอรี มีจากทั้งในและนอกประเทศรวม 21 แห่ง โซนศิลปินอิสระ แยกออกเป็นชั้น 1 กับชั้น 2 รวมศิลปินกว่า 80 คน โซนออกแบบผลิตภัณฑ์ จัดแสดงงานออกแบบที่รวมศิลปะเข้ากับนวัตกรรม และโซนศิลปะหัตถกรรม ที่ผู้ชมสามารถเลือกซื้องานคราฟท์กลับไปเป็นที่ระลึกได้จากทั้ง 29 แบรนด์คราฟต์ พร้อมด้วยเวทีการแสดงและดนตรี ที่พ่วงมาด้วยงานทอล์กหลายหลาย รวมถึงดีเบตจาก 4 พรรคการเมืองในประเด็นนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์
Words: Roongtawan Kaweesilp
Photos: Somkiat Kangsdalwirun