ชุดเกราะของซูเปอร์ฮีโร่ทั้งหลายในจักรวาลมาร์เวลและดีซี ตั้งแต่ Wonder Woman, Captain America ไปจนถึง Aquaman และ Batman บอดี้สูทหนังสุดฟาดของนักร้องตัวแม่แห่งยุคอย่าง Doja Cat และ Megan Thee Stallion คือ ‘ลูกๆ’ ของดีไซเนอร์คู่หูแห่งแบรนด์ WHITAKER MALEM
Patrick Whitaker และ Keir Malem คู่หูนักสร้างชุดเกราะซูเปอร์ฮีโร(อีน) แห่ง WHITAKER MALEM
Patrick Whitaker และ Keir Malem สร้างงานทีละชิ้น วัดละเอียดระดับมิลลิเมตรมาตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ในปี 1988 สมัยที่วิทเทเกอร์ยังเป็นนักเรียนแฟชั่นที่ Central Saint Martins ซึ่งคอลเล็กชั่นจบการศึกษาของเขาถูกแฟชั่นบายเออร์รุมซื้อเพราะความมหัศจรรย์ที่เขาทำกับแผ่นหนัง
ทั้งสองซึ่งเรียกตนเองว่า ‘ช่างฝีมืองานป๊อป’ ที่เชี่ยวชาญงานเครื่องหนัง เป็นผู้อยู่เบื้องหลังคอสตูมหนัง ชุดใส่ในมิวสิกวิดีโอและชุดเดินพรมแดงที่แนวซูเปอร์ฮีโร่หรือนักรบ เงื่อนไขในการร่วมงานมีอยู่ 2 ข้อคือ คุณต้องมีงบอย่างน้อยชุดละ 9,000 ดอลลาร์สหรัฐ สอง ใครใส่ก็ต้องมีเวลามาวัดตัวและฟิตติ้ง
อย่างหลังคือจุดสำคัญที่ทำให้แบรนด์นี้ยืนหนึ่งเป็นผู้สร้างคอสตูม Aquaman, Batman ในหนัง The Dark Knight, Captain America: The First Avenger ไปจนถึง Wonder Woman ที่ทั้งสองทำชุดเกราะนักรบหญิงแอมะโซเนียนทั้งเผ่า เหตุผลที่ต้องทำงานกับมาร์เวลและดีซีเป็นเพราะมีแต่หนังซูเปอร์ฮีโร่เท่านั้นที่มีงบมากพอจะจ่ายค่าจ้างพวกเขาได้ และเป็นงานที่ได้ปล่อยของแบบไม่บันยะบันยัง
Whitaker Malem ขณะฟิตติ้งชุด Captain America ให้กับ Chris Evans
ระหว่างทดสอบชุด Aquaman ให้กับ Jason Mamao
ชุดแบตแมนเวอร์ชั่น Christian Bale ในหนัง The Dark Knight
สิ่งที่ทำให้แบรนด์ที่ทำงานกันอยู่สองคนมีงานรุมทั้งปีมาจากฝีมือการออกแบบชุดที่ผสมกันทั้งเทคนิคซับซ้อน รูปทรงที่เซ็กซี่แต่ทรงพลัง และทนทายาดแม้ใส่เข้าฉากบู๊ล้างผลาญ อันเกิดจากเทคนิคขึ้นรูปหนังด้วยน้ำที่ใช้แรงอัดสูง เพื่อให้แผ่นหนังเป็นรูปทรงตามต้องการ ซึ่งใช้เวลามากและต้องใช้หนังคุณภาพที่มีเส้นใยเหนียวแข็งแรง เดิมทีเป็นเทคนิคที่ใช้มากในการทำชามหรือภาชนะ แต่ทั้งสองทดลองใช้กับการทำชุดเกราะจนได้งานที่มีเส้นสายสวยงามและโมเดิร์น
ชุดเกราะนักรบหญิงทั้งหมดในหนัง Wonder Woman เป็นฝีมือของ Whitaker Malem
ความพิเศษของแบรนด์นี้อีกอย่างก็คือ เป็นชุดเกราะที่มีหัวนม สะดือและบางทีก็มีอวัยวะเพศด้วย อาทิ นิทรรศการ The Nude Room ในปี 2020 ของ Christian Louboutin ที่ปารีส ทั้งสองทำหุ่นโชว์เสื้อที่ทำจากหนังแบบขุดเอาของลับออกมาโชว์ให้เห็นจะจะแบบครบครัน เช่นเดียวกับชุดนักรบ Transmorphic Armour ในปี 2018 ที่ใส่ได้หมดไม่ว่าจะเป็นเพศอะไร เพราะเครื่องเพศบนชุดเกราะนี้สามารถสลับสับเปลี่ยนได้ทั้งโยนีและลึงก์
หุ่นลองเสื้อที่ทำจากหนังในนิทรรศการ The Nude Room ของ Christian Louboutin
Transmorphic Armour ชุดนักรบที่ใส่ได้สองเพศ
นอกจากชุดซูเปอร์ฮีโร่แล้ว WHITAKER MALEM ยังเป็นที่ต้องการตัวของศิลปินสายแซ่บ อาทิ ชุดบอดี้สูทหนังเข้ารูปเป๊ะที่ Megan Thee Stallion ใส่ขึ้นเวทีที่แกลสตันบิวรีในปี 2022 หรือ ‘Labia’ บุสติเยร์สีชมพูดูสดใสของ Doja Cat บนปกอัลบั้ม Planet Her เมื่อปี 2021 ไปจนถึงบุสติเยร์ที่ Burberry สั่งทำพิเศษให้ Bella Hadid ใส่เดินพรมแดงงาน Met gala 2022
ชุดหนังขึ้นเวทีของ Megan Thee Stallion
ชุดหนังที่ Burberry สั่งทำพิเศษให้กับเบลลา ฮาดิด
‘Labia’ บุสติเยร์สีชมพูดูสดใสของ Doja Cat บนปกอัลบั้ม Planet Her ปี 2021
การทำงานของ WHITAKER MALEM จะเริ่มจากการสแกนร่างกายของคนใส่ก่อน จากนั้นนำไปเข้าเครื่องกลึง CNC (Computer Numerial Control) ที่สามารถผลิตชิ้นส่วนวัสดุให้ได้ขนาดและรูปทรงที่ต้องการความละเอียดหรือมีความซับซ้อนสูงด้วยการกลึงโฟมที่มีความหนาแน่นในระดับที่ทั้งสองถนัดมือ จากนั้นจะใช้ใบมีดเกลี่ยโฟมให้เข้ารูป จะได้รูปร่างเป๊ะๆของผู้ใส่ แล้วจึงใช้เทคนิคขึ้นแบบแผ่นหนังด้วยน้ำ ขั้นตอนนี้ก็เหมือยการใส่เสื้อผ้าให้หุ่นโฟม จากนั้นทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ก็จะได้ชุดเกราะที่ได้รีวิวจากผู้เคยใส่จริงว่า “ใส่แล้วรู้สึกแข็งแกร่งทรงพลังเหมือนไม่มีใครโค่นลงได้”
จากผลงานมากมายที่มีแบบละชิ้นเดียวในโลกเท่านั้น ดีไซเนอร์คู่รักและคู่หูการทำงานเลือกชิ้นโปรดหนึ่งเดียวคือ ชุดหนังที่มาดอนน่าใส่ในหนัง Die Another Day ในปี 2002 เพราะว่า “ไม่มีอีกแล้วที่จะมีตัวละครนักฟันดาบเลสเบี้ยนในหนัง James Bond”
ชุดเกราะนักฟันดาบที่มาดอนน่าใส่ในหนัง Die Another Day
Words: Suphakdipa Poolsap
ข้อมูลจาก