แบรนด์แถวหน้าในแวดวงเรือนเวลา 62 แบรนด์ ทุ่มฝีมือ เทคโนโลยี และดีไซน์ทำนาฬิกาที่มีเพียงเรือนเดียวในโลก เพื่อให้นักสะสมจากทั่วโลกประมูลใน Only Watch 2023 งานประมูลนาฬิกาที่มีหนึ่งเดียวในโลก ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 10
ความหวังเดียวของพ่อต่อลูกชาย
Only Watch เริ่มต้นขึ้นในปี 2005 โดย Luc Pettavino เพื่อระดมทุนแก่งานวิจัยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงดูเชนน์ (Duchenne Muscular Dystrophy) โรคที่เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซม X เกิดขึ้นเฉพาะในเด็กผู้ชาย 1: 5,000 คน ส่งผลให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงลงเรื่อยๆ จากเดินได้จนเข้าสู่ภาวะนั่งรถเข็นคนพิการในช่วงอายุประมาณ 12 ปี และสุดท้ายจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตนเอง โดยผู้ป่วยมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 20-21 ปี
โรคร้ายนี้เกิดขึ้นกับพอล ลูกชายของลุค ซึ่งตรวจพบว่าเป็นโรคนี้เมื่ออายุได้ 4 ขวบเมื่อปี 2000 และดำรงชีวิตอยู่บนวีลแชร์ที่มีระบบช่วยพยุงให้ยืนได้ ลุคลาออกจากงานบริหาร Monaco Yacht Club เพื่อทุ่มเต็มเวลาให้กับโครงการวิจัยหาทางรักษาโรคที่เกาะกินชีวิตบุตรชาย พร้อมกันนั้นก็ได้ก่อตั้งงานประมูลนาฬิกา Only Watch ขึ้นเพื่อเป็นช่องทางการระดมทุนหาเงินทำงานวิจัย โดยพอลเคยร่วมออกแบบนาฬิกากับ LOUIS VUITTON 4 ครั้งและเข้าร่วมงานประมูลทุกปีจนถึงปี 2015
วันที่ 12 พฤศจิกายน ปี 2016 ไม่กี่วันก่อนจะถึงวันเกิดครบ 21 ปี พอลซึ่งอยู่กับโรคร้ายที่ได้ทำให้เขาเป็นอัมพาตทั้งร่างได้จากไปในที่สุด หากบิดาของเขายังคงเดินหน้างานวิจัยหาทางรักษาโรคนี้และจัดงานประมูลนาฬิกา Only Watch ต่อไป ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2023 จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 10 แล้ว รายได้จากการประมูล 99% จะสมทบทุนงานวิจัย อีก 1% เป็นค่าดำเนินงาน Only Watch ซึ่งครั้งล่าสุดในปี 2021 สามารถระดมทุนได้เกือบ 100 ล้านฟรังก์สวิส หรือประมาณ 3,980 ล้านบาทจากการประมูลนาฬิกาไม่ถึง 100 เรือน เพราะแต่ละเรือนมีเพียงหนึ่งเดียวในโลก เป็นสุดยอดของสะสม สมชื่องาน Only Watch
Only Watch 2023
ในการจัดงานครั้งที่ 10 นี้ มีแบรนด์นาฬิกาชั้นนำส่งผลงานร่วมประมูล 62 แบรนด์ และนี่คือส่วนหนึ่งของที่สุดแห่งเรือนเวลาระดับโลก
1. BULGARI OCTO FINISSIMO TOURBILLON MARBLE
นาฬิกาหินอ่อนสีเขียว Verde di Alpi ไร้รอยแตกที่ใช้เวลาสลักนาน 800 ชั่วโมง ไฮไลต์อยู่ที่กลไกตูร์บิญงบางเฉียบเพียง 1.95 มิลลิเมตร ซึ่งบางที่สุดในท้องตลาด ณ เวลานี้
2. BREGUET MARINE HORA MUNDI 5555
จุดเด่นคือหน้าปัดบอกเวลาที่กระโดดข้ามไทม์โซนได้ในทันที เพียงเลือกวันเวลาของเมืองแรก จากนั้นเลือกเมืองจุดหมายปลายทาง แล้วกดปุ่ม Pusher กลไกอัจฉริยะภายในนาฬิกาจะคำนวณวันเวลาของเมืองที่สองได้ในเสี้ยววินาที โดยแสดงผลบนหน้าปัดรูปแผนที่โลกที่ใช้เทคนิคกิโยเช่สร้างลวดลายบนพื้นผิวด้วยมือเป็นรูปทวีปต่างๆในสีทองและสีเนวีบลู
3. CHANEL MADEMOISELLE J12 LA PAUSA
นาฬิการุ่นเรือธงของเมซงที่โดดเด่นด้วยตัวเรือนและสายทำจากเซรามิก โดยรุ่นที่ทำขึ้นเพื่อ Only Watch นี้ได้แรงบันดาลใจจากรูปถ่ายของ Coco Chanel ภายในสวนที่ La Pausa วิลล่าส่วนตัวทางตอนใต้ของฝรั่งเศส นาฬิกา J12 ทั้งสองสี ขาวและดำ เอกลักษณ์ของเมซงจึงพิมพ์โครงร่างของโกโก้ในเสื้อลายขวางและกางเกง
4. H. MOSER x MB&F STREAMLINER PANDAMONIUM
การร่วมงานของสองแบรนด์นาฬิกาอิสระสัญชาติสวิส แหวกกรอบนาฬิกาไปทำงานศิลป์จิ๋วรูปแพนด้าที่รับบทดีเจสปินแผ่น
5. GÉRALD GENTA
มิกกี้เมาส์อยู่คู่นาฬิกาของแบรนด์มาตั้งแต่ปี 1984 ในโอกาสฉลองครบ 100 ปีของดิสนีย์ และครบ 50 ปีของแบรนด์ที่ก่อตั้งในปี 1973 จึงนำดีไซน์นาฬิกาหน้าปัด 8 เหลี่ยมรูปมิกกี้เมาส์ถือเค้กฉลองวันเกิด มืออีกข้างชี้เลข 10 ฉลองดิสนีย์ 100 ปีและ Only Watch ครั้งที่ 10 พร้อมติดตั้งกลไกซับซ้อนสูง Minute Repeater ซึ่งจะเปล่งเสียงขานบอกเวลา ชั่วโมง นาที จากค้อนเคาะเมื่อครบ 60 นาที
6. HERMÈS ARCEAU LE TEMPS VOYAGEUR
เรือนเวลารุ่นดังของเมซงที่เรือนพิเศษหนึ่งเดียวนี้ใช้สามสีของ Only Watch ได้แก่ แดง น้ำเงิน และเขียว ร่วมกับสีส้ม HERMÈS หน้าปัดทรงกลมบอกเวลา 24 ไทม์โซน ภายในมีฟันเฟือง 122 ชิ้นที่ซ่อนไว้ใต้ความบางเพียง 4.4 มิลลิเมตร
7. HUBLOT MP-15 TAKASHI MURAKAMI TOURBILLON
ดีไซน์จากดอกไม้ยิ้ม 12 กลีบทำจากอัญมณี 444 เม็ด งานไอคอนิกของศิลปินชาวญี่ปุ่นที่กลายเป็นนาฬิกากลไกเซ็นทรัล ตูร์บิญง เรือนแรกของแบรนด์ ซึ่งเป็นงานสุดท้ายที่ต้องออกแบบให้ฟันเฟืองบอกชั่วโมงและนาทีอยู่ในตำแหน่งตรงกลางเหมือนกัน แต่ก็เป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมาย เมื่อกลไกที่อยู่ตรงกลางนี้เปรียบได้กับหัวใจที่ขับเคลื่อนนาฬิกา และใจสู้ของเด็กที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงดูเชนน์
8. JACOB & CO. x CONCEPTO WATCH FACTORY ASTRONOMIA REVOLUTION 4TH DIMENSION
เรือนเวลาแรกของโลกที่มีกลไกตูร์บิญง 4 แกน (Four-Axis Tourbillon) ที่มีระบบความถี่สูง ทำให้นาฬิกาบอกเวลาได้แม่นยำระดับเสี้ยววินาที
9. JAQUET DROZ THE ROLLING STONES AUTOMATON
ปลุกความเยาว์วัยด้วยโลโก้ยิ้มของวงดนตรีดัง Rolling Stone ที่อายุครบ 60 ปี ด้วยเครื่องดนตรีไซซ์จิ๋วบนหน้าปัดซ้อน 3 ชั้นที่ดูเหมือนแผ่นเสียง และดวงไฟหมุนกล่อมนอนในห้องเด็ก เป็นตัวแทนงานประมูล Only Watch ที่ทำเพื่อเยียวยาเด็กที่ป่วยไข้จากโรคร้าย
10. LOUIS VUITTON TAMBOUR EINSTEIN AUTOMATA
ใบหน้าของไอน์สไตน์เป็นงานแฮนด์เมดที่สลักทองและลงยากรีซายล์ เทคนิคลงยาด้วยเม็ดสีขาวบนพื้นดำ ลูกตาข้างหนึ่งคือลายโมโนแกรมของเมซง พร้อมกล่องใส่นาฬิกาลายตารางดามิเยร์เหมือนหีบเดินทางอันโด่งดังของหลุยส์ วิตตอง พร้อมสกรีนสมการ E = MC2 ทฤษฏีสัมพัทธภาพพิเศษ ผลงานของไอน์สไตน์ที่เปลี่ยนแนวคิดเรื่องเวลาและอวกาศของนักฟิสิกส์ ที่อธิบายว่าเมื่อเพิ่มพลังงานให้มีความเร็ว มวลก็จะเพิ่มขึ้นด้วย จึงไม่มีอะไรจะเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าแสง
11. RICHARD MILLE TALISMAN ORIGINE
เมื่อพันปีก่อน ในช่วงเวลาที่กลไก งานฝีมือและจิตวิญญาณหลอมรวมกัน วัตถุศิลป์ชิ้นนี้บังเกิดขึ้นกลางหุบเขาในสวิตเซอร์แลนด์ สร้อยบอกเวลาสีทองเปี่ยมมนต์ขลัง หน้าปัดเผยฟันเฟืองภายในอันสลับซับซ้อน ตัวเรือนหลอมโลหะโรโดไนต์ ไทเทนียมและทองเข้าด้วยกัน เป็นการตีความว่าจี้ห้อยคอของอารยธรรมเมื่อพันปีก่อนจะมีรูปลักษณ์เช่นไร
12. TIFFANY & CO. BIRD ON A ROCK MECHANICAL PENDANT
สร้อยคอพร้อมจี้ที่ถอดออกเป็นเข็มกลัดได้ ให้ใช้งานได้หลายแบบ โดยจี้เข็มกลัดเป็น Bird on a Rock งานดดีไซน์ชื่อดังของ Jean Schlumberger ในปี 1965 ที่ทำจากอความารีนเม็ดใหญ่กว่า 34 กะรัตล้อมเพชร 461 เม็ด ตานกทำจากไพลินสีชมพู
13. TAG HEUER MONACO SPLIT-SECONDS
นาฬิกาข้อมือเรือนแรกของแบรนด์ในกลไกโครโนกราฟแบบ Split Seconds เป็นระบบการจับเวลาที่สามารถแยกจับเวลาได้มากกว่าสองรายการขึ้นไป ตัวเคสสี่เหลี่ยมแข็งแรงปรับปรุงใหม่จากโมเดลเดิมที่เปิดตัวในปี 1969
14. URWERK SPACE-TIME BLADE
เรือนเวลารูปทรงดาบที่เหมือนหลุดจากหนังไซไฟ ดีไซน์เป็นแก้วทรงกระบอกเรืองแสงบอกเวลาทั้งชั่วโมง นาที วินาที และกิโลเมตร! เมื่อออกเดินทาง
15. BOUCHERON JOY DE LUMIÈRE
นาฬิกาจิวเวลรีที่สายทำจากสปิเนลสีดำขลับ 5 แถวร้อยเข้าด้วยกันแล้วบิดเกลียว 3 รอบ หน้าปัดประดับเพชรเม็ดกลม 260 เม็ดสไตล์อาร์ตเดโคบนตัวเรือนไวท์โกลด์
16. BLANCPAIN Fifty Fathoms 70th Anniversary Act 1
เรือนเวลาสำหรับนักดำน้ำที่แท้ทรูมาตั้งแต่ปี 1953 และสร้างสรรค์เรือนพิเศษฉลองครบ 70 ปีของ Fifty Fathoms ที่ถือเป็นรุ่นไอคอนิกของแบรนด์ในธีมสีน้ำเงิน แสดงความอุทิศตนทำนาฬิกาเพื่อคนรักทะเล
17. AUDEMARS PIGUET ROYAL OAK SELFWINDING FLYING TOURBILLON OPENWORKED ONLY WATCH EDITION
รุ่นที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2022 ฉลอง 50 ปีของรุ่น Royal Oak โดยเรือนพิเศษสำหรับ Only Watch 2023 ตัวเรือนเป็นเซรามิกสีขาวขนาด 41 มิลลิเมตร เผยฟันเฟืองที่เป็นกลไก Flying Tourbillon สีเทาโรเดียมในเคจสีน้ำเงิน เข็มนาฬิกาสีขาวเคลือบสารเรืองแสงให้มองเห็นได้แม้มีแสงน้อย
18. PIAGET POLO SKELETON ARTY
ได้แรงบันดาลใจจากงานศิลปะออปอาร์ต ‘Hexa Grace’ ของ Victor Vasarely บนหลังคา Auditorium Rainier III ในกรุงมอนติคาร์โล ประเทศโมนาโก สถานที่จัดงานประมูล Only Watch เรือนเวลารุ่นพิเศษนี้จึงมาในสีเทคนิคคัลเลอร์จากงานศิลป์ชิ้นนั้น
19. LOUIS MOINET ART-TECH
เรือนเวลาแรกที่ติดตั้งแผงวงจรไมโครอิเล็กทรอนิกบนหน้าปัดที่ทำจากแผ่นซิลิกอน ที่ทำให้หน้าปัดเกิดลวดลายกราฟิกเปลี่ยนสีสันได้ไปตามการเคลื่อนไหว
20. TUDOR PRINCE CHRONOGRAPH ONE
ทลายข้อจำกัดทั้งปวงด้วยการทำตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ 22K ครั้งแรก และเปิดตัว Calibre MT59XX กลไกโครโนกราฟใหม่ที่ Tudor พัฒนาขึ้นเอง ที่ได้แรงบันดาลใจจาก ‘Big Block’ นาฬิกากลไกลโครโนกราฟอัตโนมัติแรกของ Tudor ในปี 1976
21. ARTYA PURITY MOISSANITE
เรือนเวลาแรกที่ทำตัวเรือนจากแร่มอยส์ซาไนต์ หรือเพชรโมอิส เกิดจากแร่ซิลิคอนคาร์ไบต์ แร่หายากที่ถูกค้นพบในหลุมอุกาบาตพุ่งชนพื้นโลกในปี 1893 ในเวลาต่อมามีการสังเคราะห์แร่ชนิดนี้ในแล็บขึ้นมาได้ โดยมีค่าดัชนีการหักแสงสูงกว่าเพชรแท้ ให้แสงสะท้อนเป็นสีรุ้ง ต่างจากเพชรแท้ที่เป็นสีขาวใส และเป็นแร่ที่แข็งที่สุดในโลกเป็นอันดับ 2 รองจากเพชร ทำให้นาฬิการุ่นนี้แข็งแกร่งที่สุดในโลก และด้วยความใสของแร่ จึงดูคล้ายเวลาลอยอยู่บนหน้าปัดใส
ติดตามผลการประมูล Only Watch 2023 ได้ในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ที่ www.oSnlywatch.com
Words: Suphakdipa Poolsap
Photos: www.onlywatch.com
