Search
Close this search box.
Search
Close this search box.
HOME / Culture / Dining

Locus Native Food Lab เปลี่ยนภาพจำอาหารเหนือสู่สากลโดย ‘ก้องวุฒิ ชัยวงศ์ขจร’ อดีตเชฟกระทะเหล็ก  

Culture / Dining

ในแวดวงอาหารชื่อของ เชฟก้อง-ก้องวุฒิ ชัยวงศ์ขจร เป็นที่รู้จักในฐานะเชฟกระทะเหล็กผู้เจนจัดด้านอาหารญี่ปุ่น เขาคือเซเลบริตี้เชฟที่เคยทำงานในร้านอาหารชื่อดังในบ้านเราอยู่หลายแห่ง รวมไปถึงเป็นมาสเตอร์เชฟประจำห้องอาหารญี่ปุ่นที่โรงแรมดาราเทวี จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่สุดท้ายก่อนจะเปิดร้านอาหารของตัวเองที่ชื่อว่า Locus Native Food Lab

Locus Native Food Lab ร้านอาหารเหนือร่วมสมัยสไตล์ Chef’s Table

เดิมทีเขาเป็นเชฟที่คุ้นชินกับการใช้วัตถุดิบอิมพอร์ตจากญี่ปุ่น นำมาครีเอตให้เป็นเมนูที่น่าสนใจและขายได้ หากแต่วันนี้เชฟก้องมองเห็นคุณค่าของสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว และเลือกใช้วัตถุดิบพื้นบ้านมาสร้างสรรค์ใหม่จนเป็นอาหารเหนือร่วมสมัยที่หน้าตาไม่ธรรมดา แถมคงรสชาติความอร่อยตามแบบวิถีอาหารล้านนา

เชฟก้อง-ก้องวุฒิ ชัยวงศ์ขจร
เชฟก้อง-ก้องวุฒิ ชัยวงศ์ขจร

ปีนี้ร้านโลกุษ (Locus Native Food Lab) เข้าสู่ปีที่ 6 แล้ว เป็นร้านอาหารสไตล์ Chef’s Table หนึ่งเดียวของจังหวัดเชียงราย และเป็น 1 ใน 6 ร้านอาหารในเมืองไทยที่ได้รางวัล ‘Essence of Asia’ จากเวที Asia’s 50 Best Restaurants 2021 ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับร้านอาหารที่หยิบยกเอาเมนูท้องถิ่นมานำเสนอในรูปแบบใหม่ และยังคงภูมิปัญญาดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น

หนึ่งในเมนูอาหารประจำเดือน ก.ค.-ส.ค. 2566
หนึ่งในเมนูอาหารประจำเดือน ก.ค.-ส.ค. 2566

“ครั้งหนึ่งผมมีโอกาสเข้าไปในหมู่บ้านปกาเกอะญอ บ้านหินลาด จังหวัดเชียงราย และที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เห็นพี่น้องชาติพันธุ์ที่อยู่ในป่า เขาอยู่กันโดยไม่มีแอร์ ไม่มีทีวี ไม่มีมือถือ ห้างก็ไม่ไป แต่เขาดูมีความสุข ตอนหลังจึงค้นพบคำตอบว่า เขาพึงพอใจกับสิ่งที่มี พอใจในตัวเอง ปรัชญาการดำรงชีวิตคือ อยู่อย่างเรียบง่ายและเป็นอย่างธรรมชาติ” เชฟก้องเล่าถึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้เลิกมองหาสิ่งไกลตัว แต่มองเห็นคุณค่าจากวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่น

เมนูที่เหมือนเป็นงานทดลองของร้านโลกุษ 

“ผมเชื่อว่าเรามีอะไรก็ได้ ขายได้หมดแหละ แค่ต้องมีฝีมือกับสิ่งที่เรามี” เขาเปรียบเปรยถึงมะเขือเทศให้เราฟังอย่างเห็นภาพ “เหมือนที่คนเหนือรู้สึกเฉยๆ กับมะเขือเทศลูกกลมๆ ที่เรียกว่า ‘มะเขือส้ม’ แต่คนกรุงเทพฯ เรียก ‘มะเขือเทศเชอรี่’ ตอนผมเห็นครั้งแรก ผมคิดว่าทำไมมันลึกล้ำขนาดนี้ นั่นเป็นเพราะกรุงเทพฯ ไม่มี เราจึงให้ความสำคัญกับมันทันที แล้วก็รู้สึกว่ารอบตัวเราเต็มไปด้วยสิ่งที่มีคุณค่า แต่กลับไม่มีใครมองเห็น สำหรับผมคุณค่าอยู่ที่การสร้างสรรค์ ไม่ใช่การมองเห็น”

ดินเนอร์มื้อพิเศษที่เปลี่ยนภาพจำของอาหารเหนือ
ดินเนอร์มื้อพิเศษที่เปลี่ยนภาพจำของอาหารเหนือ
วัตถุดิบที่ผ่านการแยกย่อยและต่อยอด พร้อมเสิร์ฟเป็นชิ้นพอดีคำ

เชฟก้องตั้งชื่อร้านว่า ‘โลกุษ’ แปลว่า สถานที่ ทำเลที่ตั้งของร้านอยู่ในพื้นที่เดียวกับรีสอร์ตส่วนตัวระดับ 6 ดาว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสิงห์ปาร์คมากนัก ที่นี่เป็นที่พักที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ ส่วนร้านโลกุษเองก็ได้รับการออกแบบอย่างกลมกลืนในรูปแบบของบ้านดิน ทำให้ดูเป็นหนึ่งเดียวกันกับสภาพแวดล้อม

Locus Native Food Lab ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ

“อาหารของที่นี่เหมือนเป็นงานทดลองชิ้นหนึ่ง เราอยากจะสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้กับโลก” เชฟก้องเล่าถึงความมุ่งมั่น ทั้งยังยกตัวอย่างเรื่องการทดลองถั่วงอกให้เราฟัง “มีอยู่ครั้งหนึ่งผมทดลองใช้ถั่วงอกมาทำอาหารให้กับลูกค้าที่ไม่กินถั่วงอกเลยทั้งหมด 17 คน สุดท้ายเราทำออกมาแล้วเขากินได้ เราเปลี่ยนใจเขาได้ และเขาก็แฮปปี้กับถั่วงอกที่นี่ สำหรับผม แค่นี้คือพอแล้ว”

เมนูอาหารของโลกุษจะเปลี่ยนไปทุกๆ 1-2 เดือน เมื่อจัดเสิร์ฟบนจาน เมนูชิ้นเล็กๆ ขนาดพอดีคำก็มักจะสร้างความเซอร์ไพรส์และน่าทึ่งให้กับลูกค้าอยู่เสมอ แม้ว่าจะเป็นการหยิบเอาวัตถุดิบพื้นบ้านหรือเมนูท้องถิ่นที่เราคุ้นเคยกันดี แต่เมื่อนำมาผ่านกระบวนการสร้างสรรค์จนเสร็จสรรพ รูปลักษณ์และหน้าตาของสิ่งที่เราคุ้นชินกลับดูแปลกตา ทว่า ยังคงรสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบไม่เปลี่ยนแปลง

สำหรับใครที่สนใจอยากสัมผัสกับอาหารเหนือร่วมสมัยที่ไม่ธรรมดา ทางร้านเปิดรับเฉพาะลูกค้าจองเท่านั้น โดยจะรับลูกค้าเพียง 12 คนต่อวันสำหรับเมนูดินเนอร์ 10 คอร์ส เชฟก้องเล่าว่า ลูกค้าส่วนใหญ่มีทั้งต่างชาติและต่างถิ่น ที่ลงทุนบินมานั่งกินกับข้าวเมืองในเวลาแค่ 2 ชั่วโมงแล้วบินกลับ พิเศษแค่ไหนคงต้องลองไปชิมกันสักครั้ง 

เพราะบางสิ่งบางอย่าง สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นยังไม่เท่าการได้ลองไปสัมผัสประสบการณ์ด้วยตนเอง

Words: Namaun Sriboonruang
Photos: Locus Native Food Lab

พิกัดร้าน Locus Native Food Lab

เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เฉพาะมื้อค่ำเวลา 18.00-20.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
โทร. 065-023-2627 
Line OA: @locusfoodlab
Facebook: Locus Native Food Lab

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม