Foodie ชาวไทยมีเฮอย่างแน่นอนเมื่อ Den Kushi Flori ร้านอาหารมิชลิน 1 ดาวจากโตเกียว บินลัดฟ้ามาเปิดสาขาล่าสุดที่กรุงเทพฯ ด้วยเมนูที่ปรุงจากวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น 100% เพื่อยังคงรสชาติและคอนเซปต์ออริจินัลจากร้านที่ญี่ปุ่น ซึ่งก็คือการนำจุดเด่นของอาหารฝรั่งเศส มาผสมผสานกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น ในสไตล์ innovative โดยวัตถุดิบออร์แกนิกเกรดพรีเมียม ความลงตัวนี้มาจากความเชี่ยวชาญของ 2 เชฟที่เป็นเพื่อนกันมานาน
เชฟ ซาอิยุ ฮาเซกาวา (Chef Zaiyu Hasegawa) เจ้าของร้านและเชฟร้าน “Den” ร้านไคเซกิชื่อดัง ในโตเกียว ที่ได้รับรางวัลอันดับ 1 จากการประกาศผล 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย “Asia’s 50 Best Restaurants for 2022”
และ เชฟ ฮิโรยาสึ คาวาเตะ (Chef Hiroyasu Kawate) เจ้าของร้านและเชฟ ร้านอาหารฝรั่งเศสแนวโมเดิร์น “Florilège” แห่งเมืองโตเกียว ที่มีชื่อเสียงเรื่องการรังสรรค์เมนูได้อย่างงดงามจากวัตถุดิบตามฤดูกาลของญี่ปุ่น รสชาติมีความอร่อยแบบซับซ้อนที่น่าค้นหา ได้รับรางวัลอันดับ 3 “Asia’s 50 Best Restaurants for 2022”
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2563 เชฟทั้ง 2 จับมือกันเปิดร้าน Den Kushi Flori ที่ชิบูยา กรุงโตเกียว โดยเลือกใช้คำว่า “Kushi” เชื่อมชื่อร้านของเชฟทั้ง 2 ซึ่ง Kushi เป็นอาหารที่เสิร์ฟแบบใช้ไม้เสียบ สื่อถึงการเชื่อมต่อสไตล์อาหารของ 2 ร้าน และการเชื่อมความผูกพันระหว่างลูกค้าและร้านอาหารด้วยกัน ด้วยเมนูที่เสิร์ฟในรูปแบบคอร์ส ซึ่งเรียกการจัดและเสิร์ฟอาหารที่เป็นเอกลักษณ์นี้ว่า innovative cuisine อันมีความคล้ายคลึงกับสไตล์ไคเซกิ (kaiseki) แต่ถูกนำเสนอในรูปแบบที่แปลกใหม่และน่าสนใจยิ่งขึ้น
ในที่สุดความอร่อยจากโตเกียวก็ได้บินลัดฟ้ามาสู่ Den Kushi Flori สาขากรุงเทพฯ นำโดย เชฟ ซูซูมุ ชิมิสึ (Chef Susumu Shimizu) เชฟจากสาขาญี่ปุ่น ผู้ที่ทำให้ร้านสาขาญี่ปุ่นได้รับ 1 ดาวมิชลินในเวลาอันรวดเร็ว และมีชื่อเสียงโด่งดังจนต้องจองที่นั่งล่วงหน้าหลายเดือน
เชฟชิมิสึได้นำประสบการณ์จากการทำงานในร้านอาหารที่มีชื่อเสียงทั้งที่ญี่ปุ่นและฝรั่งเศส อาทิ ร้านที่ได้รับรางวัลมิชลิน 3 ดาวอย่างเช่น ร้าน “Marc Veyrat”, ร้าน “Arpège” ของเชฟ Alain Passard ผู้ซึ่งจุดประกายให้เชฟชิมิสึมีแรงบันดาลใจในการเป็นผู้เชี่ยวชาญอาหารจานเนื้อ (meat specialist) และนำพาความชำนาญจากประสบการณ์การขายเนื้อที่ร้าน Hugo Desnoyer ซึ่งเป็นร้านขายเนื้อที่ดีที่สุดในปารีส มารังสรรค์เมนูที่น่าหลงใหลให้กับ Den Kushi Flori
Den Kushi Flori สาขากรุงเทพฯ ตั้งอยู่ที่ชั้น LG อาคารเอราวัณ แบงค็อก ที่สะดวกทั้งในการเดินทางและจอดรถในอาคาร เชฟชิมิสึและทีมเชฟ พร้อมโชว์วิธีการปรุงอาหารในรูปแบบ innovative cuisine ที่น่าสนใจและเสิร์ฟผ่านหน้าเคาน์เตอร์ให้กับลูกค้า ซึ่งนอกจากความอร่อย ลูกค้ายังจะได้รับความเพลิดเพลินและชื่นชมความคล่องแคล่วว่องไวของเชฟแบบใกล้ชิด
การตกแต่งภายในร้าน มีความคล้ายที่ญี่ปุ่นเพื่อคงไว้ซึ่งบรรยากาศเดียวกัน ด้านในตกแต่งโทนสีเข้ม ตัดกับแสงไฟที่มีความสลัวๆ ทำให้รู้สึกถึงการต้อนรับที่อบอุ่นทั้งจากเชฟและพนักงาน การจัดที่นั่งของร้าน ห้องหลักจะมีเคาน์เตอร์ตรงกลางรูปตัวยู ซึ่งหลังเคาน์เตอร์จะเป็นพื้นที่การจัดเตรียมและทำอาหารของเชฟ มีที่นั่ง 18 ที่ล้อมเคาน์เตอร์ ซึ่งเป็นจำนวนที่เท่ากันกับที่โตเกียว แสดงถึงเป็นจำนวนที่เหมาะสมสำหรับเชฟในการดูแลลูกค้าให้ทั่วถึง และมีห้องรับรองแบบส่วนตัว 1 ห้อง 6 ที่นั่ง ที่ดูสวยมีเสน่ห์จากการใช้โทนสีทองแดง
Den Kushi Flori คอร์สเมนู Lunch: 2,800++ บาท
- Wakame with Fromage Blanc
- Deep Fried Taro with Bisque soup
- Steamed Chicken with Japanese Leek
- Clay pot Rice with Japanese Sweet Corn and Wagyu Beef
- Dessert, choice of Caramel Pudding or Daifuku Mochi
Den Kushi Flori คอร์สเมนู Dinner: 3,500++ บาท
- Wakame with Fromage Blanc
- Deep Fried Taro with Bisque soup
- Fresh Spring Roll filled with Mantis Shrimp, Eggplant, Edible Flower, with Watermelon Sauce and Spicy Oil
- Steamed Chicken with Japanese Leek
- Chawanmushi with Foie gras
- Clay pot Rice with Japanese Sweet Corn and Wagyu Beef
- Dessert, choice of Caramel Pudding or Daifuku Mochi
พิกัด Den Kushi Flori สาขากรุงเทพฯ
เปิดให้บริการทุกวัน (ยกเว้นวันอังคาร) สอบถามข้อมูลและจองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ โทร. 02-022-0200 หรือ LINE OA: @denkushifloribkk โดยมื้อกลางวัน 5 คอร์ส ราคา 2,800++ บาท (เวลา 12.00 – 15.00 น. last booking 13.00 น.) และ มื้อ Dinner 7 คอร์ส ราคา 3,500++ บาท (เวลา 18.00 – 21.30 น. last booking 19.30 น.)
Words: Ayu Kulahathai