Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

วี BTS เปิดใจครั้งแรกถึงสาเหตุที่เบิร์นเอาต์หนัก! จนกลายร่างเป็นหมีและเกือบถูกยุบวง

Beauty / Wellness & Aesthetic

ย้อนไปในปี 2018 ช่วงที่ BTS โปรโมตเพลง Fake Love และคว้า 5 รางวัลใหญ่จากเวที MAMA แต่กลายเป็นว่าท่ามกลางความสำเร็จท่วมท้น วีกลับเบิร์นเอาต์อย่างหนัก จนคิดอยากให้ตัวเองเจ็บตัว จะได้หยุดพัก และ BTS ที่ล้าหนักเพราะไม่ได้หยุดพักมา 10 ปีก็เกือบยุบวง วีเปิดใจครั้งแรกถึงภาวะเบิร์นเอาต์ที่ทำให้เขากลายร่างเป็นหมี!

วีพา Layover อัลบั้มเดี่ยวงานแรก และเป็นอัลบั้มเดี่ยวสุดท้ายในบรรดาเมมเบอร์ 7 คนของ BTS มาในรายการทอล์กโชว์ของชูก้า SUCHWITA ซึ่งช่วง 10 นาทีสุดท้าย ชูก้าพูดขึ้นมาว่า เมื่อนึกถึงคิมแทฮยอง (ชื่อจริงของวี) จะนึกถึงเหตุการณ์ในปี 2018…เกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น LIPS จะเล่าให้ฟัง

ปี 2018 เป็นช่วงที่ BTS โปรโมตเพลงฮิต Fake Love “เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตผม” วีกล่าว

BTS คว้า 10 รางวัลจากเวทีรางวัลทางดนตรีใหญ่ของเอเชีย MAMA 2018 ที่ฮ่องกง และเมื่อก้าวขึ้นไปรับรางวัลแดซัง หรือรางวัลใหญ่สุดของงาน เมมเบอร์ทั้ง 7 กล่าวขอบคุณทีละคนด้วยน้ำตาซาบซึ้งใจ แต่วีสะอื้นจนตัวโยนจนแฟนๆตกใจ เพราะดูจะเป็นน้ำตาแห่งความเสียใจมากกว่ายินดี

และซีนที่ Army ด้อมของ BTS ยังจดจำได้จนทุกวันนี้ก็มาถึงเมื่อจิน พี่ใหญ่ของวงพูดหน้าไมค์เป็นคนสุดท้ายว่า “เมื่อต้นปีที่ผ่านมา พวกเราประสบช่วงเวลาที่ยากลำบากมากทางจิตใจ พวกเราจึงพูดคุยกันและกังวลว่าควรจะยุบวงหรือไม่…” เมื่อจินพูดถึงตอนนี้ เสียงแฟนๆร้องเฮือกแบบตกใจมากทั้งฮอลล์ วีปล่อยโฮออกมาจนจองกุกต้องคว้าตัวไปกอด

วีตัดสินใจพูดออกมาว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมจะพูดถึงเรื่องนี้ แต่อยากจะบอกผ่านไปถึงแฟนๆ มีหลายคนที่อาจไม่รู้ว่าทำไมพวกเราถึงเจอช่วงเวลาที่ยากแบบนั้น หรือทำไมเราดูเป็นทุกข์มากมาย…”

ชูก้าช่วยเสริมว่า “ตอนนั้นพวกเราเหนื่อยล้ากันมากเหลือเกิน แน่ละว่าพวกเราพยายามทำเต็มที่เสมอ แต่ก็มีหลายครั้งเลยที่พวกเราเบิร์นเอาต์ และช่วงเวลาเช่นนั้นก็กระทบกับแทฮยองอย่างหนักในที่สุด”

“พอเวลาผ่านไป ผมเริ่มเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ‘เพราะเราทำอะไรช้ากว่าเมมเบอร์คนอื่น เราคิดต่างจากคนอื่น เราก็เลยเบิร์นเอาต์หนักกว่าคนอื่นใช่ไหม’ ผมคิดแบบนี้บ่อยมาก ทุกครั้งที่ผมเห็นเมมเบอร์ทำการแสดงบนเวที ทุกคนช่างเพอร์เฟกต์ และดูเอนจอยกับการอยู่บนเวทีกันมากเลย ‘แล้วทำไมเป็นเราคนเดียวที่เป็นแบบนี้’ นั่นคือสิ่งที่ผมคิดในช่วงเวลานั้น พอคิดแบบนี้มากเข้า อาการเบิร์นเอาต์ของผมก็รุนแรงมาก” วีระบายความในใจเป็นครั้งแรก

BTS เดินพรมแดงงานประกาศรางวัลบิลบอร์ด 2018

แม้ว่าจริงๆแล้ว ความสำเร็จต่างๆที่ BTS ได้มา ควรจะเป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะรู้สึกขอบคุณและยินดี ไหนจะได้ไปขึ้นแสดงบนเวทีประกาศรางวัล Billboard และคว้ารางวัล Favorite Social Artist จากเวที American Music Awards แต่กลายเป็นตัว BTS เองกลับรู้สึกว่า ผลออกมาดีแล้วยังไง “ทำไมพวกเราต้องทำให้ตัวเองบอบช้ำขนาดนี้เพื่อแลกมากับผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ด้วย” วีในเวลานั้นตั้งคำถามเช่นนี้ แม้จะรู้ว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำก็ตาม

“ผมคิดบ่อยมากว่าอยากจะพักสักวัน ขอแค่วันเดียวที่ไม่ต้องทำอะไรเลย ในปี 2018 หลังจากที่พวกเราถ่ายเอ็มวีเพลง Fake Love ผมก็เลยถามขึ้นมาว่า ในเมื่อพรุ่งนี้เรามีแค่ตารางซ้อมเต้น จะโอเคไหมถ้าเราจะหยุดพักกันหนึ่งวัน แต่อย่างไรก็ตาม พวกเราเตรียมจะคัมแบ็ก และการซ้อมเต้นก็สำคัญมากๆ พวกเราจึงหยุดพักไม่ได้ ความคิดลบๆสารพัดเริ่มก่อตัวในใจ ผมมองหาทางที่จะได้หยุดพัก ถึงขั้นคิดว่าถ้าผมบาดเจ็บก็จะได้หยุดพักเสียที…”

สิ่งที่ทำให้วีและ BTS ผ่านพ้นช่วงเวลาเบิร์นเอาต์จนเกือบไม่มี BTS ในวันนี้ก็คือ ความรู้สึกว่าไม่ถูกทอดทิ้งให้เผชิญหน้ากับปัญหาเพียงลำพัง การที่ความรู้สึกอ่อนแอเปราะบางของเราไม่ถูกมองข้ามละเลย และสุดท้ายคือ ความรู้สึกมีกันและกัน หรืออย่างน้อยมีใครสักคนอยู่เคียงข้างและรับฟัง

“ผมไม่ดูสุขภาพดีขึ้นหรือ” วีถามชูก้า “เพราะประสบการณ์ในช่วงเวลานั้นนั่นแหละ…”

“ตอนปี 2018 นายเครียดมากจนกินไม่ยั้ง จนกลายเป็นหมีเลยตอนที่เราโปรโมตเพลง Fake Love กันน่ะ” ชูก้าทบทวนความทรงจำให้วีที่จำภาพตัวเองตอนหน้าบานกว่าเมมเบอร์คนอื่นอย่างเห็นได้ชัด “พวกเรางงมากว่านายไปกินอะไรมา ทุกครั้งที่นายโผล่หน้ามา เราจะพูดกันว่า “หมีมาแล้วๆ! ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

ในสถานการณ์เช่นนั้น พี่ใหญ่ทั้งสามคือ อาร์เอ็ม, ชูก้าและเจ-โฮปร่วมกันเขียนเพลง Tear ที่ฟังเผินๆแล้วคือน้ำตาของคู่รักที่จากลา แต่นัยยะแฝงเร้นคือคำบอกรักถึงน้องๆในวง และพี่ๆปากแข็งถึงกับทำในสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน ด้วยการส่งข้อความยาวเหยียดไปบอกเมมเบอร์ว่า “รักนะ”

“พอได้ข้อความนั้น ผมกับจองกุกก็มีใจอยากจะไปต่อ ผมเองประหลาดใจสุดๆไปเลยกับพี่ (ชูก้า) ผมไม่คิดว่าพี่จะบอกรักพวกเราได้ แต่เพราะไม่คิดว่าพี่จะทำนั่นแหละ พอพี่พูดออกมาจริงๆ ก็เลยฟังดูจริงใจมาก และเพราะข้อความที่พี่ส่งมา ทำให้ผมกลับมายืนบนลำแข้งของตัวเองได้อีกครั้ง ผมไม่เคยกลับไปรู้สึกแบบนั้นอีกเลย”

Layover คือ 6 เพลงที่วีตั้งใจทำให้เพลงฟังสบายๆ ไม่มีบีตหนัก ไม่มีท่าเต้นแข็งแกร่ง ออกจะเป็นเพลงอาร์แอนด์บีช้าๆ ที่กลืนไปกับบรรยากาศรอบตัว มากกว่าจะเป็นเพลงที่เร้าให้ตั้งใจฟัง เป็นเพลงที่ฟัง ณ ขณะที่เราอนุญาตให้ตัวเองได้หยุดพัก และกลับมารักตัวเองเสียบ้าง

Words: Suphakdipa Poolsap
ข้อมูลจาก: www.soompi.com

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม