ร้านอาหารไทยแท้ๆ ว่าหายากแล้ว แต่ร้านอาหารที่รวมอาหารหลายภาคไว้ในร้านเดียวนั้น นานๆ เราถึงจะเจอสักหน และ “กิ่งไกร” ร้านอาหารชื่อไทยที่ตั้งอยู่ในซอยนิมมานเหมินท์ 11 จังหวัดเชียงใหม่ก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่นี่รวมเมนูเด่น 4 ภาคไว้ด้วยกัน ซึ่งไม่เพียงแค่นำเสนออาหารท้องถิ่นหายากในแต่ละภาคเท่านั้น แต่ยังถ่ายทอดถึงเรื่องราวและวัฒนธรรมอาหารพื้นบ้านที่น่าสนใจอีกด้วย
อาหารไทยโบราณจากสูตรคุณยาย
สำหรับใครที่ชอบอาหารไทย เราเชื่อว่าคุณจะหลงรักที่นี่ “กิ่งไกร” ร้านอาหารขนาดอบอุ่นใจกลางเมืองเชียงใหม่ ที่นำเสนออาหารทั้งหมด 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคตะวันออก ส่วนใหญ่เป็นเมนูพื้นบ้าน บางจานก็เป็นสูตรลับและดั้งเดิมของครอบครัว เอ้-ธนฤกษ์ เหล่าเราวิโรจน์ ผู้ก่อตั้งร้าน
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เรามักจดรสมือแม่หรือคนในครอบครัวได้อยู่เสมอ ธนฤกษ์ก็เช่นเดียวกัน เขาเติบโตมาในครอบครัวของคนทำอาหาร ซึมซับและคุ้นชินกับอาหารฝีมือผู้เป็นยายมาตั้งแต่วัยเยาว์
“คุณยายเป็นคนเดียวในบ้านที่ทำอาหารในทุกคนกินตั้งแต่เด็กจนโต ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารภาคกลางกับภาคตะวันออก เพราะคุณยายเป็นคนจังหวัดตราด เราก็กินในแบบที่เรียกว่า ไม่รู้สูตรใคร แต่เป็นสูตรคุณยาย” เจ้าของร้านเล่าถึงรสชาติที่คุ้นเคยในความทรงจำ
ร้านอาหารไทยในคอนเซปต์ใหม่
เมื่อเติบใหญ่ เส้นทางชีวิตของธนฤกษ์พลิกผันจากหนุ่มไฟแนนซ์ที่พ่วงดีกรีปริญญาโทจากนิวยอร์ก มาสู่ธุรกิจอาหารอย่างเต็มตัว และเขาคือหนึ่งในผู้ปลุกปั้น สุพรรณิการ์กรุ๊ป ห้องทานข้าวสุพรรณิการ์ และส้มตำเด้อ ร้านอาหารอีสานที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วโลก สำหรับ “กิ่งไกร” ถือเป็นร้านอาหารไทยในคอนเซ็ปต์ใหม่ที่นำเสนออาหาร 4 ภาค และเปิดในเชียงใหม่เป็นสาขาแรก
ตัวร้านสูง 2 ชั้น พื้นที่ภายในเรียกว่ากะทัดรัดและอบอุ่น ชั้น 1 มีเคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่สำหรับทำเครื่องดื่ม และมุมจำหน่ายขนมของกินเล่นสูตรเฉพาะของทางร้าน เช่น ป๊อปคอร์น และน้ำพริกสูตรพิเศษของครอบครัว
ชั้น 2 ของร้านเป็นโซนรับประทานอาหาร ที่ให้ความเป็นส่วนตัว รองรับได้ทั้งแขกผู้ใหญ่ ครอบครัว และเพื่อนฝูง เครื่องใช้และของประดับตกแต่งภายในร้าน เป็นงานจักสานซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย เช่น โคมไฟแขวน ถาดอาหาร กระด้ง ผ้ารองจาน แผ่นรองแก้วน้ำ ตะกร้า ฯลฯ ผลงานจากแบรนด์ Thorr
“กิ่งไกรเป็นร้านที่เราเปิดในช่วงโควิด-19 ฉะนั้นคอนเซปต์ของร้านจึงเปลี่ยนจากคำว่า Restaurant มาเป็น Food & Beverage & Dining Experience Survivor เพื่อความอยู่รอดของการทำธุรกิจในช่วงเวลานั้น” เจ้าของร้านอธิบาย
เมนูไฮไลต์ 4 ภาค
สำหรับอาหารของที่นี่จัดเสิร์ฟบนสำรับที่สวยงาม อาหารแต่ละชุดยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมการกินและความเป็นท้องถิ่นของอาหารแต่ละภาคได้อย่างมีรสนิยม ด้านเมนูเด่นของแต่ละภาค เจ้าของร้านแนะนำ “ขนมจีนซาวน้ำ” และ “หลนกุ้ง”สำหรับภาคกลาง
ส่วนอาหารภาคตะวันออก ต้องลอง “หมูชะมวง” และ “ยำปลาสละหอมทอด” สำหรับดาวเด่นด้านอาหารเหนือคือ “ผักเชียงดาผัดไข่” และ “ลาบเมือง” รสชาติเข้มข้นครบรส ส่วนจานเด็ดของภาคอีสาน คือ “ลาบปลาดอง” และส้มตำไทย” รสชาตินัวครบรสเหมือนได้กินส้มตำอีสานแท้ๆ
อีกจุดเด่นของที่นี่คือ การเสิร์ฟอาหารคู่กับชาผสมหรือม็อกเทลสูตรพิเศษจากทางร้าน ที่คิดค้นสูตรชาม็อกเทลในคอนเซปต์ 4 ภาค ใช้สมุนไพรและผลไม้ที่เป็นของท้องถิ่นในแต่ละภาค มาปรุงเป็นใบชาและไซรัปเช่น ภาคเหนือใช้ลิ้นจี่ ลำไย มะแขว่น ขมิ้น ภาคตะวันออก ใช้ใบชะมวง มังคุด เงาะ
ส่วนภาคอีสานใช้ใบหม่อน ลูกหม่อน ฯลฯ ภาคกลาง ใช้มะม่วง มะกรูด มะขาม บ๊วย ฯลฯ นอกจากนี้ ทางร้านยังมีขนมไทยโบราณ และขนมกินเล่นอย่างป๊อปคอร์นหลากรส ตลอดจนน้ำพริกสำหรับปรุงอาหารอีกหลากหลายชนิดที่สามารถซื้อกลับบ้านไปเป็นของฝากได้
ใครที่ชอบอาหารไทย ปักหมุดร้านนี้ไว้ในใจได้เลย เป็นอีกหนึ่งร้านที่เหมาะสำหรับกลุ่มครอบครัว แขกผู้ใหญ่ คู่รัก เพื่อนฝูง หรือใครก็ตามที่ชอบอาหารไทย
Words: Namaun Sriboonruang
Photos: กิ่งไกร เชียงใหม่
พิกัดร้านกิ่งไกร เชียงใหม่
โทร. 052-010-414
เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.30-21.00 น. (Last Order 20.30 น.)
Facebook: Ging Grai – กิ่งไกร เชียงใหม่
Instagram: ginggrai_chiangmai