‘มีน นิชคุณ – ปิง กฤตนัน’ คู่จิ้นกร้าวใจในจอ คู่พี่น้องที่ขออ้อนหน่อยในชีวิตจริง

#มีนปิง ฮอตฉุดไม่อยู่ LIPS จึงชวน มีน – นิชคุณ ขจรบริรักษ์ และ ปิง – กฤตนัน อัญชนานันท์ มาอัปเดตชีวิตและผลงานกันแบบด่วนจี๋เป็นของขวัญเซอร์ไพรส์ในช่วงเวลาใกล้สิ้นปี 

การพูดคุยกับพวกเขาในวันนี้ดูคลับคล้ายแนวรายการ Car Interview นั่นเพราะเราอาศัยจังหวะที่หนุ่มๆ รออยู่ในรถก่อนเข้าร่วมงานอีเวนต์เปิดบทสนทนา หลังจากซีรีส์เรื่องล่าสุด พี่นักเลงที่รัก (My Dear Gangster Oppa) เรียกเสียงหวีดกรี๊ดสนั่นตั้งแต่ออกตัวอีพีแรกยันโค้งสุดท้าย จนแฮชแท็ก #GangsterOppa ทะยานสูงสุดติดเทรนด์ X อันดับ 1 ในประเทศไทย และไปไกลถึงอันดับ 8 ในระดับโลก

การโคจรมาพบกันของ ‘มีน’ คุณพี่หน้าหล่อ และ ‘ปิง’ ต้าวน้องตาแป๋ว ประสบความสำเร็จแบบสุดปังตั้งแต่ผลงานเรื่องแรกที่แสดงด้วยกัน นั่นก็คือ ‘อัยย์หลงไน๋ (AiLongNhai TheSeries)’ ที่ออกอากาศทางช่อง 3 เมื่อปี 2022 ต่อเนื่องถึงปีนี้กับซีรีส์โรแมนติกสุดกร้าวใจ ‘พี่นักเลงที่รัก (My Dear Gangster Oppa)’ ทาง iQIYI ก่อนสานต่อความฟินแบบไม่พักจิกหมอนกับ ‘The Rebound Series เกมนี้เพื่อนาย’ ผลงานเรื่องใหม่สไตล์สปอร์ตแอ็กชันของ Viu Original ที่เตรียมลงจอในปีหน้า

Official Teaser – พี่นักเลงที่รัก : MY DEAR GANGSTER OPPA

LIPS: เคยเห็นบทสัมภาษณ์ว่าพี่น้องคู่นี้ไม่เคยงอนหรือทะเลาะกันเลย อะไรคือกุญแจสำคัญในการดูแลรักษาความสัมพันธ์ที่ดี

มีน: ผมว่าเราแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวครับ อย่างเรื่องงาน ต่างคนต่างรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ เรามีหน้าที่อะไร ส่วนเรื่องส่วนตัวยิ่งไม่มีอะไรให้ทะเลาะกันเลย

LIPS: โดยส่วนตัวมองว่าคู่ชิปของเราโรแมนติกไหม

ปิง: โรแมนติก…พี่มีนเขาเป็นคนนิ่งๆ แต่ดูโรแมนติก

มีน: ปิงเหรอ? ผมว่าน้องก็มีมุมโรแมนติกแหละ น้องอ่ะชอบการเซอร์ไพรส์มาก

LIPS: มีนเคยโดนปิงเซอร์ไพรส์หรือยัง

มีน: วันเกิดปีล่าสุดนี่แหละครับ น้องทำเซอร์ไพรส์ เขาเอาซองกฐินซ่อนไว้ในกางเกงผม แต่ทุกคนในไลฟ์สดก็เห็นกันหมด (หัวเราะ) ทีแรกผมก็คิดว่าจะเซอร์ไพรซ์น้องบ้างเมื่อวันเกิดที่ผ่านมา แต่เลือกของขวัญไม่ได้สักที คิดไม่ออกจริงๆ เลยให้น้องเลือกเองดีที่สุด

LIPS: สุดท้ายปิงเลือกอะไรเป็นของขวัญวันเกิด

มีน: น้องเลือกกินข้าวครับ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีเวลาไปเลี้ยงวันเกิดให้น้องเลยครับ เพราะตารางงานแน่นมาก 7 วันเต็ม

LIPS: ปกติชอบไปทานอาหารแนวไหนกัน

มีน: ลาบร้อยเอ็ด ส้มตำ จริงๆ พวกเรากินได้หมดครับ แล้วแต่สถานการณ์เลย

ปิง: ผมทานอาหารเหนือได้ครับ ผมชอบไส้อั่ว

LIPS: ถ้าต้องเลือกเมนูซิกเนเจอร์ให้กันและกัน อยากเลือกเมนูอะไรที่คิดว่าเหมาะกับเขาที่สุด

ปิง: สลัดอกไก่ (เน้นย้ำ)

มีน: ทุกอย่างที่เป็นไฮไลต์ของร้านครับ สั่งให้หมด

LIPS: มาคุยเรื่องการแสดงกันบ้าง จาก ‘อัยย์หลงไน๋’ สู่ ‘พี่นักเลงที่รัก’ มีส่วนใดที่รู้สึกว่ายากหรือท้าทายขึ้นบ้าง

ปิง: บท ‘กาย’ ในพี่นักเลงที่รักจะมีความเป็นผู้ใหญ่กว่า ‘ไน๋’ ครับ ไน๋เขาเป็นคนบ๊องๆ ไม่คิดอะไรมาก ในขณะที่กายเป็นคนที่มีความคิดความอ่านโตขึ้น

LIPS: ระหว่างคนบ๊อง vs. คนมีความคิด คาแรกเตอร์ไหนแสดงยากกว่า  

ปิง: ผมว่าบท ‘ไน๋’ เล่นง่ายกว่า แต่จริงๆ ผมชอบทุกตัวละครที่มีโอกาสได้เล่นนะ เพราะเป็นผลงานของเราทั้งหมด

LIPS: บท ‘พี่ทิว’ ใน ‘พี่นักเลงที่รัก’ ฉีกไปจากตัวจริงของมีนแค่ไหน

มีน: ผมว่าไม่ฉีกมาก ในชีวิตจริงผมถนัดการเล่นบาส เราก็สู้ด้วยบาส แต่ในละครเราเป็นนักเลงก็ต้องสู้ด้วยสกิลการต่อสู้เฉพาะตัว เหมือนเป็นการทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดมากกว่า

LIPS: มีฉากไหนที่ได้อ่านบทหรือเคยเห็นจากเว็บตูน แล้วรู้สึกอยากเห็นภาพจริงในเวอร์ชันละครมากที่สุด

มีน: ฉากที่ต้องต่อสู้เพื่อปกป้องคนที่เรารักครับ ถือเป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้เล่นฉากบู๊ ผมชอบมาก มันเป็นอะไรที่ใหม่มากสำหรับผม

ปิง: ฉากที่โดนเคนจิ (รับบทโดย ทอมมี่-จารุภพ เรืองสุวรรณ) จับตัวไปครับ ตอนแรกผมจินตนาการภาพไว้ว่าเป็นโกดังที่ใช้ไฟสีเหลืองวอร์มๆ แต่พอเข้าฉากจริง เราไปถ่ายทำกันบนดาดฟ้าครับ (หัวเราะ) มันก็ได้อีกมู้ดหนึ่งเหมือนกันนะ

LIPS: ชอบฉากไหนใน ‘พี่นักเลงที่รัก’ กันเป็นพิเศษ

ปิง: ฉากน่ารักๆ จิ้นกัน แล้วก็ซีนอารมณ์ ผมชอบหลายฉากอยู่เหมือนกันครับ แต่ถ้าถามว่าฉากไหนฟินที่สุดในฐานะคนดู ผมว่าช่วงต้นๆ ของ EP.5 นะ อันนั้นคือที่สุด!

มีน: ฉากบู๊ครับ ผมชอบเวลาได้ใช้ร่างกายเยอะๆ แต่ความจริงก็ชอบหลายซีนนะครับ อย่างซีนอารมณ์ตอนพ่อเสีย ผมชอบตัวละครนี้จนอินมากๆ เหมือนเราไม่เหลือใครแล้วจริงๆ

LIPS: ในฐานะที่มีนเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลจนถึงปัจจุบัน ฉากบู๊นี่เข้าทางเราไหม

มีน: มีส่วนครับ ในเรื่องของมูฟเมนต์ร่างกายและการหายใจ เพราะเวลาเข้าฉากบู๊ก็เหมือนเราเข้าคลาสเรียนต่อยมวย หรือออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ถ้าเราไม่มีแรงจากการเป็นนักกีฬามาก่อน เวลาเล่นบทบู๊คงเหนื่อยแย่ เพราะแต่ละฉากต้องถ่ายหลายคัต หลายเทคครับ การมีพื้นฐานด้านกีฬา ผมว่าทำให้เรารู้สึกเหนื่อยน้อยลง

LIPS: ‘พี่นักเลงที่รัก’ มาถึงตอนอวสานแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้ให้อะไรกับเราบ้าง

ปิง: ให้ประสบการณ์ที่มากขึ้นครับ จาก ‘อัยย์หลงไน๋’ ถึง ‘พี่นักเลงที่รัก’ ประสบการณ์ผมต่างกันมาก คงเป็นเพราะเรื่องแรกผมเล่นกุ๊งกิ๊งๆ อย่างเดียว แต่เรื่องนี้มีซีนบู๊ ซีนอารมณ์ เราได้ทำความรู้จักกับตัวละครใหม่ๆ ซึ่งก็ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น ทั้งเบื้องหลังการถ่ายทำ การวิเคราะห์บท การตีความตัวละคร ฯลฯ ผมว่าทุกฉากเลยนะที่เราต้องวิเคราะห์แล้วก็ตีความบทว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไร เราพูดประโยคนี้ออกมาเพราะอะไร 

LIPS: พี่นักเลงฯ จบ..ความฟินไม่จบ เพราะได้ข่าวว่า ‘The Rebound Series เกมนี้เพื่อนาย’ ผลงานต่อไปของคู่จิ้น #มีนปิง พร้อมออนแอร์กลางปี 2024

มีน: ใช่ครับ ตอนนี้เรากำลังถ่ายทำกันมาเกินครึ่งทางแล้ว เหลืออีกประมาณ 10 คิวเอง ในเรื่องนี้ผมรับบทเป็นตัวละครที่ชื่อว่า ‘ริว’ เขารักกีฬาบาสเกตบอลเหมือนผม แล้วก็รักเพื่อนมากๆ แต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง บวกกับครอบครัวของริวไม่ได้เห็นด้วยกับการทุ่มเวลาให้บาสเก็ตบอลขนาดนั้น ริวเลยยอมแลกทุกอย่าง ถึงขนาดหนีออกจากบ้านเพื่อที่จะได้ทำในสิ่งที่รัก

ปิง: ส่วนคาแรกเตอร์ของปิงแตกต่างจากสองเรื่องที่ผ่านมาเลยครับ เรื่องนี้ผมรับบทเป็น ‘เซ็น’ กัปตันทีมบาสเกตบอล เลยต้องมีความเป็นผู้นำมากขึ้น เซ็นเป็นตัวละครที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจมากๆ เป้าหมายในชีวิตของเขาคืออยากให้ย่าอยู่สบาย เพราะมีกันอยู่ 2 คน เลยพยายามทำทุกอย่างเพื่อย่า

LIPS: เมื่อนักบาสตัวจริงอย่าง ‘มีน’ ต้องมาสวมบทบาทเป็นนักบาสในละคร สิ่งไหนที่เราไม่เคยรู้ ไม่เคยสัมผัสมาก่อน จนกระทั่งได้มาลงสนามในฉากละคร

มีน: ผมได้เรียนรู้ความพยายามของแต่ละตัวละครครับ ตอนเราเป็นนักกีฬาในชีวิตจริง เราฝึกซ้อมเพื่อลงแข่งขัน เพื่อชัยชนะ เพื่อชื่อเสียง แต่พอเราเป็นนักแสดงเรื่องนี้ เราได้เห็นว่าตัวละครที่ชื่อ ‘ริว’ เขามีความพยายามมาก แบบเซอร์ไวเวิลเลย ขนาดเป็นแค่เด็ก ม.ปลาย

อีกเรื่องหนึ่งคือการเป็นที่ยอมรับของคนรอบข้างครับ ริวรักกีฬาบาสเกตบอลมากๆ แต่ด้วยความที่พ่อของเขาเป็นนักบาสเก่า แม่ของริวไม่อยากเห็นลูกซ้ำรอยพ่อ เลยอยากให้ริวเรียนด้านธุรกิจ แทนที่จะเป็นนักกีฬา เขาจึงต้องฝ่าฟันปมปัญหานี้ไปให้ได้ครับ

LIPS: ปิงมีแพลนไปเที่ยวบ้านเกิดของมีนที่จังหวัดน่านเป็นครั้งที่ 3 หรือยัง หยุดปีใหม่นี้เลยไหม แล้วมีนอยากพาปิงไปเที่ยวที่ไหน ถ้าเป็นสถานที่ซึ่งยังไม่เคยพาน้องไป

ปิง: หูย..ยังไม่แน่ใจเลยครับว่าเมื่อไร

มีน: รอบหน้าเดี๋ยวผมพาไปเที่ยว ‘ป่าเป๋ย’ ฮะ เป็นจุดรวมพลของวัยรุ่นในจังหวัดน่าน

LIPS: “อ้อนดิ” ในตำนานของ #มีนปิง มีที่มาอย่างไร

ปิง: ตอนนั้นพวกเราไปออกรายการหนึ่งครับ แล้วพิธีกรเขาบอกให้อ้อน พี่เขาก็เลยหันมาบอกผมว่า “อ้อนดิ”

LIPS: ปิงอ้อนเป็นไหมสรุป ได้อ้อนพี่มีนไหม

ปิง: ได้ครับ..อ้อนได้ พี่มีนชอบให้อ้อนอยู่แล้ว

View this post on Instagram

A post shared by ᵂ ˡ † ☽ ᴴ (@meennicha8)

Words: Sasi Akkomee
Photos: IG @meennicha8, @ping_krittanun