เผยโฉม ‘เรือนเวลายอดเยี่ยมแห่งปี’ จากสมาคมรางวัลชนะเลิศศาสตร์การทำนาฬิกาแห่งเจนีวา ประเทศสวติเซอร์แลนด์ ที่คัดสรรความเป็นเลิศในแขนงต่างๆ ตั้งแต่กลไก ดีไซน์ ไปจนถึงความไอคอนิกของนาฬิกา ‘SWISS MADE’
Fondation du Grand Prix d’Horlogerie de Genève สมาคมศาสตร์แห่งเรือนเวลาแห่งเจนีวา ประกาศผู้ชนะเลิศสาขาต่างๆที่คว้า GPHG รางวัลทรงเกียรติสูงสุดในโลกนาฬิกา ดังต่อไปนี้
1. AUDEMARS PIGUET “AIGUILLE D’OR” คว้ารางวัล GRAND PRIX
หลังจากผลิตนาฬิกาพกที่มีกลไกซับซ้อนเป็นพิเศษรุ่น ‘Universelle’ มากกว่าร้อยปี ก็ได้เวลาแนะนำนาฬิกาข้อมือไขลานภายใต้คอลเล็กชัน Code 11.59 by Audemars Piguet ที่มาพร้อมกลไกไขลาน Calibre 1000 ที่ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนมากกว่า 1,100 ชิ้น ทั้งกลไก ดีไซน์ ศิลปะการทำนาฬิกา และงานฝีมือชั้นเลิศได้ผนึกกำลังกันมากกว่า 7 ปีเพื่อยกระดับศาสตร์การทำเรือนเวลาชั้นสูงไปอีกขั้น
2. PIAGET “HIDDEN TREASURES” คว้ารางวัล LADIES’ WATCH
ตีความคัฟฟ์วอตช์จากทศวรรษที่ 1960s-70s ซึ่งกลายเป็นเครื่องหมายรับรองฝีมือของเปียเชต์ โดยทำออกมาเป็นนาฬิกาสไตล์ไฮเปอร์แนเชอรัล รูปทรงฟรีฟอร์ม มีจุดเด่นที่หน้าปัดทรงรีที่แอบซ่อนครึ่งหนึ่งอยู่ในคัฟฟ์ข้อมือทองประดับอัญมณีหลากสี คัฟฟ์แต่ละชิ้นสลักมือเป็นลวดลายและผิวสัมผัสแตกต่างกันไป จึงเป็นคัฟฟ์นาฬิกาที่มีชิ้นเดียวในโลก
3. DIOR MONTRES “GRAND SOIR AUTOMATE ETOILE DE MONSIEUR DIOR” คว้ารางวัล LADIES’ COMPLICATION WATCH
เรือนเวลาที่บอกเล่าจุดกำเนิดของเมซงดิออร์ เมื่อวันที่ 18 เมษายน ปี 1946 เมอร์ซิเออร์ คริสเตียน ดิออร์ เดินไปตามถนนหนทางในกรุงปารีส เขาเจอดาวบนพื้น เป็นดาวพรหมลิขิตห้าแฉกอันเป็นเครื่องรางถึงความโชคดีที่ปรากฏตัวขึ้นมานำทาง และเมอร์ซิเออร์ดิออร์ตัดสินใจเปิดห้องเสื้อชั้นสูงขึ้น ณ เลขที่ 30 ถนนมงแตญ และเรื่องราวของดาวแห่งพรหมลิขิตนี้ก็บอกเล่าผ่านหน้าปัดเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยงานศิลป์สุดวิจิตรของเมซง Dior
4. VOUTILAINEN “WORLD TIMER” คว้ารางวัล MEN’S COMPLICATION WATCH
นาฬิกาข้อมือทรงหมอนสี่เหลี่ยมมุมมน ตัวเรือนสีถ่านหินแอนทราไซต์สีเทาดำที่สร้างความรู้สึกไร้กาลเวลา คงทนส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้ หน้าปัดสลักลายกิโยเช่สุดสลับซับซ้อน แต่ใช้งานง่ายด้วยฟังก์ชันเวิลด์ไทม์ ที่สามารถบอกเวลาของประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้พร้อมกัน เพียงแค่กดเม็ดมะยมเมื่อเปลี่ยนเมืองและไทม์โซน
5. ULYSSE NARDIN “FREAK ONE” คว้ารางวัล ICONIC WATCH
นาฬิการุ่นนี้ไม่มีหน้าปัด ไม่มีเข็มสั้นหรือเข็มยาว มีเพียงแค่กลไก Flying Carrousel Tourbillon ที่ผสานสองกลไกระดับสุดยอดเข้าด้วยกัน คือ Flying Tourbillon กับ Flying Carrousel โดย Carrousel เป็นกลไกพิเศษที่หาชมได้ยากมาก จัดอยู่ในระดับไฮเอนด์ ถูกสร้างมาเพื่อแก้ปัญหาเรื่องแรงโน้มถ่วงที่ส่งผลต่อความแม่นยำของนาฬิกา เป็นกลไกที่หายสาบสูญไปจากวงการนาฬิกาเป็นเวลาอันยาวนาน จนเพิ่งปรากฏตัวเมื่อปี 2008 นี้เอง ส่วน Flying Tourbillon เป็นการต่อยอดจากกลไกตูร์บิญง โดยติดตั้งแกนค้ำไว้ในด้านหลังของชุดจักรกรอก แทนที่จะเป็นแป้นยึดตามปกติ จึงทำให้กลไกนี้ดูราวกับลอยอยู่กลางอากาศ
6. LAURENT FERRIER “GRAND SPORT TOURBILLON PURSUIT” คว้ารางวัล TOURBILLON WATCH
เวอร์ชันใหม่ของนาฬิการุ่น Grand Sport Tourbillon ที่มีตัวเรือนเชื่อมกับสายทำจากไทเทเนียมเกรด 5 ซึ่งคงทนต่อการกัดกร่อนได้ดีเยี่ยม แข็งแกร่งกว่าเหล็กกล้า เป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ หน้าปัดไล่เฉดสีส้มแซลมอนอมชมพู ผลิตเพียงปีละ 15 เรือนเท่านั้น โดยกรงใส่กลไกตูร์บิญงบาลานซ์สปริงคู่ ที่แก้ปัญหาเรื่องแรงโน้มถ่วงที่ส่งผลต่อความแม่นยำ จึงช่วยให้บอกเวลาได้แม่นยำขึ้น ปรากฏเห็นเด่นชัดผ่านด้านหลังเคสแซปไฟร์คริสตัล
7. BOVET 1822 “RÉCITAL 20 ASTÉRIUM” คว้ารางวัล CALENDAR AND ASTRONOMY WATCH
ใช้เลเซอร์สลักหน้าปัดเป็นท้องฟ้าราตรีพราวหมู่ดาว แล้วเติมพรายน้ำที่เรืองแสงในที่มืดลงในโดมควอตซ์สีน้ำเงินโปร่งแสง โดยที่หมู่ดาวนั้นจำลองจากแผนที่หมู่ดาวของจริง และโคจรตามระยะเวลาจริง วงโคจรดาวโลกอยู่ที่ 365 วัน 6 ชั่วโมง 9 นาที 9.77 วินาที หรือ 365.25 วันในหนึ่งปี เป็นปฏิทินเฉพาะของ Bovet ที่มีความแม่นยำเป็นเลิศ และแตกต่างจากนาฬิกาทั่วไปที่ใช้ปฏิทินเกรกอเรียน 365 วันต่อปี และ 366 วันทุกๆ 4 ปี
8. PETERMANN BÉDAT “CHRONOGRAPHE RATTRAPANTE” คว้ารางวัล CHRONOGRAPH WATCH
กลไกโครโนกราฟ คือฟังก์ชันนาฬิกาที่วัดเวลาที่ผ่านไปในขณะที่ยังบอกปัจจุบัน โดยในรุ่นนี้ประกอบไปด้วยฟันเฟือง 339 ชิ้น และใช้กลไกโครโนกราฟคู่ หรือ Split Second Chronograph ที่อัปเดตมาจากโครโนกราฟ โดยจับเวลาสองรายการแยกกันได้ เช่น สามารถใช้จับเวลาของของสองสิ่งได้พร้อมกัน เพื่อเปรียบเทียบเวลาได้ในคราวเดียวกัน
9. TUDOR “PELAGOS 39” คว้ารางวัล SPORTS WATCH
สายเงางามทำจากไทเทเนียมเกรด 2 ซึ่งเป็นไทเทเนียมเกรดที่นิยมใช้มากที่สุด ด้วยคุณสมบัติน้ำหนักเบาและคงทนต่อการกัดกร่อนได้ดี เข็มนาฬิกาเซรามิกเรืองแสง ระบบตัวล็อก T-fit ที่ปรับเปลี่ยนได้คล่องตัว และขยายสายนาฬิกาสำหรับนักดำน้ำได้ หน้าปัดขนาด 39 มม.ที่โดดเด่นด้วยลาย sunray satin ที่ขอบหน้าปัดและเม็ดมะยม กลไก Calibre MT5400 มาตรฐาน Swiss Official Chronometer Testing Institute (COSC) สวมใส่ได้ทั้งในเมืองและไปเที่ยวทะเล
10. BULGARI “SERPENTI CLEOPATRA” คว้ารางวัล JEWELLERY WATCH
เฉลิมฉลองอย่างมีสีสันให้กับราชินีแห่งความงามอมตะ ‘คลีโอพัตรา’ ด้วยโมทีฟเซอร์เพนติสุดไอคอนิกของ Bulgari โดยงูคือสัญลักษณ์ยุคโบราณของปัญญา การเกิดใหม่ และความมีชีวิตชีวา มักปรากฏในเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ และด้วยดีไซน์ของเซอร์เพนติจึงส่งเสริมให้เรือนเวลารุ่นนี้เป็น ‘Manchette’ หรือนาฬิกาสไตล์คัฟวอตช์ที่แตกต่างด้วยโครงสร้างสายโอบรับไปกับข้อมืออันหรูหราด้วยโรสโกลด์ประดับรัตนชาติ อาทิ โทปาซ รูเบลไลต์ แทนซาไนต์ อเมทิสต์ และเพชรจิกไข่ปลานับร้อยเม็ดมากกว่าร้อยกะรัต
Words: Suphakdipa Poolsap
Photos: GPHG