แพร-อมตา จิตตะเสนีย์ ในวันนี้เธอคิดการณ์ใหญ่ โดยใช้พลังของความเป็นผู้นำด้านแฟชั่นในฐานะ Influencer คนสำคัญ สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจผ้าไทย พร้อมใส่ใจในสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน
ลิปส์ : คุณเริ่มต้นสนใจเรื่องผ้าไทยได้อย่างไร
อมตา : จากที่ผ่านมาแพรแทบไม่เคยสนใจ ไม่เคยรู้จักผ้าไทยเลย จนกระทั่งแพรได้รับเชิญให้ไปเป็นวิทยากรสอนเรื่องการสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น แล้วทุกคนบอกกับแพรว่า มาขอนแก่นต้องไปชมผ้าไทย ผ้าไทยของที่นี่ขึ้นชื่อมาก จากคำชักชวนนั้นได้จุดประกายให้แพรออกเดินทางตามหาผ้าไทยในชุมชนต่างๆ ซึ่งสิ่งที่แพรได้รับคือการต้อนรับอย่างอบอุ่นเป็นกันเองจากชาวบ้านเสมือนเราเป็นลูกเป็นหลาน ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน หากล้วย หาน้ำ มาให้เรากิน พูดคุยให้ความรู้ ไม่มีคำว่าหวง ซึ่งมันทำให้เราหลงใหลในความรู้สึกพิเศษนั้น หลงใหลในภูมิปัญญาท้องถิ่น และในความหลงใหลนั้นมันทำให้แพรเริ่มก้าวออกจากกรอบชีวิตในรูปแบบเดิมๆ มันทำให้แพรเริ่มเรียนรู้ในสิ่งใหม่ เริ่มสร้างความเข้าใจในชีวิตในมุมมองที่แตกต่าง เริ่มสร้างความเข้าใจเรื่องราวของธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมรอบตัว และนั่นเป็นครั้งแรกที่แพรได้ตัดชุดผ้าไทยใส่ไปเที่ยวทั่วโลก
หลังจากนั้นแพรก็ได้มีโอกาสเดินทางไปยังจังหวัดต่างๆ ไปจังหวัดน่าน ไปอุบลฯ ไปอุดรฯ และเริ่มมีความเข้าใจในเรื่องราวของผ้าไทยมากขึ้นๆ เพราะผ้าไทยในแต่ละแห่งแต่ละภาคจะมีลักษณะ มีความสวยงามที่แตกต่างกัน มีเทคนิคการลงสี การใช้สีธรรมชาติที่ไม่เหมือนกัน อย่างที่บุรีรัมย์ก็จะใช้สีจากดินภูเขาไฟ (หินอัคนี) ที่ในชีวิตนี้ของแพรไม่เคยเห็นมาก่อน สีธรรมชาตินั้นสวยงาม และบริสุทธิ์มาก ในอุดรก็ใช้สีย้อมผ้าจากบัวแดง ที่กลีบบัวสดให้สีชมพูอ่อน ดอกบัวแห้งให้สีทองงามสง่า ก้านบัวแห้งให้สีเงินงดงามตา รวมถึงที่อุดร ที่อุบล ที่สกลนครมีผ้าฝ้ายมัดหมี่ย้อมครามหมักโคลนที่สวยงาม ที่เพชรบุรีก็มีผ้าเขียนทองอันทรงคุณค่า หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ผ้าลายอย่าง เป็นผ้าพิมพ์โบราณในสมัยอยุธยาที่สูญหาย เป็นผ้าที่ทำให้มีลวดลายด้วยการพิมพ์สีต่างๆ ลงบนผ้าฝ้ายเนื้อดี และเขียนน้ำทองทับลงบนลายพิมพ์อีกครั้ง โดยใช้น้ำกาวจากยางมะเดื่ออุทุมพรที่ขึ้นริมฝั่งแม่น้ำเพชรบุรี ซึ่งหาได้ยากมาก และมีกรรมวิธีการทำที่ซับซ้อนมากค่ะ
“ผ้าไทยใส่แล้วไม่เพียงเสริมลุคให้ดูงามสง่า แต่ยังดูเก๋ได้ ดูเท่ได้”
ผ้าไทยสวยไม่แพ้ใครเลยค่ะ ผ้าทุกผืนมีเรื่องราว มีความเป็นมา มีกรรมวิธีในการสร้างสรรค์ชิ้นงานที่ละเอียดอ่อนละเมียดละไม ที่สำคัญผ้าไทยใส่แล้วไม่เพียงเสริมลุคให้ดูงามสง่า แต่ยังดูเก๋ได้ ดูเท่ได้ ที่สำคัญเราไม่ใช่แค่หยิบผ้าไทยมาใส่แล้วรู้สึกว่าฉันสวย แต่เราต้องรู้วิธีการใส่ผ้าไทยที่ถูกหลัก ถูกกาลเทศะ ที่สำคัญสิ่งแพรต้องเรียนรู้ต่อจากนี้คือเราจะต่อยอดความเป็นไทยได้อย่างไร เพราะทุกวันนี้พอแพรจับผ้าไทยแล้วรู้สึกว่าเราไม่เพียงต้องสืบสาน และบอกเล่าในเรื่องของประเพณีไทยวัฒนธรรมไทยให้โลกได้รู้ แต่แพรคิดว่าเราต้องทำให้เสื้อผ้าที่รังสรรค์ขึ้นมาจากผ้าไทยของเรามีฟังก์ชั่นในการใช้งานได้อย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น อย่างเศษผ้าเหลือๆ แพรก็เอามาทำเป็นกระเป๋าใส่ของ ใส่ขวดน้ำ กระเป๋าคาดเอว ทำเป็นหมวก จะไม่เหลือทิ้งเด็ดขาดค่ะ
ลิปส์ : ชุดผ้าไทยที่คุณใส่นั้นสวยมาก คุณออกแบบ และตัดเย็บเองใช่หรือไม่
อมตา : แพรเติบโตมาในโลกของแฟชั่น ในโลกของความสวยงาม นั่นเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้แพรรู้ว่าตัวเองเหมาะกับอะไร ไม่เหมาะกับอะไร แล้วอะไรที่เป็นไปได้แล้วเราทำมันให้เกิดขึ้นได้ ที่บ้านของแพรมีช่างตัดเสื้อที่เก่งมากๆ ค่ะ ทำงานด้วยกันอยู่ด้วยกันเสมือนเป็นครอบครัวมานาน แพรมีผ้าหนึ่งผืนแล้วแพรแจ้งแบบ แชร์ไอเดีย บอกความต้องการ ผ้าหนึ่งผืนนั้นก็จะถูกนำไปตัดเย็บเป็นชุดผ้าไทย ที่มีความร่วมสมัย เราสามารถหยิบจับนำมาใส่ได้ตลอดเวลา
ชุดผ้าไทยสีทอง
แพรได้แรงบันดาลใจมาจากชุดไทยจิตรลดา โดยนำแขนเสื้อมาปรับให้เป็นแขนหมูแฮมใหญ่ๆ ส่วนกระโปรงออกแบบจับจีบให้เป็นทรงสุ่มบาน ผ้าเป็นผ้าไหมหนองบัวลำภู ชื่อลายผ้า หงษ์ฟ้า ลายนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศงานนกยูงพระราชทานปีพ.ศ. 2549 ที่มาของลายนี้มากจากความสง่างามของหงษ์ โดยการย้อมสีของเส้นไหมเห็นเป็นสีครีมย้อมมาจากเปลือกเพกากับเปลือกประดู่ผสมกัน
ชุดผ้าไทยสีน้ำเงิน พร้อมหมวก
ชุดนี้เป็นชุดที่แพรใส่ไปปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นชุดผ้าไหมไทยจากจังหวัดสุรินทร์ ที่ได้รับการออกแบบตัดเย็บ ให้เกิดเป็นความสวยงามร่วมสมัย ดูเก๋ไก๋ และแปลกตา
แจ็คเก็ต เสื้อฮาวาย กางเกงแนวสตรีท และหมวกชาวสวน
แจ็คเก็ตเป็นการนำผ้าลายอย่าง ผ้าลายศรีสุมณฑา มาออกแบบตัดเย็บในแบบร่วมสมัย ส่วนหมวก เสื้อ และกางเกงเป็นผ้าลายอย่าง ผ้าลายแก้วนิลรัตน์ ที่เนื้อผ้าบางเบาสวมใส่สบาย แพรชอบมากค่ะ เพราะสามารถนำมาสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน
กระเป๋าคาดเอว
กระเป๋าคาดเอวใบนี้เป็นใบโปรดของแพร ใช้งานง่าย สะดวก และคล่องตัว ทำมาจากผ้าฝ้ายมัดหมี่หมักโคลนย้อมครามจากจังหวัดอุดรธานี
หมวกแก็ปแต่งผ้าลายอย่าง ประดับผ้าชีฟองเนื้อบางพลิ้วไหว
หมวกใบนี้แพรพกติดตัวไว้เสมอ ทุกครั้งที่ออกเดินทางนำมาใส่กันร้อน กันแดดได้ ซึ่งแพรเติมลูกเล่นให้หมวกใบนี้ด้วยผ้าชีฟองพิมพ์ลาย ดูเฟมินีน
ต่างหูชายมาลัย
ต่างหูทำจากดินปั้น จำลองเป็นรูปพวงมาลัย แพรชอบเพราะมีความน่ารัก มีความยูนีค เป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะตัว
กระติกน้ำ และหลอดดื่มน้ำ
ในหนึ่งวันเราดื่มน้ำตลอดเวลา แพรจะพกกระติกน้ำติดตัวไว้เสมอ รู้สึกกระหายน้ำเมื่อไหร่ก็ดื่ม ไม่ต้องเสียเวลาไปหาซื้อน้ำบรรจุขวด หรือเครื่องดื่มใส่แก้วพลาสติก เป็นการช่วยลดขยะพลาสติก เราช่วยโลกได้
หมวกกันน็อค
แพรพกใส่กระเป๋าติดตัวไว้ พร้อมหยิบนำมาสวมใส่เพื่อความปลอดภัยในเวลาที่ต้องนั่งวินมอเตอร์ไซค์ในชั่วโมงที่เร่งรีบ
ปิ่นโต
วิถีชีวิตของคนไทยในสมัยก่อน คือการกินข้าวในปิ่นโต ปิ่นโตใบนี้เป็นปิ่นโตเบญจรงค์ลายจักรีที่มีความสวยงาม
Text : Ruethai S.
Photography : Somkiat K.