วงการฟิลเลอร์เข้าแล้วออกยาก เหตุผลหนึ่งเพราะความสวยไม่มีวันจบสิ้น และสอง เพราะคุณอาจกลายเป็นเหยื่อหมอที่ไม่ได้มาตรฐานจนต้องไปหาหมออื่นมาแก้ไขผลข้างเคียงที่ตามมา ซึ่งประการหลังเป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวลอย่างยิ่ง ไม่เฉพาะแต่ความปลอดภัยของผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหาที่กร่อนเซาะบ่อนทำลายชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของอุตสาหกรรมความของประเทศไทยด้วย
‘หมอบอย’ ตัวตึงเรื่องฟิลเลอร์
แพทย์ที่ออกมาสะกิดให้คนไทยตระหนักถึงปัญหานี้อย่างตรงไปตรงมาก็คือ คุณหมอบอย – นพ. พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ แห่ง AIC Clinic เจ้าของตำแหน่ง Country Mentor Trainer หรือ CMT ถ้วยที่มอบให้กับแพทย์ผู้สอนฟิลเลอร์ที่มีความรู้ ความสามารถระดับสูงสุดในประเทศไทย และเป็นตำแหน่งที่มีการยอมรับในระดับนานาชาติ ซึ่งนพ. พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ เพิ่งได้รับถ้วยนี้มาหมาดๆ จากงานมอบรางวัล Award Night Celebration 2023 โดยบริษัท กัลเดอร์มา ประเทศไทย จำกัด ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์
ถ้วยรางวัลอันทรงเกียรตินี้เป็นผลจากการทำงาน การถ่ายทอดความรู้และการคิดค้นเทคนิคใหม่ๆ เรื่องฟิลเลอร์แก่แพทย์ทั้งในเมืองไทยและในต่างประเทศมายาวนานกว่า 10 ปี “ผมนำเสนอเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์สัมผัสกระดูก คิดค้นเทคนิคการฉีดด้วยเข็มปลายทู่ และยังมีผลงานการตีพิมพ์เทคนิคฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า Butterfly Lift ในตำราทางการแพทย์นานาชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมภูมิใจมาก และทำให้วงการแพทย์ไทยเป็นที่ยอมรับจากแพทย์ทั่วโลกครับ” นพ. พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณกล่าว
หมอไทยเก่งไม่แพ้หมอเกาหลี ถ้า…
นพ. พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ ยังใช้โอกาสนี้พูดถึงปัญหาที่กร่อนเซาะอุตสาหกรรมความงามในเมืองไทยมาอย่างยาวนาน และยิ่งทวีความร้ายแรงขึ้นในยุคโซเชียลมีเดียว่า
“ในแวดวงธุรกิจความงาม ณ ปัจจุบัน มีการแข่งขันและอัตราการเติบโตที่สูง เรียกว่าสูงขึ้นทุกๆ ปี ทำให้ดึงดูดทุกคนที่มีความสนใจวิ่งเข้าหา ยิ่งตอนนี้เป็นยุคที่การตลาดออนไลน์เข้ามามีอิทธิพลในการประกอบการตัดสินใจมากขึ้น นั่นหมายถึงใครที่มีแพลตฟอร์มออนไลน์อยู่ในมือก็เป็นสื่อมวลชนได้ทุกคน ซึ่งหากนำไปใช้ในทางที่ผิดก็อาจจะทำให้เกิดข้อมูลที่สร้างความเข้าใจแบบผิดๆ หลอกลวงผู้บริโภคในกลุ่มนี้ได้มากขึ้น”
“ปัญหาที่ส่งผลกระทบให้วงการแพทย์ความงามของไทยเสื่อมลงและความน่าเชื่อถือลดลงมีหลายเรื่องมาก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหมอปลอม หมอกระเป๋า หรือแม้แต่หมอจริงที่ไม่ได้มาตรฐาน แต่อาศัยสื่อออนไลน์สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง เมื่อมีผู้รับบริการได้รับผลข้างเคียง ซึ่งก็ยังคงมีให้เห็นอยู่ทุกๆ วัน
“ความรู้และการคิดค้นใหม่ๆ ที่ผมทำอยู่นี้ก็เพื่อทำให้แพทย์เรามีความรู้ที่ถูกต้อง และสามารถนำไปรักษาและให้บริการคนไข้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ซึ่งจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมความงามของประเทศในที่สุด ถ้าคนไทยเชื่อมั่น ต่างชาติเชื่อมั่น อุตสาหกรรมความงามของไทยก็ไม่แพ้เกาหลีครับ” นพ. พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ กล่าวเตือนภัยร้ายใกล้ตัว พร้อมบอกถึงหนทางยกระดับอุตสาหกรรมความงามของไทย
หมอกระเป๋า หมอปลอม หมอจริงที่ไม่ได้มาตรฐาน
ในฟีดโซเชียลมีเดียไม่ว่าจะแพลตฟอร์มใด หรือกระทั่งข่าวในสื่อทั้งหลายไม่เคยหมดกรณีที่ผู้บริโภคออกมาถามหาความรับผิดชอบจาก ‘หมอ’ ที่กลายเป็นผู้หยิบยื่นใบหน้าเสียโฉมจาก ‘การรักษา’ แทนที่จะช่วยแก้ปัญหา
“จะเห็นได้ว่ามีข่าวออกไม่เว้นแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นการฉีดใต้ตาคล้ำ ใช้ฟิลเลอร์เข้าไปแก้ปัญหา แต่กลับได้รับผลข้างเคียงจากการรักษา เพราะหมอปลอมบ้าง หรือแพทย์ที่ไม่ได้มาตรฐานบ้าง แต่อาศัยสื่อโซเชียลในโลกออกไลน์ปั่นกระแส จากหมอปลอมก็กลายเป็นหมอจริงได้ หรือจากหมอจริงที่ไม่มีประสบการณ์ก็กลายเป็นอาจารย์แพทย์ผู้มากประสบการณ์ เป็นต้น” นพ. พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ ชี้ให้เห็นถึงปัญหา พร้อมกล่าวต่อไปว่า
“ตัวผมสอนฉีดฟิลเลอร์มาร่วม 10 ปี เดินทางไปสอนต่างประเทศมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ผมยังไม่เคยใช้คำว่า ‘อาจารย์แพทย์’ เวลาออกสื่อ และไม่เคยเรียกตัวเองว่าเป็นอาจารย์แพทย์ด้วย ผมเป็นแค่ ‘แพทย์วิทยากรสอนฉีดฟิลเลอร์ คนที่ให้เกียรติเรียกผมว่า ‘อาจารย์’ ก็เพราะความเคารพเราครับ ดังนั้นทางผู้บริโภคเองก็ควรตระหนักในเรื่องการเสพสื่อ และต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนที่จะเชื่อข่าวนั้นๆ เพื่อป้องกันการเป็นเหยื่อทางการตลาดครับ” นพ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ สะกิดใจให้ข้อคิดและฝากคำแนะนำทิ้งท้ายให้แก่ผู้บริโภคได้รับไปพิจารณาให้ถี่ถ้วน เพราะใบหน้าก่อนและหลังเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ของคุณ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณในการเสพข้อมูลข่าวสารเป็นสำคัญ
