American Born Chinese (ABC) เป็นคำที่ใช้เรียกชาวจีนรุ่นลูกรุ่นหลานที่เกิดและเติบโตในอเมริกา อันเนื่องมาจากพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายเข้ามาตั้งรกรากใช้ชีวิตในดินแดนแห่งนี้ตั้งแต่พวกเขายังไม่ลืมตาดูโลก ซึ่งแน่นอนว่ารูปลักษณ์ภายนอกของพวกเขามีดีเอ็นเอความเป็นจีนครบถ้วนได้กลายมาเป็นรากฐานของซีรีส์ American Born Chinese ที่ว่าด้วยตำนานเห้งเจียในโลกกายหยาบปี 2023
ABC หรือชาวจีนรุ่นใหม่ที่เติบโตจนกลายเป็นอเมริกันไปเสียแล้ว ดังนั้น ABC เหล่านี้จึงเรียนรู้โลกและใช้ชีวิตระหว่างวัฒนธรรมอเมริกันจากพื้นที่นอกบ้าน และวัฒนธรรมจีนจากพื้นที่ในบ้าน ผลที่ตามมาคือเหล่า ABC ต้องใช้ความพยายามในการปรับตัวให้เข้ากับสังคมนอกบ้านที่พวกเขาใช้ชีวิต ขณะเดียวกันก็ต้องรักษารากเหง้าความเป็นจีนอันเป็นอัตลักษณ์ดั้งเดิมของพวกเขาด้วย ความสับสนด้านอัตลักษณ์และการใช้ชีวิตเป็นหนึ่งในประเด็นที่ผูกติดมากับชาว ABC มาโดยตลอด
ด้วยเหตุนี้เอง ประเด็นการปะทะกันทางความเชื่อและวัฒนธรรมที่แตกต่างระหว่างตะวันออกกับตะวันตก (East Meets West) นำไปสู่ความพยายามในการเรียนรู้ความแตกต่าง การปรับตัวเข้าหากัน และลงเอยกันด้วยความเข้าใจ ถูกนำมาเล่าในภาพยนตร์กระแสหลักอยู่เนือง ๆ (ทั้งที่เล่าผ่านตัวละครที่เป็น ABC และไม่ใช่ ABC) ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Crazy Rich Asian (2018), The Farewell (2019) หรือแม้กระทั่งภาพยนตร์อย่าง Everything Everywhere All at Once (2022) ที่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายจนคว้ารางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมได้สำเร็จ
และปีนี้เอง ค่าย Disney Branded Television สานต่อกระแสเอเชียด้วยการปล่อยซีรีส์แนวแอ็กชันคอเมดี้เรื่อง American Born Chinese ลงสนามแพลตฟอร์ม Disney+ ซึ่งสร้างจากกราฟิกโนเวลชื่อเดียวกัน เขียนโดย Gene Luen-Yang ว่าด้วยเรื่องราวของ จิน หวัง (Jin Wang) วัยรุ่นเชื้อสายจีนที่ต้องปรับตัวเข้ากับเพื่อน ๆ ชาวอเมริกันในโรงเรียนไฮสกูล จนวันหนึ่งเขาได้พบกับ เว่ยเฉิน (Jim Liu) นักเรียนคนใหม่ที่ครูใหญ่ขอให้จินช่วยดูแล เพราะเห็นว่าภูมิหลังที่พวกเขามีร่วมกันคงจะเข้ากันได้ดี และเมื่อจินได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเว่ยเฉินคือลูกชายของ ซุนหงอคง (หรือที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จักในชื่อ เห้งเจีย) ที่ปลอมตัวมายังโลกมนุษย์เพื่อทำภารกิจตามหาคัมภีร์ม้วนที่ 4 (อิหยังน่อ คิดได้?!!?) และจินนี่เองคือกุญแจดอกสำคัญที่ช่วยให้เว่ยเฉินทำภารกิจนี้ได้สำเร็จ เรื่องราวอลหม่านจึงเริ่มต้นขึ้น
จุดเด่นที่น่าสนใจใน American Born Chinese คือการหยิบเอาตำนานจีนที่ทุกคนรู้จักกันดีอย่างไซอิ๋ว มาขยายเรื่องราวเสริมต่อจินตนาการ โดยหยิบโลกแฟนตาซีของจีนผสมผสานเข้ากับโลกสังคมอเมริกันในปัจจุบันได้อย่างน่าติดตาม เราจะได้เห็นจักรวาลไซอิ๋วและเหล่าทวยเทพจีนไม่ว่าจะเป็น ซุนหงอคง ตือโป๊ยก่าย ซัวเจ๋ง จี้กง องค์หญิงพัดเหล็ก ราชามังกร และที่ขาดไม่ได้คือ เจ้าแม่กวนอิม (รับบทโดย มิเชล โหย่ว!) ที่ปลอมตัวมาอยู่ในโลกมนุษย์ สอดแทรกมุกตลกดูสบาย และการรังสรรค์ฉากการต่อสู้แบบหนังจีนกำลังภายในอันตื่นตาตื่นใจ สร้างรสชาติแปลกใหม่แตกต่างไปจากซีรีส์เรื่องอื่น ๆ
อย่างไรก็ดี นอกจากฉากแอ็กชันแฟนตาซีแล้ว American Born Chinese ยังพาเราไปสำรวจประเด็นเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของจินในฐานะ ABC ที่ต้องปรับตัวและดิ้นรนเพื่อให้เป็นที่ยอมรับในหมู่เพื่อน ๆ ทั้งการทำตัวคูลๆ ตามสไตล์เด็กไฮสกูล การพิสูจน์ตัวเองเพื่อให้ได้เข้าทีมฟุตบอลของโรงเรียน ถึงขนาดยอมทำอะไรแผลงๆ เพื่อให้ได้เข้าไปอยู่ในกลุ่ม
นอกจากนี้ซีรีส์ยังขยายปมที่ติดค้างในใจของจินเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของเขาผ่านการที่เขาได้ดูซิตคอมเรื่อง Beyond Repair โดยในเรื่องมีตัวละครชื่อ เฟรดดี้ หว่อง (หรือคุณพี่ คี ฮุย ควน ที่กลับมาเจอมิเชล โหย่ว อีกครั้ง หลังจากรับบทคู่พระ คู่นางใน Everything Everywhere All at Once) ชายหนุ่มชาวเอเชีย รับบทตัวตลกที่สร้างเสียงหัวเราะจากการที่มีอุปกรณ์ในบ้านตกใส่ศีรษะของเขาตามสไตล์ตลกเจ็บตัว ทำให้ เฟรดดี้ หว่อง กลายเป็นมีมสร้างความขบขันในโลกโซเชียล ซึ่งแน่นอนว่าบทบาทของเฟรดดี้ในซิตคอมเรื่องนี้เป็นการสร้างภาพจำของคนเอเชียผ่านสื่อและส่งผลกระทบมายังจินด้วย
ถึงกระนั้นด้วยความเป็นซีรีส์สไตล์ดิสนีย์ ประเด็นนี้ไม่ได้ถูกขยี้หรือผลักให้ตัวละครชาวอเมริกันที่แวดล้อมจินดูเป็นตัวร้ายแต่อย่างใด มิหนำซ้ำ พวกเขากลับมีท่าทีเป็นมิตรและเข้าใจในอัตลักษณ์ของจินด้วยซ้ำ จนในที่สุดจินก็ได้เรียนรู้และปลดล็อกสิ่งที่ค้างคาในใจของเขาและยอมรับในตัวตนที่เขาเป็นจริง ๆ
ในส่วนแง่มุมเชิงวัฒนธรรมนั้น American Born Chinese ไม่ได้นำเสนอการปะทะกันของสองวัฒนธรรมที่แตกต่างกันจนก่อให้เกิดปัญหา แต่เป็นเรื่องของหยิบวัฒนธรรมและความเชื่อฝั่งตะวันออกผสมผสานไปกับวัฒนธรรมความเชื่อฝั่งตะวันตกได้อย่างกลมกลืนและไม่มีท่าทียกตนข่มท่านแต่อย่างใด
อันเป็นแนวทางที่ควรจะเป็นในโลกแห่งความหลากหลายใบนี้
Words: Thanapol Chaowanich