นักแสดงดาวรุ่งอารมณ์ดีสัญชาติไทย – เบลเยียม โทนี่ – อันโทนี่ บุยเซอเรท์ ผู้แจ้งเกิดจากบทพระเอก Y2K วัยแรกรุ่นในภาพยนตร์ ‘เธอกับฉันกับฉัน’ ก่อนขยับสู่คาแรกเตอร์เด็กหนุ่มมัธยมปลายในผลงานล่าสุด ‘เพื่อน(ไม่)สนิท’ ที่พร้อมเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ปลาย ณ บัดนาว
จากที่ LIPS เคยประเดิมสัมภาษณ์โทนี่เมื่อต้นปี ก่อนที่โลกจะรู้ว่าเขาเป็นพระเอกหนังแล้วหนา กาลเวลาผ่านไป…ไม่กี่เดือน สิ่งใหม่ในชีวิตของชายวัยยังแตะเลข 2 คือการเป็นเฟรชชี่ปี 1 ในสาขาวิชาเอกและมหาวิทยาลัยเดียวกันกับใบปอ (ธิติยา จิระพรศิลป์ – นางเอกภาพยนตร์ ‘เธอกับฉันกับฉัน’)
“ด้วยความที่ใบปอเอนท์ติดแล้ว (วิชาเอกการแสดงและกำกับการแสดงภาพยนตร์ วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ) ผมก็เลยถามรายละเอียดกับเขา และโดยส่วนตัวผมก็อยากเรียนที่มศว. อยู่แล้ว เพราะรู้มาว่ามีศิลปินและผู้กำกับหลายคนเคยเรียนที่นี่ ยิ่งเราทำอาชีพด้านนี้อยู่แล้ว วิชาเอกที่เลือกเรียนก็น่าจะเสริมให้เราเก่งขึ้นได้”
LIPS และโทนี่กลับมาเจอกันอีกครั้ง ในวันที่เขาเป็นนักแสดงไทยคนเดียวกระมัง ที่เป็นพระเอกหนังหัวปี-ท้ายปี และในดีกรีความกวนยวนยีที่เพิ่มขึ้น จนพีอาร์ต้องส่งกระแสจิต เบาได้เบา
LIPS: ภาพยนตร์หรือซีรีส์เรื่องไหนเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้ฝันอยากเป็นผู้กำกับตั้งแต่ก่อนเข้าวงการ
โทนี่: เมื่อก่อนผมไม่ค่อยได้ดูหนังแนวที่หลากหลาย จนกระทั่งได้ดูหนังเรื่อง CALL ME BY YOUR NAME ทำให้เราได้รู้จักกับความสัมพันธ์ของ LGBTQ+ มากขึ้น แต่สิ่งที่ผมประทับใจเป็นพิเศษก็คือโทนสีของหนัง ภาพที่ไม่จำเป็นต้องชัดไปเสียทั้งหมด ฉากที่ไม่ต้องเซ็ตอะไรให้เป็นระเบียบมากมาย แล้วก็ความเป็นธรรมชาติแบบบ้านๆ ที่ผมรู้สึกว่าสิ่งนี้เชื่อมโยงกับเราได้ง่าย เป็นหนังเรื่องแรกที่จุดประกายให้ผมอยากทำงานด้านการกำกับ ถ้าเราได้ทำหนังโทนนี้ อารมณ์นี้ ก็น่าจะแปลกใหม่ดี
LIPS: เล่นหนังเรื่องแรก ‘เธอกับฉันกับฉัน’ ก็ได้เป็นพระเอกของ GDH เลย ซึ่งโทนี่เป็นเอฟซีตัวยงและติดตามผลงานของค่ายนี้มาเกือบทุกเรื่อง
โทนี่: ก่อนหน้านี้เป็นแฟนหนังของ GDH ในฐานะคนดูมาตลอด จนวันหนึ่งได้มีโอกาสเข้าไปแคสต์บทหนังของที่นี่ก็รู้สึกตื่นเต้นและแอบคิดในใจว่าอยากเป็นพระเอกของค่ายนี้จัง นั่นคือเป้าหมายของเรา จริงๆ แค่เห็นบทผมก็สนใจแล้ว เพราะไม่ใช่ว่าเราจะได้รับโอกาสให้เล่นบทคนอีสานบ่อยๆ แล้วยิ่งเป็นหนังของ GDH ด้วย ผมยิ่งรู้สึกว่าเราต้องทำให้ดี ต้องเอาบทนี้มาให้ได้
ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะแม่ทำบุญมาดีครับ แม่ทำบุญบ่อย ส่วนผมก็ดีใจมากที่ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ที่เห็นศักยภาพเรา รู้สึกว่าการที่เราตั้งใจเรียนการแสดงมาก่อนหน้านี้ไม่เสียเปล่าเลยจริงๆ
LIPS: การเข้ามาเป็นนักเรียนการแสดงมีจุดเริ่มต้นอย่างไร
โทนี่: ผมเริ่มจากสายเดินแบบครับ ประกวดเดินแบบครั้งแรกตอนอายุประมาณ 14 – 15 ก็ได้ที่หนึ่งเลย แหม่..ดูโม้ไปมั้ยครับ (ยิ้มกริ่ม) หลังจากนั้นผมก็ถูกส่งไปเรียนการแสดง ได้ถ่ายโฆษณาบ้าง จนได้เข้ามาเป็นนักเรียนการแสดงในสังกัดนาดาว บางกอก ได้เรียนแอ็กติ้งแบบเข้มข้นเลยครับ ถือว่าช่วงนั้นได้อะไรมาเยอะมาก
LIPS: บท ‘หมาก’ (พระเอกในเรื่องเธอกับฉันกับฉัน) ไกลตัวมากขนาดไหน แล้วตัวตนจริงๆ ของโทนี่เป็นอย่างไร
โทนี่: ไกลชนิดที่ว่า ‘ตรงข้าม’ ทุกตรงเลยครับ ทั้งบุคลิก ภาษา การวางตัว ฯลฯ สิ่งที่เหมือนกันอย่างเดียวคือความน่ารักนี่แหละ (พูดพลางส่งนัยน์ตาทะเล้น) ส่วนเรื่องความขี้เก๊กผมขอให้คนอ่านลองวิเคราะห์กันดูนะครับว่าระหว่างผมกับหมาก…ใครขี้เก๊กกว่ากัน
LIPS: หากวันนี้มองย้อนกลับไป ตัวละคร ‘หมาก’ ให้อะไรกับโทนี่บ้าง
โทนี่: เป็นบทหนึ่งที่ผมไม่คิดว่าตัวเองจะเล่นได้นะ หมายถึงว่าไม่น่าจะมีความสามารถในการถ่ายทอดความเป็นเด็กอีสานได้ เพราะมันไกลตัวเรามากๆ ตอนแรก (ช่วงเวิร์กช็อป) ผมก็แสดงไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ จนเขาต้องส่งผมไปอยู่นครพนมช่วงหนึ่ง ถึงค่อยๆ เข้าใจความเป็นเด็กอีสาน ผมว่าวิธีนี้เวิร์กมาก ช่วยพัฒนาการแสดงของผมขึ้นเยอะเลย
เมื่อก่อนผมมีความเข้าใจเกี่ยวกับการแอ็กติ้งว่าแค่เล่นให้โฟลว์ แสดงไม่แข็ง ก็ถือว่าโอเคแล้ว แต่พอเราต้องมาทำงานตรงนี้จริงๆ มาสวมบท ‘หมาก’ ทำให้รู้เลยว่าการที่จะเป็นนักแสดงที่ดีได้นั้นมันมีรายละเอียดที่ลึกซึ้งไปกว่านั้นมาก
LIPS: แสดงว่าการเดินทางไปนครพนมเป็นจุดปลดล็อกสำคัญด้านการแสดง
โทนี่: ใช่เลยครับ เป็นหนึ่งในการปลดล็อกของผม แต่จังหวะที่รู้สึกว่าตัวเองปลดล็อกได้แล้วจริงๆ คือวันแรกที่เริ่มถ่ายหนัง รู้สึกว่าเราไม่ได้กั๊กไว้เหมือนตอนแสดงในห้องเวิร์คช็อปแล้ว เราเข้าใจยังไง เราใส่ไปเต็มที่เลย ซึ่งมันเวิร์กจริงๆ แล้วทุกคนก็แฮปปี้
LIPS: ฉากแรกที่ถ่ายทำในวันนั้นคือซีนไหน
โทนี่: ซีนที่นั่งเล่นกีตาร์อยู่หน้าห้องสอบครับ ซึ่งก็เป็นซีนแรกที่ทุกคนเห็นผมในหนัง อย่างหนึ่งที่ต้องขอบคุณคือเพื่อนๆ ที่เล่นเป็นเอ็กซ์ตร้าครับ ตอนนั้นผมค่อนข้างตื่นเต้นเพราะเป็นการถ่ายหนังซีนแรก แต่เพื่อนๆ คือฮาแบบไร้สาระมากจนผมขำไปด้วย ทำให้เชื่อว่าเราเป็นเด็ก ม.ต้น จริงๆ ถือเป็นตัวช่วยในการปลดล็อกการแสดงของผมเลย
LIPS: ในชีวิตจริง โทนี่จะเทใจให้ ‘ยู’ สาวหวาน หรือ ‘มี’ สายคูล (นางเอกฝาแฝดในเรื่องเธอกับฉันกับฉัน)
โทนี่: อ่า…า (นิ่งคิดนาน) แบบ ‘มี’ ก็ดีนะครับ แต่ผมแพ้ทางคนแบบ ‘ยู’ มากกว่า เพราะเราชอบสายน่ารัก เราชอบให้ผู้หญิงหึง (หัวเราะ) คือ ‘ยู’ เขาดูหึงแล้วก็หวงเราดีครับ ในขณะที่ ‘มี’ จะปล่อยเรามากกว่า
LIPS: จาก ‘หมาก’ เด็กลอกข้อสอบเพื่อนสู่ ‘เต้’ นักเรียนหัวกะทิในซีรีส์ THANK YOU TEACHER ออกอากาศทาง TRUE ID
โทนี่: บท ‘เต้’ ใกล้ตัวผมกว่าบท ‘หมาก’ ครับ คือผมมีความมั่นใจเหมือนเต้เลย แต่เต้เขาเป็นคนที่ทำทุกอย่างเพื่อพ่อ ให้พ่อมากกว่าทุกคน ต่างจากตัวตนของผมที่ไม่ได้เสียสละขนาดนั้น ผมรักตัวเองมากพอที่จะทำอะไรให้ตัวเองมีความสุขก่อนเป็นอันดับแรก
LIPS: โทนี่เป็นนักแสดงนำในผลงานแนว COMING OF AGE อย่างต่อเนื่อง ในชีวิตจริงรู้สึกถึงการก้าวย่างผ่านวัยของตนแล้วหรือยัง และเกิดขึ้นในช่วงไหน
โทนี่: ตอนเห็นตารางงานนี่แหละครับ รู้สึกว่า ‘เออ..เราโตขึ้นแล้วล่ะ’ (หัวเราะ) เราไม่สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนเด็กทั่วไปแล้ว เป็นช่วงชีวิตที่ต้องมีความรับผิดชอบขึ้นมาก
LIPS: ก่อนหน้านี้ โทนี่เป็นคนที่มักจะตั้งเป้าหมายให้ชีวิต หรือด้นสดตามสถานการณ์
โทนี่: เป็นคนชิลๆ โฟลว์ๆ ครับ ชอบสิ่งไหนก็ทำสิ่งนั้น ไม่ถึงกับคร่ำเคร่งว่าอยากเป็นอะไร แต่เป้าหมายที่ผมมีมาตลอดก็คือความคิดที่ว่าเราน่าจะเป็นนักแสดงนี่แหละครับ แล้วก็คิดว่าน่าจะเป็นได้ เพราะแม่อวยบ่อยว่าผมดูเหมาะกับวงการนี้ (ทำหน้าเป็น) แม่ผมชอบ ‘อีมินโฮ’ พระเอกเรื่อง THE HEIRS มาก ผมไม่เคยเห็นแม่เขินใคร ยกเว้นตอนนั่งดูอีมินโฮ แม่เลยอยากให้ผมเป็นนักแสดงแบบอีมินโฮมาโดยตลอด (ยิ้ม)
LIPS: หนังเรื่องใหม่ ‘เพื่อน(ไม่)สนิท’ วางแผนเข้าฉายตุลาคม 2566 นี้
โทนี่: ใช่ครับ ผมรับบท ‘เป้’ เด็กที่ไม่เก่งด้านไหนเลย แต่ว่าต้องทำหนังสั้นเพื่อที่จะได้เรียนต่อมหาวิทยาลัย ผมยังเล่าอะไรมากไม่ได้ พูดได้แค่ว่าเป็นบทที่ช่วยชีวิตผมมากๆ
‘หมาก’ เป็นตัวละครที่ผมรัก แต่ผมยังไม่รู้สึกถึงความเชื่อมโยงกับตัวเองขนาดนั้น ในขณะที่ ‘เป้’ เป็นตัวละครที่ผมทั้งรักแล้วก็รีเลตกับเขา เราเหมือนกันตรงที่ภายนอกดูเป็นคนชิลๆ แต่เวลาที่จะต้องทำอะไรจริงจังก็จะพยายามหาหนทางเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้ ผมสามารถเข้าใจได้จริงๆ ว่าทำไมเป้เลือกที่จะทำแบบนั้นแบบนี้ ผมชอบหนังเรื่องนี้มากๆ อยากให้ทุกคนรอติดตามชมกันครับ
LIPS: โต้ง – บรรจง ปิสัญธนะกูล และบาส – นัฐวุฒิ พูนพิริยะ เป็น 2 ผู้กำกับในดวงใจของโทนี่ตั้งแต่ก่อนเข้าวงการ รู้สึกอย่างไรที่ได้เล่นหนังของไอดอลครบแล้ว โดยเฉพาะ ‘เพื่อน(ไม่)สนิท’ ที่บาสนั่งแท่นโปรดิวเซอร์
โทนี่: ความรู้สึกแรกคือตกใจ ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันครับ แต่อาจจะเป็นเพราะผมตรงกับคาแรกเตอร์ที่เขามองหาอยู่พอดี แล้วพี่เขาก็เชื่อในฝีมือของผมด้วย
แรกๆ ผมกลัวนิดนึงตอนที่รู้ว่าได้เล่นหนังของพี่บาส เพราะผมเคยดูเบื้องหลัง ‘ฉลาดเกมส์โกง’ ที่พี่บาสเป็นผู้กำกับ มีซีนหนึ่งที่พี่ออกแบบ (ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง) กำลังจะโดนครูจับได้ แต่เหมือนยังไม่ตรงใจพี่บาสมั้ง เขาเลยตบโต๊ะ ผมกลัวเจอแบบนั้น แต่พอทำงานด้วยกันจริงๆ ไม่เคยเห็นเขาดุเลย เป็นผมที่โดนแกล้งมากกว่า (หัวเราะ)
พี่บาสเป็นมืออาชีพมากๆ ครับ มากองถ่ายเกือบทุกวัน เขาเข้าใจตัวละครอย่างลึกซึ้ง ทำให้ผมเข้าใจ ‘เป้’ ได้มากขึ้น แล้วก็ช่วยให้แต่ละซีนออกมาดียิ่งขึ้นไปอีก
LIPS: ดูทรงแล้วโทนี่น่าจะแต้มบุญสูง ถ้าแลกพอยต์เองได้ เรื่องต่อไปขอให้ได้เล่นหนังหรือซีรีส์ของใคร
โทนี่: ผมขอใช้แต้มบุญให้ ‘เพื่อน(ไม่)สนิท’ ไปถึงร้อยล้านก่อนครับ
LIPS: ‘เพื่อน(ไม่)สนิท’ เป็นการกลับมาเจอกันอีกครั้งของโทนี่ & ใบปอ แต่เส้นเรื่องเป็นเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนวัยมัธยมปลาย
โทนี่: ด้วยความที่ชีวิตจริง เราทั้งคู่สนิทกันอยู่แล้ว การกลับมาเจอกันในบทเพื่อนร่วมก๊วนเลยไม่ใช่อะไรที่ไกลตัวเท่าตอนที่ใบปอเล่นเป็นยูกับมี หรือตอนที่ผมเล่นเป็นหมาก
LIPS: เล่าความประทับใจของการถ่ายทำหนัง ‘เพื่อน(ไม่)สนิท’ สักนิด
โทนี่: ผมประทับใจผู้กำกับมาก (อัตตา เหมวดี) พี่เขาดูน่ารัก แบ๊วๆ แต่ถึงเวลาทำงานเขาเก่งมาก เป็นคนที่มีพรสวรรค์แล้วก็เก็บรายละเอียดการแสดงได้ดีมากจนผมคาดไม่ถึงเลย สมมติผมต้องเล่นอารมณ์แฮปปี้ เขาก็จะมีไอเดียใหม่ๆ ออกมาตลอดว่าอารมณ์แฮปปี้แบบไหนมันถึงจะเวิร์ก
LIPS: ไม่รู้สึกหงุดหงิดกับการที่ต้องปรับเปลี่ยนหรือทดลองอะไรใหม่ๆ หน้างาน
โทนี่: ไม่เลยครับ เพราะตัวละครผมเป็นคนเดินเรื่อง เราต้องทำให้ดีที่สุด พยายามให้การแสดงทุกเทคออกมาเป็นอย่างที่พี่อัตตาต้องการ ถึงต้องเหนื่อย แต่ผมเชื่อว่ามันจะคุ้ม เพราะผมเชื่อในฝีมือของพี่เขา
LIPS: ฉากที่ชอบเป็นการส่วนตัวใน ‘เพื่อน(ไม่)สนิท’
โทนี่: ซีนบนรถตู้ที่เล่นกับจั๊มพ์ (พิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐ) ซีนนี้ท้าทายตรงที่เล่นได้แค่ 1 – 2 เทคเท่านั้นครับ เพราะเวลาไม่พอ แต่พี่อัตตาบอกว่าผมเล่นได้ชัดมากแล้ว ไม่ว่าสายตา หรือการแสดงออกทางสีหน้า คือต้องบอกก่อนว่าผมไม่เก่งซีนที่ต้องพูดน้อย เพราะถ้าพูดน้อยก็ต้องใช้สีหน้าเยอะ แต่ซีนนี้ผมเองก็รู้สึกว่าเราแสดงได้ชัดนะ คนดูน่าจะเข้าถึงความรู้สึกของ ‘เป้’ ได้ทันที
LIPS: ตอนนี้ GDH มีกิจกรรมชวนถ่ายทอดความรู้สึกถึงเพื่อนสารพัดรูปแบบที่ผ่านเข้ามาในชีวิต โทนี่อยากถ่ายทอดความในใจถึงเพื่อนที่เป็นความสัมพันธ์แบบไหน
โทนี่: เพื่อนสนิทที่สุดที่รู้จักกันมา 4 – 5 ปีแล้วกันครับ อยากบอกว่าขอบคุณที่อยู่กับเรามาตลอดในทุกๆ สถานการณ์ เราแมนๆ ไม่พูดเยอะแล้วกัน (ชิงตัดจบแบบเขินๆ)
LIPS: ที่มาของความหลงใหลในเพลงเก่าของบรรดาศิลปินยุค 40 – 70 อาทิ แฟรงค์ ซินาตรา, ดิอิมพอสซิเบิ้ล ฯลฯ
โทนี่: คุณแม่ครับ ชอบเปิดเวลาขับรถ ผมเลยซึมซับเพลงเก่ามาตั้งแต่เด็ก แต่พอเราโตขึ้น เราอาศัยแอพ SPOTIFY ที่ทำให้ได้เจอกับเพลงเก่าๆ เพลงดีๆ มากขึ้นเรื่อยๆ
LIPS: นอกจากการแสดง มีอะไรที่ถือได้ว่าเป็นแพสชั่นของโทนี่ในเวลานี้
โทนี่: เล่นฟิตเนสครับ ผมอยากตัวใหญ่ขึ้น อยากดูดีขึ้นน่ะครับ รู้สึกว่าเราผอมมาโดยตลอด สาเหตุเกิดจากผมดูซีรีส์เกาหลี NEVERTHELESS แล้วเห็น ‘ซงคัง’ (พระเอก) เขาหุ่นดีมาก รู้สึกว่าฮอตดี เลยอยากเปลี่ยนจากคิ้วท์บอยเป็นหนุ่มโซฮ็อตกับเขาบ้าง ตอนนี้ผมเพิ่งเริ่มก็เลยเล่นทุกส่วนก่อน เทคนิคคือเล่นไป ดูรูปซงคังไป (น้ำเสียงทีเล่นทีจริง) เราจะมีแพสชั่นครับ แล้วก็พยายามกินให้เยอะขึ้น เพราะปกติผมกินน้อย
LIPS: งั้นผลงานในอนาคตที่น่าจะเหมาะกับโทนี่ในหุ่นใหม่สุดกร้าวใจควรเป็นเรื่องอะไร
โทนี่: คู่กรรมครับ ผมอยากเล่นเรื่องนี้มาก เผื่อคู่กรรมเวอร์ชั่นหน้าอยากได้นักแสดงมีกล้าม บอกเลยว่าผมเล่นคู่กับใครก็ได้นะ…จ้างผมหน่อย (ยิ้ม)
Words: Sasi Akkomee
Photos: Tara Patumnakul
Jewelry & Watch: Cartier
Style: Chris Kanisorn
Nails: In the Garden Nail Spa
MakeUp: Kwankhao Sumalee, Praeskow Sangchai
Hair: GUIDE, Worawalan Permkitpaisarn