‘โทนี่-อันโทนี่ บุยเซอเรท์’ พระเอกใหม่ ‘เธอกับฉันกับฉัน’ จาก GDH

ก่อนจะได้ชมผลงานการแสดงเต็มตัวครั้งแรกของ ‘โทนี่-อันโทนี่ บุยเซอเรท์’ ใน ‘เธอกับฉันกับฉัน’ ภาพยนตร์เรื่องแรกของปี 2023 จากค่ายจีดีเอช เรื่องราวของฝาแฝดซึ่งเคยกลมกลืนกันดั่งวงกลม 2 วงที่แนบสนิท ก่อนที่ค่อยๆ เคลื่อนออกจากกันเพราะการปรากฏตัวของชายคนหนึ่ง…ที่จะเป็นใครไปได้นอกจากโทนี่ ผู้มีอานุภาพแยกฝาแฝดออกจากกันได้

LIPS: สวัสดี พระเอกใหม่ เรียกว่าพระเอกได้ไหม หรือเรียกว่าตัวเอก หรือให้เรียกอย่างไรดี

โทนี่: พระเอกครับ 

LIPS: พูดเต็มปากเต็มคำ

โทนี่:  พูดได้แล้ว (หัวเราะ)

LIPS: แล้วเข้ามาทำงานแสดงในหนังเรื่อง ‘เธอกับฉันกับฉัน’ ของจีดีเอชได้อย่างไร 

โทนี่: คือตอนแรกผมอยู่นาดาว แล้วนาดาวก็ปิดตัวไป

LIPS: เพราะเรา…เข้าไป

โทนี่: ไม่สิ ไม่ใช่ (หัวเราะ) ผมเข้าไปไม่กี่เดือน ได้เรียนการแสดงนิดหน่อย แล้วนาดาวก็ปิดตัว ความฝันของผมคือได้เล่นหนังจีดีเอชและนาดาว แต่นาดาวปิดไปก่อน เอาแล้วไง เอาไงต่อดี อยู่ดีๆก็มีหนังเรื่องนี้ของจีดีเอชเรียกให้ไปแคสติ้ง อย่างน้อยถ้าได้ เราก็ได้ร้อย ถ้าไม่ได้ เราก็ไม่ได้เสียอะไร สุดท้ายกว่าจะได้บทนี้มาก็ไปแคสต์อยู่ 3 รอบ รอบแรกผมยังไม่ต้องพูดอีสาน ผมก็พูดภาษากลางไปก่อน จนมารอบหลังๆ ผมเพิ่งรู้ว่าต้องพูดอีสาน…ก็…นะ เป็นนักแสดงไทยก็ต้องพูดภาษาไทยให้เก่งๆ ผมพูดภาษาไทยชัดมาตลอด แต่เขียนและอ่านไม่ค่อยคล่อง

(เป่าปาก) มันถึงเวลาที่เราคิดว่าต้องทำให้ดีที่สุด แต่มีบางช่วงที่เวิร์กช็อปอยู่แล้วเราคิดว่ามีโอกาสไหมที่เขาจะเปลี่ยนตัวหลังจากที่คอนเฟิร์มนักแสดงไปแล้ว มันยากมาก แต่สุดท้ายเขาก็พยายามช่วยเราให้มากที่สุด มีครูมาช่วยสอนพูดอีสาน เขาเป็นทีมงานที่พูดอีสานได้ก็เลยคอยช่วยเรา

LIPS: ผู้กำกับ (วรรณแวว และ แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์) บอกว่าต้องปรับบทเพื่อโทนี่โดยเฉพาะ 

โทนี่: เขาช่วยเราเยอะมากๆเลยครับ เริ่มจากส่งผมไปอยู่นครพนม…

LIPS: จากเด็กเมืองขี่ม้าแล้วต้องไปอยู่ต่างจังหวัดงมหอยในคลอง

โทนี่: โอ้ ใช่ครับ ผมไม่ค่อยอยากเข้าไปคุยกับแก๊งที่เขาสนิทกันอยู่แล้ว แต่เขาเปิดรับเรามากๆ เราไปแล้วรู้สึกว่าไม่อยากกลับกรุงเทพฯ เลย

LIPS: ไม่เคยไปนครพนมมาก่อน แล้วรู้ไหมว่าประเทศไทยมีจังหวัดชื่อนครพนม

โทนี่: ตอนแรกไม่รู้ครับ นครนายก นครพนมอะไรพวกนี้ ผมจะไม่ค่อยรู้ ผมจะรู้จักแค่ชะอำ เพชรบุรี หัวหิน กรุงเทพฯ

LIPS: แผนที่ประเทศไทยของโทนี่ใหญ่เชียว รู้จักจังหวัดในรัศมีไม่เกิน 400 กิโลเมตร แล้วไปทำอะไรอีกที่นครพนม 

โทนี่: คือตัวละครผมชื่อ ‘หมาก’ ผมก็ไปหัดขี่มอเตอร์ไซค์ ได้แผลมาเป็นที่ระลึกที่ขาด้วย แต่พอขี่ได้แล้วมันสนุกนะครับ ผมแว้นไม่หยุดเลย แล้วก็ไปสังเกตคนที่นั่นว่าเขาทำอะไรกัน เรื่องการกิน การพูด การใช้ชีวิต

LIPS: ผู้กำกับเขียนไว้ในบทค่อนข้างละเอียดว่าตัวสูง หลังค่อมนิดๆ 

โทนี่: (รีบพูด) ผมเป็นคนหลังค่อมนิดๆอยู่แล้ว

LIPS: คือผู้กำกับเลือกเราที่หลัง ไม่ได้ดูอย่างอื่นเลย ประเด็นคือจะถามว่าหมากกับโทนี่ต่างกันอย่างไรบ้าง

โทนี่: ทุกวันนี้ผมยังหาความเหมือนกัน…ไม่ได้เลยครับ ไม่เหมือนกันเลย นิสัย การเข้าหาคนอื่น การพูดจา เราเป็นคนดีแต่เราไม่ได้ดีขนาดนั้น แต่หมากเป็นคนดีมาก เฟรนด์ลี่ มีน้ำใจ ช่วยเหลือคนรอบข้าง ซึ่งไม่ค่อยใกล้ตัวเราเท่าไร แต่เราต้องสำรวจดูก่อนจะเข้าหาใคร มีความ introvert และระวังตัวมาก เพราะเคยมีจุดหนึ่งที่เราอยู่โรงเรียนแล้วไม่ได้มีความสุขกับเพื่อนขนาดนั้น เราเลยต้องคิดก่อนจะเข้าหาใคร

LIPS: ไปอยู่นครพนมนานไหม

โทนี่: ผมรู้สึกว่านานมากเพราะผมไปตั้งแต่เวิร์กช็อป แต่จริงๆแล้วผมไปแค่เดือนกว่าเอง แต่รู้สึกว่าน้านนาน น่าจะเป็นช่วงปิดเทอมของใบปอ (ธิติยา จิระพรศิลป์) แต่ผมไม่ได้เรียนในโรงเรียนแล้ว ผมออกมาสอบเทียบ GED (การสอบเทียบวุฒิม.ปลายในระบบอเมริกัน)

LIPS: นางเอกของเรื่องเป็นฝาแฝดชื่อยูกับมี แต่ใช้ใบปอแสดงคนเดียว เวลาเข้าฉาก เราแยกออกจริงๆไหมว่านี่คือยู นี่คือมี

โทนี่: ผมค่อนข้างอยู่หลังกล้องเยอะ เขาจะตะโกนว่าฉากนี้ยูนะ เอ้า ใบปอ เปลี่ยนเป็นมี เราเลยรู้ แต่เวลาแสดงเราก็แยกออกครับ จะมีความแตกต่างอยู่ หมากเองก็ปฏิบัติกับยูกับมีไม่เหมือนกัน กับยู-หมากจะเกรงใจมากกว่า กับมี-หมากจะกล้าเล่นขึ้นมานิดหนึ่ง นอกจากใบปอที่ต้องแสดงเป็นฝาแฝดยู-มีให้ต่างกันแล้ว ตัวเราก็ต้องโต้ตอบกลับในแบบที่ต่างกันด้วย

LIPS: พอเราเข้ามาเป็นนักแสดงเอง ความคิดที่เคยมีต่ออาชีพนี้เปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

โทนี่: ที่ผ่านมาเราเห็นว่ามีแต่คนหน้าตาดี แต่พอเราเข้ามาทำเอง เรารู้เลยว่ากว่าจะมาเป็นตัวละครได้ มันยุ่งยากมีหลายขั้นตอนมากๆ การเวิร์กช็อปเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดแต่ว่าเป็นขั้นตอนที่คนดูจะไม่ได้เห็น เราต้องฝึกการแสดง ฝึกพูดอีสาน หัดขี่มอเตอร์ไซค์ คนอื่นไม่เห็น แต่เป็นจุดที่เราเจอกับตัวเองและรู้ว่าไม่ง่ายเลย

LIPS: มีความทรงจำตราตรึงอะไรกับการทำหนังเรื่องนี้บ้าง

โทนี่: ผมเป็นคนที่ไม่เคยรู้สึกเศร้า ตั้งแต่เวิร์กช็อปแล้วที่ผมเล่นฉากเศร้าๆไม่ได้เลย แต่มีอยู่ซีนหนึ่งที่คนดูจะรักตัวละครนี้หรือเปล่าอยู่ที่ซีนนี้ ตอนแรกผมไม่ค่อยมั่นใจ แต่ตอนแสดงเรากลับทำได้เฉยเลย ประทับใจว่ามันคือ MAGIC MOMENT ณ ขณะนั้นเราไม่ได้แสดง เราเป็นหมากจริงๆ ผมไม่อยากสปอยล์ แล้วก็ชอบฉากขี่มอเตอร์ไซค์ ทิวทัศน์รอบๆสวยมาก เราขี่มอเตอร์ไซค์ไปกับคนที่เราสนิทด้วยก็ยิ่งเป็นโมเมนต์ที่รู้สึกดีและเป็นการแสดงที่ชิลมากๆ เราแฮปปี้กับโมเมนต์นั้นจริงๆจนเราไม่ต้องแสดง

LIPS: หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องวัยในช่วง COMING-OF-AGE แล้วตัวโทนี่คิดว่าเรายังอยู่ในช่วงเวลานั้นหรือว่าเราผ่านเลยมันมาแล้ว 

โทนี่: น่าจะเลยมาแล้ว ของผมน่าจะเป็นช่วงม.ต้น คำว่า COMING-OF-AGE ของผมน่าจะหมายถึงการผ่านช่วงวัยการเติบโต ตอนเข้ามาวงการน่าจะเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่เราต้องเติบโตขึ้น แต่ก่อนเราเป็นเด็กดื้อคนหนึ่ง ไม่ค่อยฟัง พอมาทำงานเรารู้สึกว่าเราต้องฟังคนอื่นมากขึ้นเพื่อจะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีคนหนึ่งได้

พอมาทำหนังจีดีเอช มันทำให้ผมรักการแสดง ผมอยากแสดงหนังไปเรื่อยๆ แต่ไม่รู้ว่าจะมีอีกหรือเปล่า จีดีเอชเป็นค่ายที่โหดมาก การแสดงต้องใช่ต้องได้จริงๆ ไม่อย่างนั้นเขาไม่ยอมปล่อยผ่าน ตอนแรกผมไม่อยากเข้ามหาวิทยาลัย แต่พอคุยกับแม่ เขาบอกว่าเข้าหน่อยก็ดี ในอนาคตเผื่อผมรีไทร์จากงานแสดงแล้ว ผมอยากเป็นผู้กำกับ ฉะนั้นสุดท้ายผมก็ต้องเรียนหนังอยู่ดี อย่างเวลาเห็นพี่วรรณกับพี่แววกำกับ เขาเป็นฝาแฝด ทำหนังเกี่ยวกับฝาแฝด เรารู้สึกว่าเขาแสดงถึงความเป็นฝาแฝดได้ดีมากๆ มีบางจุดในชีวิตเราที่น่าสนใจที่เราอยากแสดงให้คนอื่นได้ดูบ้าง คำว่ามหาวิทยาลัยฟังดูน่ากลัว มันต้องมีความรับผิดชอบ เป็นคนเฉไฉด้วยบางครั้ง

LIPS: ตอนนี้หมากยังอยู่ในตัวโทนี่อยู่ไหม

โทนี่: หมากหายไปแล้วครับ ผมเอาตัวละครหมากเข้ามายากมากและเอาเขาออกไปง่ายมาก เขาเป็นตัวละครที่ผมไม่อยากเป็น แต่เป็นตัวละครที่ผมชอบดูและอยากมีเพื่อนแบบนี้ ผมไม่อยากเป็นตัวละครเพราะเขาตรงข้ามกับเราทุกจุด เราเป็นเหมือนเขาไม่ได้  แต่ด้วยความเป็นนักแสดง เราต้องเป็นเขาให้ได้ แต่เราอยากมีเพื่อนแบบนี้ เป็นคนดีมีน้ำใจและเป็นคนน่าเอ็นดู

LIPS: แล้วหมากกลายเป็นใครหรือเป็นอะไรในชีวิต

โทนี่: ผมมองว่าเขาคือบทเรียนที่ทำให้ผมกล้าลองอะไรหลายอย่างมากๆ มีครั้งหนึ่งสมัยอยู่โรงเรียนเก่าของผม เป็นโรงเรียนฝรั่งเศสในเมืองไทย ผมไปพายเรือกับเพื่อนแล้วผมตกน้ำ สาหร่ายหรือตะไคร่น้ำใต้น้ำม้วนพันขา เป็นครั้งแรกที่เรารู้สึกว่าเราตายแน่ เราเลยกลัวมาก แล้วหนังเรื่องนี้ต้องมีฉากพายเรือในบึงบัว ต้องอยู่ในน้ำด้วย แต่หนังเรื่องนี้ผมก้าวข้ามความกลัวนั้นมาได้ แล้วก็ต้องทำอะไรหลายๆอย่างที่ไม่เคยทำ โดดน้ำ เก็บหอย ขี่มอเตอร์ไซค์ กินเผ็ด ตอนกลับจากนครพนมแรกๆ นี่สิวเต็มหน้า ตัวดำเลย ตอนนี้กลับมาเป็นโทนี่คนเดิมแล้ว (หัวเราะ)

LIPS: จากที่โทนี่แสดงมาเอง คิดว่าหนังเรื่องนี้จะออกมาเป็นอย่างไร มันดีแหละหรือว่าเขิน ไม่กล้าดูตัวเอง 

โทนี่: เอาตรงๆ ผมเขินมากๆ แต่จากฟีดแบ็กเขาว่าดี พี่โต้ง (บรรจง ปิสัญธนะกูล-โปรดิวเซอร์ของหนัง) ก็บอกว่าใช้ได้เลย ซึ่งเขาเป็นคนไม่ค่อยชมใคร ผมเชื่อว่ามันต้องดี แม้ว่าในใจเราจะเขินตัวเองมาก ไม่อยากให้ใครไปดูผมเลย นี่ก็ไม่กล้าชวนเพื่อนไปดูเลยนะ แต่ก็ช่วยไปดูกันเถอะ หนังเรื่องนี้ถ่ายภาพสวยมาก มีรายละเอียดหลายๆอย่างที่ต้องไปดูในโรง ผมขอชวนตรงนี้เลยนะครับ

‘เธอกับฉันกับฉัน’ เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 9 กุมภาพันธ์นี้

ตัวอย่างภาพยนตร์ ’เธอกับฉันกับฉัน’

ประวัติฉบับย่อของ โทนี่-อันโทนี่ บุยเซอเรท์

1. โทนี่เป็นลูกครึ่งไทย-เบลเยียม เกิดและโตที่เมืองบรัสเซลล์ ก่อนจะย้ายมาอยู่แผ่นดินเกิดของแม่ที่เมืองไทยตอน 3 ขวบ 
2. ชื่อของโทนี่คือ ANTHONY BUISSERET ซึ่งอ่านว่า อันโทนี่ หรือจะออกเสียงตามภาษาฝรั่งเศสตามโทนี่ว่า อองโตนี บุยส์เซอเรท์ 
3. ในวัย 18 ปี โทนี่สูง 183 เซนติเมตร แม้พ่อแม่จะตัวเล็ก แต่เขากล่าวว่าสูงมาได้ขนาดนี้เพราะตอนเด็กว่ายน้ำหนักมาก
4. ผลงานแสดงเรื่องแรกของโทนี่คือละครช่อง 3 เรื่องกะรัตรัก นำแสดงโดยแอน ทองประสมและเจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข โดยโทนี่รับบทเป็นลูกของแซม-ยุรนันท์ ภมรมนตรี
5. โทนี่เล่นกีฬาหลายอย่าง เช่น ขี่ม้า ตีกอล์ฟ เล่นไอซ์สเก็ต ก่อนจะพบว่าตนเองไม่ชอบกีฬาเดี่ยว แต่ชอบกีฬาที่เล่นเป็นทีมอย่างฟุตบอลมากกว่า
6. โทนี่เคยชนะการเดินแบบและได้รางวัลเป็นคอร์สเรียนการแสดง นั่นทำให้เขาตกหลุมรักหน่อยๆกับศาสตร์นี้ 
7. ตั้งแต่ทำงานแสดงเต็มตัวครั้งแรก โทนี่มองไปถึงวันเกษียณตัวเองจากอาชีพนักแสดงว่าอยากเป็นผู้กำกับหนัง 

WORDS: SUPHAKDIPA P.
PHOTOS: SOMKIAT K.