หากใครที่ติดตามข่าวเศรษฐกิจและสังคมในช่วงเวลานี้ อาจได้ข่าวของคริปโต หรือ ดัชนีหุ้นหลายๆ ตัวมีความผกผันกันอย่างมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดจากกระแสสังคมต่างๆ รอบโลก แน่นอนว่าหลายๆ วงการเริ่มตื่นตัวจากกระแสดังกล่าว และวงการนึงที่คงจะปฏิเสธไม่ได้ ก็คือวงการแฟชั่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Creative Director ของ Balenciaga อย่าง Demna หยิบยกเอาเรื่องเหล่านี้มาบอกเล่า ผ่านโชว์ล่าสุดอย่าง Spring 23 ในนิวยอร์ค เริ่มต้นกันตั้งแต่สถานที่ในการแสดงโชว์ครั้งนี้ที่ New York Stock Exchange หรือตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์คที่เดมน่าเลือกเป็นแบคกราวให้กับโชว์ครั้งนี้ แน่นอนว่าจะมีอะไรแสดงให้เห็นถึงเรื่องราวของทุนนิยมไปได้ดีกว่าสถานที่นี้ ที่ที่สามารถสร้างเงิน และสูญเสียเงินให้กับใครหลายคนได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งนี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ Balenciagaกลับมาทำแฟชั่นโชว์ในนิวยอร์ค หลังจากห่างหายจากเมืองใหญ่เมืองนี้ไปกว่า 20 ปีเลยทีเดียว
ตามต่อกันมาด้วย Invitation Card ที่ครั้งนี้ Balenciaga เรียกได้ว่า แจกเงินดอลลาร์ให้กับผู้ที่ถูกเชิญให้เข้าร่วมแฟชั่นโชว์กันเลยทีเดียว แต่แน่นอนว่าแบงค์ดอลล่าร์เหล่านั้นไม่สามารถใช้ได้จริงนะ ! ทำได้เพียงแค่เก็บไว้เป็นที่ระลึก เปรียบเสมือนกับกระดาษที่อาจไร้ค่าทางทุนนิยม แต่มีคุณค่าทางจิตใจ ซึ่งบัตรเชิญในครั้งนี้ทาง balenciaga เองก็ได้ทำงานร่วมกันกับ SISSEL TOLAAS ศิลปินและนักค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องของกลิ่น ซึ่งกลายเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจมากสำหรับบัตรเชิญครั้งนี้ เพราะศิลปินคนนี้เชี่ยวชาญในการค้นคว้า และสร้างกลิ่นของเงิน ! พูดง่ายๆ ก็คือ กลิ่นของเงินมันช่างเย้ายวนใจเสียเหลือเกินนั่นเอง
และเมื่อเข้าถึงเวลาของโชว์ เหล่านายแบบและนางแบบต่างเดินกันออกมาในชุด Bondage Suit หรือชุดรัดรูปพันธนาการ ที่ทำให้เรานึกถึงการผูกมัด และการถูกเอารัดเอาเปรียบคล้ายกับทาส แสดงให้เห็นถึงแง่มุมหนึ่งของเดมน่าเอง ที่ต้องการนำเสนอถึงแนวคิดที่ว่า ‘เราทุกคนต่างเปรียบเสมือนทาสของทุนนิยม’ และเขาเอง ก็พาเรามาอยู่ท่ามกลางสถานที่เหล่านั้น ผ่านการเดินทางของผู้คนต่างๆ ที่เราไม่รู้จัก ที่ทำอะไรบางอย่างอย่างรวดเร็ว ให้เหมาะสมกับเวลาอันล้ำค่าในทุกวินาที
แต่แน่นอนว่า แม้เหล่านายแบบ นางแบบจะถูกปิดหน้าปิดตาจนเราไม่รู้ว่าเขาเหล่านั้นคือใครบ้าง เดมน่าย่อมไม่พลาดที่จะบอกเล่าความสวยงามเชิง Artistic ผ่านชุดBondage เหล่านั้น เราจะได้เห็นชุดพันธนาการหลากสีสัน ที่ทั้งสอดคล้อง และตัดกันกับชุดต่างๆที่แบบแต่ละคนได้สวมใส่ จนทำให้เรารู้สึกว่า จริงๆแล้วนี่อาจเป็นอีกAccessories หนึ่งที่น่าสะสมเหมือนกันนะเนี่ย !
อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจในคอลเลคชั่นนี้ของ Balenciaga คงพลาดไม่ได้ที่จะพูดถึงการ Collaboration กันของ Addidas x Balenciaga ที่สร้างปรากฏการณ์อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น Tracksuit, Sport bags, Hoodies, Football Shirt และแน่นอนที่พลาดไม่ได้ก็คือรองเท้า Triple S ในโฉมใหม่นั่นเอง
และหลังจากที่จบโชว์ไปแล้ว สิ่งที่เดมน่าทำเป็นอย่างแรกคือการหยิบเอา Bondage Mask มาสวมใส่เพื่อให้สัมภาษณ์กับเหล่านักข่าวต่างๆ ในนิวยอร์ค ตอกย้ำการเป็น Faceless Human เพื่อแสดงจุดยืนของแนวคิดที่แท้จริงแล้ว คนทุกคนต่างเท่าเทียมกัน ถ้าหากเรามองผ่านเรื่องราวของหน้าตา หรือสถานะออกไป รวมไปถึงคำสัมภาษณ์ของเดมน่า ที่กล่าวไว้ว่า
‘ The most important kind of challenge for any kind of creative is to make a product that is desirable, to create desire. That’s what fashion should do.’
หรือที่หมายความว่า ‘ความท้าทายที่สำคัญที่สุดของการสร้างสรรค์ใดๆ คือการสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการ เพื่อสร้างความปรารถนาให้กับเหล่ามวลมนุษย์ และนั่นคือสิ่งที่วงการแฟชั่นควรทำ’ เรียกได้ว่าตอกย้ำกันจนถึงจุดสุดท้ายว่า ทุนนิยมต่างๆ เกิดขึ้นจากความปราถนาของมนุษย์เองนั่นแแหละ !
และสำหรับใครที่ยังไม่สามารถออกจากบรรยากาศที่แสนจะ Grunge ตามแบบฉบับของ Balenciaga ได้ เราขอแนะนำให้ไปต่อกันที่เพลงในโชว์จาก BFRND อย่าง Hedge Fund Trance กัน
ว่าแล้วก็ไปสนุกกันบนโลกของทุนนิยม แต่อย่าลืมว่าต้องทำทุกอย่างอย่างมีสตินะ !